ปืนใหญ่ ฉลุยศึกชปล.ถล่ม เซลติก 3-1

ปืนใหญ่ ฉลุยศึกชปล.ถล่ม เซลติก 3-1

ปืนใหญ่ ฉลุยศึกชปล.ถล่ม เซลติก 3-1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปืนใหญ่ อาร์เซนอลกด ม้าลายเขียวขาว เซลติก อีก 3-1 ทะลุเข้ารอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมเป็นทีมวางในการจับสลาก ขณะที่ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา ไล่ตีเสมอ สปอร์ติง ลิสบอน 1-1 เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน ด้าน ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด มีสิทธิ์เจอ คริสเตียโน โรนัลโด้ เด็กเก่า และขุนพล ราชันชุดขาว รีล มาดริด ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม

ศีกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟนัดที่ 2 คืนวันพุธที่ 26 สิงหาคม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "ม้าลายเขียวขาว" กลาสโกว์ เซลติก จากสกอตแลนด์ หลังจากนัดแรก อาร์เซนอล บุกไปชนะได้ก่อน 2-0 แต่เกมนี้ไม่มี เชส ฟาเบรกาส กองกลางคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บ นอกจานนี้ โรบิน ฟานเพอร์ซี กองหน้าตัวเก่งก็เป็นเพียงตัวสำรองใช้ นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงมาเล่นร่วมกับ เอดูอาร์โด้ ดาซิลวา

เริ่มเกมขึ้นมา อาร์เซนอล ยังเป็นฝ่ายครองเกมเปิดเกมรุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด นาทีที่ 9 ต่อบอลกันจนเกือบได้ประตูแรก นิคลาส เบนท์เนอร์ สับไกยิงในกรอบเขตโทษ อาร์เธอร์ บูรุช ปัดออกมาเข้าทางให้ เอดูอาร์โด้ เข้าซ้ำโล่งๆ แต่หลุดกรอบออกไป จนถึงนาทีที่ 28 เจ้าถิ่นก็ได้ประตูนำแบบน่ากังขาเมื่อ เอดูอาร์โด้ หลุดไปลากบอลหลบ บูรุช และพุ่งล้มในเขตโทษทั้งๆ ที่ไม่โดนตัว แต่ผู้ตัดสินยังเป่าเป็นจุดโทษ เอดูอาร์โด้ รับหน้าที่สังหารเข้าไป จบครึ่งแรก อาร์เซนอล นำ 1-0 พร้อมสกอร์ 2 นัดห่างเป็น 3-0

เข้าครึ่งหลังเจ้าถิ่นยังกลับมาเล่นได้อย่างดุดันเปิดเกมรุกเข้าใส่เหมือนเดิม นาทีที่ 53 ก็มาได้ประตูเพิ่มอีกจากการเดินเกมมาทางซ้าย อาบู ดิยาร์บี ผ่านบอลเข้าเขตโทษให้ เอมมานูเอล เอบูเอ แตะหลบหนึ่งจังหวะและยิงที่บริเวณจุดโทษย้อนเข้าเสาแรกเป็น 2-0 จากนั้นนาทีที่ 74 อาร์เซนอล ยังมาได้ประตูเพิ่มอีกจากการประสานงานของ 2 ตัวสำรอง แอรอน แรมซีย์ ไหลบอลให้ อังเดร อาร์ชาวิน พลิกตัวยิงในเขตโทษเข้าไปเป็น 3-0

อย่างไรก็ตาม เซลติก มาตีไข่แตกได้จาก มัสซิโม โดนาติ ในนาทีสุดท้าย จบเกม อาร์เซนอล ชนะ 3-1 เข้ารอบด้วยประตูรวมถึง 5-1 เข้ารอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ อีกทั้งยังถูกยกให้เป็นทีมวางอันดับ 1 ในการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

" ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนตินา เล่นที่สนามอาร์เตมิโอ ฟรังคี พบกับ สปอร์ติง ลิสบอน จากโปรตุเกส โดนเกมนัดแรกเสมอกันมา 2-2 ทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นดูจะไม่เน้นเกมรุกเท่าไรนัก พยายามเล่นบอลสกัดเอาแน่นอนไว้ก่อน ทำให้ไม่ได้เก็บบอลเดินเกมมากนัก ผิดกับทางทีมเยือนที่พยายามทำเกมรุกอยู่ตลอด จนนาทีที่ 35 ทีมเยือนได้ฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา เจา มูตินโญ่ ยิงข้ามกำแพงเสียบมุมขวาอย่างสวยงาม สปอร์ติง จึงนำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก

ช่วงครึ่งหลัง ฟิออเรนตินา แก้เกมด้วยการส่ง สเตฟาน โยเวติช ดาวรุ่งมอนเตเนโกร ลงมาเสริมเกมรุกทำให้เกมดูมีชีวิตชีวามากขึ้น นาทีที่ 54 ก็สามารถตีเสมอได้เมื่อ โยเวติช เก็บบอลได้ในเขตโทษทางซ้ายล็อกบอลกลับมาเข้าเท้าขวาก่อนยิงเสียบเสาแรกเป็น 1-1 และทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกมจึงเสมอกันไป รวม 2 นัดเสมอกัน 3-3 เป็น ฟิออเรนตินา ที่เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน

ผลคู่อื่นๆ อาโปเอล นิโคเซีย ของไซปรัส ชนะ เอฟซี โคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก 3-1 อาโปเอล เข้ารอบ 3-2, โอลิมเปียกอส จากกรีซ ชนะ เชอรีฟฟ์ ของมอลโดวา 1-0 โอลิมเปียกอสเข้ารอบ 3-0 และ สตุ๊ตการ์ท ของเยอรมนี เสมอ ทิมิซัวรา จากโรมาเนีย 0-0 สตุ๊ตการ์ท เข้ารอบ 2-0

ด้านการจับสลากแบ่งกลุ่ม ในรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้ายมีความเป็นไปได้ที่ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเผชิญหน้ากับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาราเก่าของทีมที่ย้ายไปอยู่กับ "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ตั้งแต่รอบนี้ หลังจากที่ 4 ทีมตัวแทนจากอังกฤษต่างได้เป็นทีมวางของกลุ่มทั้งหมดเช่นเดียวกับ บาร์เซโลนา แชมป์เก่าจากสเปน, บาเยิร์น มิวนิค ของเยอรมนี, เอซี มิลาน ของอิตาลี และ เซบีญา ของสเปน ขณะที่ รีล มาดริด เป็นเพียงแค่ทีมวางอันดับ 2 ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ไปอยู่กลุ่มเดียวกับ บาร์ซ่า และ เซบีญา 2 ทีมจากสเปนด้วยกัน จึงมีโอกาสสูงที่จะไปอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับทีมจากอังกฤษคือ แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล และ เชลซี

นอกจากนี้ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน แชมป์อิตาลีก็ถูกจัดเป็นทีมวางอันดับ 2 เช่นเดียวกัน และทีมของ ชูเซ่ มูรินโญ่ อาจจะต้องไปอยู่กลุ่มเดียวกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมเก่าของ มูรินโญ่ เช่นเดียวกัน โดยทีมวางอันดับ 2 นอกจาก 2 ทีมที่กล่าวมาแล้วยังมี ลียง, ซีเอสเคเอ มอสโก และ ยูเวนตุส ส่วนทีมดังอย่าง แอต.มาดริด, บอร์กโดซ์ และ สตุ๊ตการ์ท เป็นเพียงแค่ทีมวางอันดับ 3 เท่านั้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook