สมชาย จันทรวีระ : ชายวัย 58 ผู้จบมาราธอนทุกสัปดาห์ตลอด 20 ปี

สมชาย จันทรวีระ : ชายวัย 58 ผู้จบมาราธอนทุกสัปดาห์ตลอด 20 ปี

สมชาย จันทรวีระ : ชายวัย 58 ผู้จบมาราธอนทุกสัปดาห์ตลอด 20 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"การจบมาราธอนให้ได้สักครั้งในชีวิต ?" อาจเป็นเป้าหมายของใครหลายคน เพราะการพิชิตระยะทาง 42.195 กิโลเมตรนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่ง ต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงและยาวนาน 

แต่สำหรับ "สมชาย จันทรวีระ" หรือ เฮียสมชาย หนุ่มรุ่นใหญ่วัย 58 ปี เขาสามารถวิ่งจบระยะทางดังกล่าวได้ทุกอาทิตย์ ต่อเนื่องกันมานานถึง 20 ปี !  

ทั้งที่ช่วงครึ่งแรกของชีวิต "สมชาย" แทบไม่เคยมีเรื่องวิ่งเข้ามาอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ ... ทำไมเขาต้องจบ "มาราธอน" ทุกสัปดาห์ แม้อายุขยับเข้าใกล้หลัก 6 อันเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนมากต้องรีไทร์ตัวเองจากการทำงาน เพื่อมาชีวิตช่วงบั้นปลายอย่างสงบสุข ADVERTISEMENT

ตีสี่ในเช้าวันอาทิตย์

4:30 นาฬิกา เช้ามืดวันอาทิตย์ ... คงเป็นเวลาที่ผู้คนต่างหลับใหล เพื่อชาร์จแบตพลังงานกันเต็มอิ่มในเช้าสุดท้ายของสัปดาห์
ช่วงวันและเวลาเดียวกัน ภายใน "สวนสวยแต๋จิ๋ว" สถานที่ถูกดัดแปลงจากสุสานมาเป็นแหล่งออกกำลังกายที่สวยงามและร่มรื่น ย่านสาธร กรุงเทพมหานคร  

ชายสูงวัยคนหนึ่งนามว่า สมชาย จันทรวีระ กำลังเริ่มออกสตาร์ทวิ่งทางไกล โดยมีจุดหมายอยู่ที่ระยะทาง 42.195 เมตร อันเป็นสิ่งที่เขาทำสม่ำเสมอมานานกว่า 20 ปี 

"เมื่อก่อนผมไม่มีความคิดอยากจะวิ่งเลยนะ" สมชาย เอ่ยกับเรา หลังเพิ่งวิ่งจบมาราธอนอีกครั้งในชีวิต "ผมเป็นสายออกกำลังกายด้วยการยกเวตเหล็ก แถวสวมลุมพินี มาตลอด 16 ปี จากน้ำหนัก 40 กิโลกว่า ๆ ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 80 กิโลกรัม"

 

"จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจวิ่ง เพราะผมบังเอิญเห็นคนสูงอายุเขาวิ่งผ่านหน้าผมไป ผมจึงลองจ็อกกิ้งตามดู คิดว่าตัวเองแข็งแรงมากพอ พอวิ่งไปได้แค่ 500 เมตรก็ไม่ไหว ลุกไปนั่งกับฟุตบาธ ตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็ตั้งเป้าหมายว่าต้องวิ่งให้ได้ จึงเริ่มต้นฝึกซ้อมวิ่ง" ท่อนแขนขนาดใหญ่ และร่างกายบึกบึนกำยำของ สมชาย ยังคงทิ้งร่องรอยความเป็นอดีตจอมพลังนักกล้าม ตามคำบอกเล่า

ย้อนกลับตอนปี 2000 สมชาย ในวัย 37 ปี อาจมีต้นทุนร่างกายดี เพราะเป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ รูปร่างสรีระสวยงาม แต่เขาก็รับรู้ได้ตั้งแต่วันแรกเลยว่า การจะเปลี่ยนมาสายวิ่งนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากใช้การทำงานของกล้ามเนื้อคนละแบบ ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ กว่าจะจบมาราธอนแรกได้ เขาใช้เวลาถึง 1 ปีกว่า 


"ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องวิ่งให้จบมาราธอน ค่อย ๆ ขยับสเต็ปตัวเองไปทีละขั้น กว่าผมจะวิ่งครบรอบสวมลุมพินี ระยะทาง 2.5 กิโลฯ ผมใช้เวลาตั้ง 1-2 เดือน จากนั้นปรับสภาพร่างกายเรื่อย ๆ เพิ่มระยะทางจาก 2 รอบ 3 รอบ จนมาเป็นจบมินิมาราธอนได้" 

"โชคดีที่หัวใจผมทำงานได้ดี และปอดมีความแข็งแรง ซึ่งได้มาจากตอนยกเวตเหล็ก ตอนนั้นคิดว่า ถ้าผมอยากวิ่งได้ดี ผมต้องให้เวลากับมัน เพราะต้องรอให้กล้ามเนื้อมันสั่งสมประสบการณ์ ไม่ใช่จู่ ๆ จะกระโดดเข้าไปวิ่งมาราธอนเลย มันจะทำให้คุณบาดเจ็บได้ง่าย หลังผ่านปีแรก ผมใช้เวลาอีก 3 เดือนเต็ม ๆ เพื่อซ้อมสำหรับการฝึกมาราธอน และผมก็ทำได้"

"หลังจากจบมาราธอนแรกได้ ผมค้นพบว่าตัวเองชอบการวิ่งระยะทางไกลแบบนี้ ผมมีความสุขมาก ก็เลยตั้งเป้ากับตัวเองว่า ขอวิ่งจบให้ได้อาทิตย์ละ 1 มาราธอน เหมือนกับสัปดาห์หนึ่งเราได้ออกกำลังกายแบบสุด ๆ ไปเลย 1 ครั้ง" 

"ปกติตีสี่ครึ่ง คนเขานอนหลับกันหมด ไม่ค่อยมีใครออกมาวิ่งหรอก แต่ผมออกจากบ้านที่หนองแขม ตอนตีสองครึ่ง ขับรถมาที่นี่ 30 กว่ากิโล เพื่อมาวิ่งทุกวันอาทิตย์" สมชาย กล่าวอย่างอารมณ์ดี

ความสม่ำเสมอคือกุญแจพิชิตมาราธอน 

หลังจากสนทนาไปได้สักพัก เราสังเกตดูอาการของ สมชาย ในวัย 58 ปีที่เพิ่งวิ่งระยะทาง 42.195 กิโลเมตรจบมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ 

ยอมรับว่ารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะสภาพร่างกายของเขาดูดีมาก ไม่มีอาการออกอาการเหนื่อยอ่อนโรยแรงให้เห็น และดูยังไงก็ไม่หมือนเป็นคนที่เคยผ่านอาการบาดเจ็บหัวเข่าข้างขวามาก่อน

 

"ช่วงที่ผมหัดวิ่งมาราธอนใหม่ ๆ ผมยังไม่ค่อยมีระเบียบวินัยมากขนาดนี้ จนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ ต้องพักไป 3 เดือน ก็เลยได้ค้นพบว่า เราบาดเจ็บเพราะซ้อมไม่ถึง เราวางแผนไม่ดีพอ  ผมจึงให้ความสำคัญกับการความสม่ำเสมอในฝึกซ้อม และการวางแผน"

"เพราะมาราธอน ต้องมีเร็ว มีช้า วัยรุ่นบางคนใจร้อน มาถึงก็อัด ๆ พอถึงระยะทาง 34-35 กิโลเมตร ล้า บาดเจ็บ เพราะเร่งมากเกินไป เชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ ฉะนั้นตอนกิโลเมตรที่ 35 คุณอย่าปล่อยให้กำลังหมด ถ้าแรงหมด ขาแข็ง เกมนี้จบลงทันที ส่วนใหญ่คนที่ไม่จบมาราธอน โดน cut-off ออก เพราะใจร้อนมากเกินไป"

