ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ในมุมมองต่างชาติ..

เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า ศึกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินสยามอย่าง “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” คือลีกฟุตบอลที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนอุษาคเนย์ไปแล้ว ณ ขณะนี้

ด้วยจำนวนผู้ชมในสนามที่มีแนวโน้มแต่จะเพิ่มขึ้นทุกๆปี รวมถึงคุณภาพของนักเตะและมาตรฐานของทีมโดยรวม ที่เยี่ยมยอดเกรียงไกรกว่าชาติใดในอาเซียน จนเกือบจะก้าวไปทันยอดลีกระดับท็อปของทวีปเอเชียแล้ว มันจึงยากที่จะกล่าวคำปฏิเสธว่า “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ไม่ใช่ลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในดินแดนอาเซียนได้

ฉะนั้น! เมื่อมันคือลีกฟุตบอลที่แข็งแกร่งและน่าสนใจที่สุดในย่านอาเซียน มันจึงหลีกเลี่ยงที่จะได้รับการจับตามองจากบรรดากูรูสื่อกีฬายักษ์ใหญ่จากต่างประเทศไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ก่อนที่ศึกฟุตบอล “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก”  ฤดูกาล 2015 จะออกสตาร์ทตัวอย่างเป็นทางการในเวลาดีแดดร่มลมตกหกโมงเย็นวันนี้ ผมจึงขอหยิบ “มุมมอง” ที่บรรดากูรูสื่อกีฬายักษ์ใหญ่จากต่างประเทศมีต่อฟุตบอล “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาล 2015 ซึ่งน่าสนใจไม่น้อยเลยมานำเสนอกันครับ

เรื่องแรกเลยก็คือ การมาของอดีตนักเตะค่าตัว 9 ล้านยูโรอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต

ดาวยิงชาวบราซิลถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด “แชมป์เก่า” ดึงตัวมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ ซึ่งด้วยชื่อชั้นที่เคยถูก โอลิมเปียกอส ซื้อมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 9 ล้านยูโร รวมถึงการที่เคยมีข่าวว่าได้รับความสนใจจากสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และ เชลซี  บวกกับอายุอานามที่ยังไม่มากไม่มายเพียงแค่ 27 ปี จึงทำให้ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต คือผู้เล่นที่น่าจับตามองอย่างมากใน “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาล 2015 นี้

เรื่องที่ 2 ก็คือการกลับบ้านของซูเปอร์สตาร์ดาวยิงของไทยอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา

หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการลงเล่นกับ อูเด อัลเมเรีย ในสเปน บัดนี้ “เทพมุ้ย” ของแฟนฟุตบอลชาวไทยได้หวนกลับมาสู่เวทีลีกสูงสุดของไทยอีกครั้ง ภายใต้สีเสื้อ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นั่นจึงน่าสนใจว่าการกลับมาของซูเปอร์สตาร์ดาวยิงรายนี้จะสามารถเค้นฟอร์มเก่งที่เคยมี จนช่วยให้ทีม กิเลนผยอง หวนกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งหรือไม่

เรื่องที่ 3 ก็คือความเข้มข้นในการช่วงชิงตำแหน่ง “ท็อปไฟว์”

ปฏิเสธไม่ได้หลายทีมในศึก “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ตั้ง “เป้าหมาย” กับฤดูกาลใหม่ที่จะมาถึงเอาไว้ที่การจบอยู่ในอันดับ “ท็อปไฟว์”

เช่น สุพรรณบุรี เอฟซี ที่เมื่อฤดูกาลก่อนจบด้วยอันดับที่ 6 ของตาราง ซึ่ง “เป้าหมาย” ในฤดูกาลนี้ของพวกเขาคือ การจบในตำแหน่งที่ดีกว่าเดิมหรืออีกนัยหนึ่งก็คือการติด “ท็อปไฟว์" หรือ แบงค็อก ยูไนเต็ด เองก็เป็นอีกทีมหนึ่งที่ตั้ง “เป้าหมาย” ด้วยการจบในตำแหน่ง “ท็อปไฟว์” จากการเปิดเผยของกุนซืออย่าง มาโน โพลกิ้ง รวมถึง อาร์มี่ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมแกร่งก็มี “เป้าหมาย” ในการจบ “ท็อปไฟว์”  เช่นกัน

ดังนั้นด้วยจำนวนทีมที่มี “เป้าหมาย” ในการลุ้นจบ “ท็อปไฟว์”  มากขึ้นมันจึงทำให้ "โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก" ฤดูกาลนี้น่าสนใจอย่างมาก

เรื่องที่ 4 ก็คือ “น้องใหม่” ที่น่ากลัว

หนึ่งในทีม “น้องใหม่” ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาในปีนี้ก็คือ “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี แต่แม้พวกเขาจะเป็น “น้องใหม่” ของลีกสูงสุดแดนสยาม แต่ทว่าก็เป็น “น้องใหม่” ที่เต็มไปด้วยความพร้อมจนน่ากลัว

การได้ตัวนักเตะอย่าง บียอร์น ลินเดมันด์ หรือ โดมินิค อดียาห์ ดาวยิงอดีตทีมชาติกาน่า และ เอซี มิลาน สร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมขึ้นมาทันที เมื่อผสมรวมกับสนามที่มีความพร้อม และกองเชียร์ที่มีหลักหมื่นคน จึงทำให้น่าจับตามองว่าทีม “สวาทแคท” จะสร้าง “บิ๊ก อิมแพค” ให้เกิดขึ้นกับ "โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก" ฤดูกาลนี้หรือไม่

เรื่องสุดท้ายก็คือ บททดสอบฮีโร่ของชาติ

เหล่านักเตะวัยหนุ่มทีมชาติไทยที่สามารถเถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ คือ ฮีโร่ของชาติอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่สิ่งที่น่าจับตามองก็คือ บรรดาแข้งช้างศึกเหล่านี้จะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่สุดยอดของพวกเขาเอาไว้ได้และแสดงมันออกมาใน “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ได้หรือไม่

ทั้งหมดคือ “มุมมอง” จากบรรดากูรูสื่อกีฬายักษ์ใหญ่จากต่างประเทศที่ให้จับตาประเด็นสำคัญของศึก “โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาลนี้ ซึ่งแสดงว่าฟุตบอลไทยก็ได้รับความสนใจจากต่างชาติเช่นกันและช่วยน่าจะเพิ่มอรรถรสในการรับชมเกมของแฟนฟุตบอลชาวไทยได้ไม่มากก็น้อยครับ

Boom