อลัน เชพเพิร์ด : นักบินอวกาศ ผู้ลักลอบนำกอล์ฟไปตีบนดวงจันทร์คนแรกของโลก
ยูริ กาการิน คือชื่อที่ใครหลายคนจดจำได้ จากการเป็นมนุษย์คนแรกที่เดินทางไปโคจรรอบโลก ส่งให้สหภาพโซเวียตยึดครองความได้เปรียบในการสำรวจอวกาศยุคแรกไปโดยปริยาย
แต่เชื่อหรือไม่ ว่าตำแหน่งดังกล่าวเคยเกือบเป็นของ อลัน เชพเพิร์ด ทหารเรือหนุ่มผู้ผ่านประสบการณ์รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนผันตัวมาเป็นนักบินทดสอบ และถูกนาซาคัดเลือกให้เป็นนักบินอวกาศกลุ่มแรกของประเทศ ก่อนที่อุปสรรคการเมืองและปัญหาเชิงเทคนิคจะทำให้เที่ยวบินของเขาต้องล่าช้าออกไป
ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหาสุขภาพของเจ้าตัว รวมถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลและประชาชนที่น้อยลง เกือบทำให้หนึ่งช่วงเวลาประวัติศาสตร์ อย่างการตีกอล์ฟบนดวงจันทร์ไม่เกิดขึ้น ... เรื่องราวการเล่นกีฬานอกโลกครั้งแรกนั้นเป็นอย่างไร Main Stand จะพาทุกคนไปดูกัน
ชีวิตในวัยเยาว์
อลัน เชพเพิร์ด เติบโตมาด้วยผลการเรียนที่ดี และมีความหลงใหลในการบิน เขาได้ประดิษฐ์โมเดลเครื่องบินจำลองขึ้น ในระหว่างกำลังเรียนอยู่ในช่วงไฮสคูล พร้อมกับทำงานพิเศษให้กับสนามบินแมนเชสเตอร์ ในรัฐนิวแฮมเชียร์ เพื่อแลกกับโอกาสขึ้นบินพร้อมกับบรรดานักบินฝึกหัด
เมื่อจบการศึกษา ประจวบเหมาะกับช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น เชพเพิร์ด ตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพเรือสหรัฐฯ ตั้งแต่อายุได้เพียง 16 ปีเท่านั้น ทว่าเนื่องจากยังเด็กเกินไป เขาจึงถูกส่งตัวไปยังโรงเรียนเตรียมทหารก่อน 1 ปี แล้วจึงได้เข้ามาฝึกเป็นทหารเรือสมใจ
Photo : Naval History and Heritage Command - Navy.mil
ในช่วงเวลานี้ เชพเพิร์ด ให้ความสนใจกับกีฬาทางน้ำเป็นอย่างยิ่ง เขาลงแข่งขันว่ายน้ำและพายเรือ ซึ่ง เชพเพิร์ด สามารถคว้าชัยชนะระหว่างแข่งขันกีฬาภายในค่ายได้หลายรายการ พร้อมกับเรียนรู้วิธีขับเรือชนิดต่าง ๆ ที่มีอยู่ในค่าย ตั้งแต่เรือพายลำแรก ไปจนถึงเรือใบขนาด 27 เมตรเลยทีเดียว
เชพเพิร์ด เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยประจำอยู่บนเรือพิฆาต USS Cogswell และเมื่อสงครามจบลง เขาได้เข้าร่วมฝึกเป็นนักบินในกองทัพเรือ ตามด้วยการเป็นนักบินทดสอบ ผู้ได้ลองบังคับเครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ เพื่อรับรองความปลอดภัยให้กับมัน
สู่การเป็นนักบินอวกาศ
ในปลายปี 1957 สหรัฐอเมริกา กำลังขวัญผวาจากการที่โซเวียตสามารถส่ง สปุตนิก 1 ดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ ส่งผลให้ประธานาธิบดี ดไวท์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ตัดสินใจก่อตั้งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ นาซา ขึ้น เพื่อดูแลกิจการอวกาศภาคพลเรือนในประเทศ พูดง่าย ๆ ก็คือตั้งมาท้าชนกับโซเวียตในการสำรวจอวกาศนั่นเอง
และเพื่อเป็นการแสดงศักยภาพ นาซา จึงได้คัดเลือกนักบินอวกาศกลุ่มแรกเข้ามาฝึก เพื่อเตรียมส่งขึ้นยานและออกเดินทางไปนอกโลก