"ผมสอนน้อง ๆ เสมอว่า มาราธอน 7 กิโลเมตรสุดท้ายคือช่วงเวลาที่สนุกสุด เพราะจะได้แซงคนที่วิ่งนำเราทีละคน หัวใจมันพองโต ความรู้สึกมันแบบเราทำได้ สุดยอด ! เวลาวิ่งต้องรู้จักเผื่อแรงไว้บ้าง เพื่อที่ในช่วง 35-42 กิโลฯ เราจะได้มีกำลังเหลือไว้ติดเครื่อง ทำเวลาที่ต้องการ"

 

เคล็ดลับการวิ่งมาราธอนสำเร็จทุกสัปดาห์ของ สมชาย จันทรวีระ อยู่ที่ระเบียบวินัยในการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ความอดทน ใจเย็น ไม่เร่งรีบมากเกินไป ความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บจึงมีน้อย อีกทั้งช่วยให้กล้ามเนื้อของเขา มีความทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่อง แม้ต้องวิ่งทางไกล และอายุอานามมากขึ้นทุกปี  

ไม่เพียงเท่านั้น "เฮียสมชาย" ปอดเหล็กขาประจำสวนสวยแต๋จิ๋ว ยังคอยช่วยสอนและเทรนให้กับนักวิ่งหน้าใหม่ ที่มีความต้องการอยากจบมาราธอน โดยใช้ประสบการณ์ และวิธีการของตนมาถ่ายทอด จนหลายคนที่ผ่านมือเขา กลายเป็น Finisher พิชิตมาราธอนได้สำเร็จ 

"ถ้าคุณมีความพยายาม มีความตั้งใจจริง อยากจบมาราธอน คุณมาเจอผมได้ ตี 4 ครึ่งทุกวันอาทิตย์ ที่สวนสวยแต๋จิ๋ว ถ้าไม่ติดธุระจริง ๆ ผมมาตลอด ซึ่งปี ๆ หนึ่งผมติดธุระวันอาทิตย์แค่ไม่กี่ครั้งหรอก ถ้าผมไม่ได้มาวันอาทิตย์ ผมก็จะมาชดเชยการวิ่งมาราธอนในวันธรรมดา ยังไงสัปดาห์หนึ่งก็ต้องวิ่ง 42 กิโลฯ ให้ได้"

"เรื่องความเร็ว สปีด คุณสามารถฝึกฝนเองได้ แต่มาราธอนต้องใช้ความเหนียว ความทนทาน ตรงนี้แหละ ผมสามารถสอนคุณได้ ขออย่างเดียว 3 เดือน หรือ 12 อาทิตย์สุดท้ายก่อนลงงานวิ่งมาราธอน พยายามอย่าขาดซ้อม ถ้าติดธุระจริง ๆ ต้องหาวันชดเชย เพราะกล้ามเนื้อคุณจะหดตัวลง เวลาที่เคยตั้งใจไว้ อาจทำไม่ได้"

"ขนาดผมวิ่งสม่ำเสมอ สมมติถ้าไม่ได้วิ่ง 2 สัปดาห์ ระยะทางผมหายไป 10 กิโลเมตรเลยนะ ต้องกลับมาสร้างกล้ามเนื้อใหม่ หรือถ้าคุณเคยพิชิตมาราธอนแล้ว อย่าทิ้งมันนานเกินไป พยายามหาเวลามาฝึกวิ่งบ้าง เพื่อให้กล้ามเนื้อคุณได้ทำงาน พอคุณจะกลับมาวิ่งอีกครั้งก็ไม่ยากแล้ว"

"ถ้ามีระเบียบวินัย มีความตั้งใจ หมั่นฝึกซ้อมสม่ำเสมอ คุณจบมาราธอนได้แน่นอน และโอกาสที่จะบาดเจ็บมีน้อย เพราะคุณซ้อมดี ซ้อมถึง แต่ถ้าคุณไม่มีวินัย ไม่ให้เวลากับมันมากพอ คิดว่าจะไปหวังเอาข้างหน้า อย่าไปซื้อเลยครับเบอร์วิ่ง เสียเวลา แถมเสี่ยงเจ็บตัวอีก"

