''บิ๊กเติ้ง''เตือนทัพไทยต้องมืออาชีพ
ที่ประชุมได้มีการรายงานผลการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เวียงจันทน์เกมส์ ที่ประเทศลาว ซึ่งทัพนักกีฬาของไทย คว้ามาได้ 86 เหรียญทอง, 83 เหรียญ เงิน และ 97 เหรียญทองแดง แม้จะครองเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 11 แต่การเอาชนะเวียดนามไปได้แค่ 3 เหรียญทองเท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทยตั้งเอาไว้ที่ 99-100 เหรียญทอง เรียกว่าน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 14 เหรียญทอง หรือ 14 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ นายบรรหาร กล่าวว่า หากหลายสมาคมกีฬายังบริหารงานแบบไม่เป็นมืออาชีพ ไม่มีความทุ่มเทอย่างจริงจัง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ขอทำนายเลยว่า ทัพนักกีฬาของไทยไม่มีทางครองเจ้าเหรียญทองได้แน่ เพราะจะถูกเวียดนาม หรืออินโดนีเซีย แย่งเจ้าเหรียญทองไปครองได้
บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้เสนอต่อที่ประชุมให้จัดตั้งคณานประเมินผลงานนักกีฬาแต่ละสมาคมในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เพื่อสอบถามหาสาเหตุและหาทางแก้ไขปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องที่ 12 สมาคมกีฬา ทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้า รวมทั้งต้องสอบถามเรื่องที่มีนักกีฬาหลายคนไม่ได้รับเงินเบี้ยเลี้ยง หรืออาจจะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงไม่ครบตามที่จะต้องได้รับจริง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
บิ๊กหนุ่ม นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ผลงานอาจจะดูน่าผิดหวัง เพราะคว้าเหรียญทองไม่ได้ถึง 99-100 เหรียญ และมีกีฬาสำคัญ ๆ หลายรายการที่พลาดไปแบบไม่น่าเชื่อ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่สมาคมกีฬาประเมิน ผลงานของตัวเองเกินความเป็นจริง แต่สาเหตุ ใหญ่ที่ทำให้ไทยพลาดเหรียญทองนั้น น่า จะมาจาก 1 การบรรจุกีฬาพื้นบ้าน ทำให้ เวียดนาม ได้เปรียบ เนื่องจากมีความสนิทสนมกับลาว เช่น วูซู, ชัตเติลค็อก (กีฬาเตะลูกขนไก่), ฟินสวิมมิ่ง, 2. บางประเทศมีการดึงนักกีฬาต่างชาติ ด้วยการโอนสัญชาติมาลงเล่นให้ เช่น สิงคโปร์, อินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามกีฬาที่เป็นสากล นักกีฬาไทยก็ทำได้ดี เช่น กรีฑา มีการทำลายสถิติ 8 รายการ, ยิงปืน 6 รายการ แต่หลายสมาคมก็แย่ เช่น คาราเต้โด ขณะที่ นายชุมพล กล่าวว่า จะต้องเร่งหาสาเหตุ และหาแนวทาแก้ไขโดยด่วน รวมทั้งหาข้อสรุปมารายงานให้ได้ แต่สิ่งที่เห็นชัดในการแข่งขันครั้งนี้ก็คือ นักกีฬาไทยผลงานย่ำอยู่กับที่ไม่มีการพัฒนา แต่คู่แข่งชาติอื่น ๆ เริ่มพัฒนาตัวนักกีฬาได้ดีขึ้น
นายกนกพันธุ์ ยังได้สรุปยอดเงินของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่จะมอบให้กับนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน เวียงจันทน์เกมส์ เป็นเงินทั้งหมด 93,285,000 บาท แบ่งเป็น นักกีฬา 69,950,000 บาท, ผู้ฝึกสอน 18,885,000 บาท และสมาคมกีฬา 11,450,000 บาท โดยในรอบปีที่ผ่านมา กองทุนฯ ได้มอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬา 5 รายการ รวมเป็นเงิน 154,224,250 บาท คือ กีฬาเอเชี่ยนมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 เป็นเงิน 10,500,000 บาท, กีฬาเอเชี่ยน ยูธเกมส์ ครั้งที่ 1 เป็นเงิน 9,150,000 บาท, กีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 เป็นเงิน 22,660,000 บาท และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 5 เป็นเงิน 18,629,250 บาท.