เนื่องจากไม่มีใครทราบว่าอวกาศจะโหดร้ายเพียงใด ทำให้พวกเขาต้องเลือกบุคคลที่มีร่างกายแข็งแรง ผ่านการฝึกมาแล้ว อายุไม่เกิน 40 ปี เป็นนักบินทดสอบ มีชั่วโมงบินไม่น้อยกว่า 1,500 ชั่วโมง จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และส่วนสูงไม่เกิน 180 เซนติเมตร เพื่อจะได้นั่งในยานเมอร์คิวรี่ ยานอวกาศรุ่นแรกที่มีขนาดเล็กนี้ได้
Photo : NASA
เชพเพิร์ด ได้รับเลือกอย่างไร้ข้อสงสัย และหลังจากการฝึกที่เข้มข้น กับจิตวิญญาณการแข่งขันที่เต็มเปี่ยมของเขา ทำให้ อลัน เชพเพิร์ด ถูกรับเลือกให้เป็นชาวอเมริกันคนแรกที่จะทะยานไปสู่อวกาศ
ในตอนนั้น สหรัฐฯ มีโอกาสเป็นชาติแรกที่จะส่งมนุษย์ไปอวกาศได้สูงมาก แต่เนื่องจากความกังวลของผู้บริหาร รวมทั้งปัญหาของตัวยานอวกาศที่ต้องถูกซ่อมบำรุง เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง จึงกลายเป็นว่าภารกิจของพวกเขา โดนทางโซเวียตปาดหน้าไปก่อนเพียง 23 วันเท่านั้น
และเมื่อวันปล่อยยานมาถึง เชพเพิร์ด ก็ยังไม่หลุดพ้นจากการเผชิญปัญหาก่อนปล่อยยาน เขาต้องนั่งอยู่ในยานเมอร์คิวรี่นานกว่า 4 ชั่วโมง และไม่อาจกลั้นกระเพาะปัสสาวะของเขาได้อีกต่อไป จนต้องปลดปล่อยมันออกมาขณะยังอยู่ในชุดอวกาศ และให้ของเหลวดังกล่าวไหลเวียนอยู่ในบริเวณแผ่นหลังของเขา (ในภายหลัง ทุกภารกิจของนาซา จึงมีระบบจัดการของเสียจากนักบินอวกาศอยู่)
Photo : Space.com
ท้ายที่สุด จรวดเมอร์คิวรี่-เรดสโตน 3 ก็ได้ทะยานขึ้นสู่อวกาศ กินเวลาทั้งภารกิจรวมเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น แต่ก็เพียงพอจะทำให้นี่เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการสำรวจอวกาศสหรัฐฯ ซึ่งถูกสานต่อมาจนปัจจุบันนี้
เส้นทางของ เชพเพิร์ด ดำเนินไปได้ด้วยดี เขาถูกมอบหมายให้เป็นนักบินอวกาศตัวหลักของอีกสองโครงการอวกาศ ทั้ง เจมิไน และ อพอลโล โดยมีโอกาสได้เป็นมนุษย์คนแรกที่จะไปลงเดินบนดวงจันทร์อีกด้วย
Photo : Britannica
แต่แล้ว โชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา เชพเพิร์ด เกิดอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง พะอืดพะอม และได้ยินเสียงดังแก๊ง ๆ ในหูซ้ายอยู่บ่อยครั้ง เขาพยายามเก็บเรื่องให้เป็นความลับ แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น ทางแพทย์นาซาจึงตรวจพบว่าเขาเป็นโรคเมนิแยร์ หรือโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ และจำต้องสลับมาทำงานในออฟฟิศแทน
อย่างไรก็ตาม ในปี 1968 มีแพทย์ที่สามารถรักษาอาการให้บรรเทาลงได้ จน เชพเพิร์ด สามารถกลับมาเตรียมขึ้นบินได้อีกหน ซึ่งจะเรียกว่านี่เป็นความโชคดีในความโชคร้ายก็คงไม่ผิด เพราะหากไม่ใช่เพราะอาการที่หูชั้นในนี้ เขาจะเสียชีวิตจากเหตุไฟคลอกในยานอพอลโล 1 และไม่ได้ไปลงดวงจันทร์ เพราะอพอลโล 13 เกิดเหตุถังออกซิเจนระเบิดระหว่างทาง
แต่การกลับมาลงดวงจันทร์กับอพอลโล 14 ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเช่นกัน
กอล์ฟบนดวงจันทร์