ยิ่งวิ่ง ยิ่งแข็งแรง

หลังจากตรากตรำทำงานรับจ้างทั่วไปมาตั้งแต่วัยหนุ่ม ปัจจุบัน "สมชาย จันทรวีระ" เกษียณตัวเองออกจากชีวิตงาน กลายมาเป็นพ่อบ้าน ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการวิ่งมาราธอน

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่เขาออกบ้ายมาวิ่งระยะไกลที่นี่ทุกสัปดาห์ "เฮียสมชาย" ค้นพบเรื่องน่าอัศจรรย์อีกอย่าง คือ ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น เขากลับมีประสิทธิภาพในการวิ่งมากกว่าเดิม 

"ทุกปีผมจะประเมินร่างกายตัวเองว่า วิ่งไหวแค่ไหน แต่กลายเป็นว่ายิ่งฝึกยิ่งวิ่งได้ดีกว่าเดิม เมื่อก่อนผมวิ่งจบมาราธอน ใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่า แต่ทุกวันนี้ผมวิ่ง 42.195 กิโลเมตร โดยใช้เวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมง ของผมอยู่ที่ประมาณ 3.50 ชั่วโมง อายุมากขึ้น เรากลับทำได้ดีกว่าตอนอายุน้อย มันคงเหมือนกับมีดยิ่งลับ ยิ่งคม"

นอกจากนี้ สมชาย จันทรวีระ ยังเผยอีกว่า การวิ่งมาราธอน ช่วยให้สุขภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้นมาก เขากลายเป็นคนใจเย็น สุขุม อดทน เห็นอกเห็นใจคนอื่น รวมถึงห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ ที่คนรุ่นเดียวกันประสบพบเจอ 

ก่อนจากกัน "สมชาย" หวังว่าเรื่องราวของเขา จะช่วยไปจุดประกายให้คนวัยหนุ่มสาว หันมาดูแลสุขภาพ และเริ่มต้นออกมาวิ่งในวันที่สภาพร่างกายยังดีอยู่ อย่าปล่อยให้ถึงวันที่สุขภาพสึกกร่อน และต้องใช้การออกกำลังกายเพื่อบำบัดและรักษาความเจ็บป่วย 


"การออกกำลังกายคือหัวใจของผม ผมมีความสุขกับการวิ่งมาก ผมเฝ้ารอให้ถึงวันอาทิตย์ ที่ผมจะได้ออกมาวิ่งมาราธอน ผมชอบความรู้สึกนั้น มันสนุก มันฟิน แถมยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง หัวใจทำงานได้ดี นี่แหละความสุขที่แท้จริงของชีวิต ที่เราสร้างมันได้"

"ถ้าผมไม่ได้วิ่งมาราธอน หรือชอบออกกำลังกาย ป่านนี้ผมอาจเป็นคนแก่ที่เต็มไปด้วยโรคเบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือด เส้นเลือดอุดตัน เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันหลายคนป่วยเป็นโรคพวกนี้ แต่เพราะผมให้ความสำคัญ และให้เวลากับการออกกำลังกาย สุขภาพผมจึงดี ไม่ต้องเป็นภาระให้ลูกหลาน"

"ผมอยากให้คนวัยหนุ่มสาว อายุ 20-30 ปี หันมาออกกำลังกาย ในตอนที่ร่างกายยังดี ทุกวันนี้โรคภัยไข้เจ็บมันใกล้ตัวเรากว่าที่คิด วัยรุ่นก็สามารถเป็นเบาหวานได้ อย่ารอให้ถึงวัย 40 อัพ หรือตอนที่มีโรคแล้วค่อยออกมาวิ่ง" 

"ถ้าวันนี้คุณยังไม่ได้เริ่มต้น ก็อยากให้ลองให้ความสำคัญกับมันสักนิดเรื่องการออกกำลังกาย เพราะสุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์ก็คือตัวคุณเอง ที่มีสุขภาพดี และชีวิตที่ยืนยาวขึ้น" สมชาย ชายวัย 58 ที่ดูแข็งแรงและเฟิร์มสุด ๆ กล่าวทิ้งท้าย 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook