บิ๊กอ๊อด โว ไทยติดท็อป 5 เอเชี่ยนเกมส์

ประธานโอลิมปิก ประเมินผลงานนักกีฬาไทยในรอบปี ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมมั่นใจเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว ประเทศจีน จะยังคงติดท็อปไฟว์ แม้ว่าจะต้องเจองานหนักกว่าเมื่อ 4 ปีก่อนแน่ๆ

"บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้ว่าผลงานจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ผ่านมา นักกีฬาไทยหลายกีฬาจะทำผลงานได้ไม่น่าพอใจ ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่หากพิจารณาถึงภาพรวมของผลงานของนักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันมหกรรมกีฬานานาชาติในรอบปี 2552 ที่ผ่านมา ในเชิงของตัวเลขและสถิติแล้ว ถือว่าทัพไทยอยู่ในเกณฑ์ดี

เริ่มจากในศึกเอเชี่ยน ยูธเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่สิงคโปร์ นักกีฬาเยาวชนไทย ได้ที่ 3 ทำได้ 11 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ต่อด้วย เอเชี่ยน มาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ได้ครองเจ้าเหรียญทอง ทำได้ 21 เหรียญทอง 17 เหรียญเงิน 16 เหรียญทองแดง นับเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาไทยได้เจ้าเหรียญทองกีฬาระดับทวีปเอเชีย ซึ่งมีชาติต่างๆ ที่แข็งแกร่งเข้าร่วมกว่า 45 ประเทศ

ขณะที่ เอเชี่ยน อินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เวียดนาม เราได้อันดับ 4 มี 19 เหรียญทอง 17 เหรียญเงิน 34 เหรียญทองแดง ก่อนจะมาปิดท้ายปีด้วยการคว้าเจ้าเหรียญทองในซีเกมส์ที่ประเทศลาว ทำได้ 86 เหรียญทอง 83 เหรียญเงิน 97 เหรียญทองแดง ถือเป็นแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 11 ของไทย

อย่างไรก็ตาม หากเราจะมองลึกเข้าไปในเชิงคุณภาพและมาตรฐานแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าเรายังมีปัญหาปลีกย่อยอีกมากมายที่ต้องปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน เนื่องจากบางชนิดกีฬาสอบไม่ผ่าน ยังทำได้ไม่ดี ทำให้ผลงานออกมาแบบไม่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ภาพรวมก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจอยู่ดี

สำหรับในปี 2553 ซึ่งนักกีฬาไทยมีโปรแกรมหนักในการเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติอีกหลาย รายการนั้น ประธานโอลิมปิกไทย กล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมานั่งวิเคราะห์วางแผนกันใหม่ ว่าจะทำอย่างไรนักกีฬาไทยถึงจะสู้กับคู่แข่งได้ เนื่องจากทุกชาติพัฒนาไปมาก หากเรายังมัวคิดว่าดีแล้ว เก่งแล้ว ก็คงลำบากถือว่าย่ำอยู่กับที่และจะไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าแน่นอน

ส่วนเป้าหมายสำคัญของไทยในปีหน้า จะอยู่ที่เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ถือว่าสำคัญมาก เพราะเราต้องรักษาอันดับท็อป 5 ของเอเชียให้ได้ ส่วนเอเชี่ยน บีชเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่ประเทศโอมาน นั้น ไม่รู้สึกเป็นห่วงมากนักเพราะว่ากีฬาชายหาดของไทยมีประสบการณ์มากกว่าชาติ อื่นๆ แต่ห้ามประมาทเช่นกัน ปิดท้ายที่ยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนท์ใหญ่ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งมีความสำคัญมากแน่นอนเพราะนักกีฬาระดับเยาวชนจะเป็นพื้นฐานที่จะก้าวไป สู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคตด้วย

"เอเชี่ยนเกมส์ ที่จีน ครั้งนี้ เราเจอศึกหนักกว่าเอเชี่ยนเกมส์ ที่กาตาร์ แน่นอน เพราะการเก็บเหรียญทองแต่ละเหรียญจะยากขึ้น เพราะว่าเจ้าภาพตั้งเป้าครองเจ้าเหรียญทองเท่านั้น ขณะที่ กีฬาความหวังของเราหลายชนิดก็ต้องไปแย่งชิงกับเจ้าภาพด้วยเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม หากเรามีการเก็บตัวตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นไป ผมก็เชื่อว่าเรามีโอกาสทำผลงานที่ดีได้ และหากเก็บตัวอย่างจริงจังสัก 9 เดือนเต็ม ก็น่าจะเพียงพอเช่นกัน" บิ๊กอ๊อด กล่าว