ระหว่างกำลังฝึกซ้อมทำภารกิจอยู่ บ็อบ โฮป นักแสดงตลกชาวอเมริกัน ได้มาเยี่ยมชมการฝึกของพวกเขา โดยมีจังหวะหนึ่งที่ โฮป นำไม้กอล์ฟมาหวดเล่นระหว่างซ้อมกับเครื่องจำลองสภาวะไร้น้ำหนักบนดวงจันทร์
นั่นได้จุดประกายจิตวิญญาณนักกอล์ฟในตัวของ เชพเพิร์ด ผู้ใช้เวลาระหว่างรักษาหูชั้นในไปลงทุนธุรกิจ และหลงใหลการเล่นกอล์ฟจนเป็นงานอดิเรก กระทั่งเขาเกิดปิ๊งไอเดียว่า การแสดงให้เห็นถึงความต่างของแรงโน้มถ่วงบนดวงจันทร์จากโลกที่ดีที่สุด คือการนำลูกกอล์ฟไปหวดบนดวงจันทร์
แต่ทันทีที่เขาไปขอผู้บริหารนาซา ก็โดนปฏิเสธแบบไม่ใยดี
Photo : Hack the Moon
เพราะในช่วงนั้น นาซาค่อนข้างกังวลต่อกระแสจากสาธารณะ ที่ให้ความสนใจในโครงการอวกาศลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากอพอลโล 11 สามารถไปลงจอดและกลับโลกมาอย่างปลอดภัย หนำซ้ำอุบัติเหตุถังออกซิเจนระเบิดกลางอวกาศของอพอลโล 13 ก็ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้าการสอบสวน และถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่าของการส่งมนุษย์ไปสำรวจดวงจันทร์
อย่างไรก็ตาม เชพเพิร์ด ให้คำมั่นว่าเขาจะออกงบในการนำไม้กอล์ฟนี้ขึ้นไปเอง โดยจะไม่แตะงบทางนาซาสักเหรียญ และจะนำออกมาเล่นในกรณีที่การสำรวจดวงจันทร์ประสบความสำเร็จเท่านั้น
เมื่อทีมบริหารของนาซาเริ่มใจอ่อน เชพเพิร์ด ก็เดินหน้าเต็มกำลัง เขาส่งไม้กอล์ฟเหล็ก 6 จาก Wilson ให้ทีมช่างของนาซานำไปดัดแปลง เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับไม้เก็บตัวอย่างหินบนดวงจันทร์ได้ โดยเมื่อภารกิจใกล้จบ ก่อนจะกลับเข้าสู่ยานลงดวงจันทร์ เชพเพิร์ด จะนำหัวไม้กอล์ฟกับลูกออกมา และออกแรงตีเป็นการส่งท้าย
Photo : NASA
นอกเหนือจากนั้น เขายังได้ใช้เวลาว่างหลังการฝึกซ้อมลงดวงจันทร์ เพื่อเตรียมตัวไปหวดลูกบนบริวารของโลกดวงนี้อีกด้วย เขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับชุดอวกาศที่หนาเตอะ ถุงมือสุดแข็งจนแทบจะขยับไม่ได้ รวมทั้งการเคลื่อนตัวอันแสนยากลำบากในสภาวะแรงโน้มถ่วงเพียง 1 ใน 6 ของโลก
ท้ายที่สุดแล้ว การเดินทางของอพอลโล 14 ก็ประสบความสำเร็จดั่งที่หวัง พร้อมกับ อลัน เชพเพิร์ด ได้หวดลูกกอล์ฟของเขาอย่างสมใจถึง 2 ครั้งด้วยกัน
สิ่งเดียวที่อาจทำให้ใครหลายคนผิดหวัง คือ มีการเล่าขานว่าด้วยแรงโน้มถ่วงที่น้อยของดวงจันทร์ ลูกหวดของ เชพเพิร์ด ควรล่องลอยไปไกลหลายไมล์ ทำลายสถิติทุกอย่างบนโลกได้อย่างไม่ยากเย็น และเผลอ ๆ อาจโคจรรอบดวงจันทร์ได้เลยด้วย
Photo : Astronomy Magazine
แต่จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายอย่างละเอียด กลับพบว่าลูกสามารถเดินทางไปไกลแค่ 24 กับ 40 หลาเท่านั้นเอง ใกล้กว่าที่ใครหลายคนเคยคาดคิดกันไว้ตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่กีฬาบนโลกถูกนำไปเล่นบนดาวดวงอื่นตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำให้สถิติระดับจักรวาลยังพร้อมถูกทำลายได้อยู่ตลอดเวลา ทั้งจากโครงการอาร์ทีมิส ที่เตรียมส่งมนุษย์กลุ่มถัดไปกลับสู่ดวงจันทร์ในอีก 3 ปีต่อจากนี้ หรือการท่องเที่ยวอวกาศในอนาคตอันใกล้ ที่การตีกอล์ฟบนดวงจันทร์ อาจไม่ใช่ฝันกลางวันอีกต่อไป