วิเคราะห์ก่อนเกม! ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ซิตี้ ซูเปอร์บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม! ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ซิตี้ ซูเปอร์บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม! ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ซิตี้ ซูเปอร์บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถือเป็นเกมสำคัญสำหรับทั้ง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่นและทางด้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเยือนเลยทีเดียว เพราะคะแนนในเกมนี้จะส่งผลต่ออนาคตในการลุ้นแชมป์ช่วงที่เหลือของฤดูกาลได้ทันที แต่ก่อนที่เกมจะเริ่มเราลองไปดูภาพรวมของทั้งสองทีมกันก่อน

1. ทางรอดของ หงส์แดงJurgen KloppJurgen KloppTottenham Hotspur v Liverpool - Premier League | Marc Atkins/Getty Images

อย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล ชั่วโมงนี้แตกต่างจากทีมแชมป์ในฤดูกาลก่อน ทั้งความมั่นใจ ฟอร์มการเล่น รวมถึงสภาพความพร้อมทีม ทำให้ไม่แปลกที่หลายคนจะมองว่าแม้จะได้เล่นในบ้าน แต่ เรือใบสีฟ้า ก็ดูจะเป็นต่อพวกเขาอยู่พอสมควร ลำพังตัวผู้เล่นครบยังลำบากเลือดตาแทบกระเด็ด แต่นี่แผงหลังตัวหลักไม่อยู่ทั้งแผง นายทวารมือหนึ่งก็ยังไม่ฟิต แถมแนวรุกก็ยังอยู่ในช่วงขาดความมั่นใจ แต่อย่างไรซะทางรอดก็ยังพอมีถ้าหาก...

แฟนบอลหลายท่านอาจจะคิดว่า หงส์แดง จะมาในรูปแบบตั้งรับอย่างเหนี่ยวแน่นและรอโอกาสในการเล่นเกมสวนกลับ แต่ แมนฯ ซิตี้ ในชั่วโมงนี้ที่ชนะมาแล้ว 13 เกมติดและกำลังมั่นใจสุด ๆ บอกได้เลยว่าหากจะปล่อยให้เปิดเกมบุกเข้าใส่ตลอด 90 นาที มีแต่ตายกับตายเท่านั้น และมีแววอาจโดนไม่ต่ำกว่า 3-4 ประตูเป็นแน่ เพราะฉนั้นลองมองในมุมกลับหากพวกเขากลับมาใช้แนวทางที่เคยพาพวกเขาคว้าแชมป์อย่าง "เยอร์เกน เพลสซิ่ง" ไล่บดคู่แข่งไม่ให้ตั้งเกมขึ้นมาง่าย ๆ รวมถึงพยายามครองบอลและเปิดเกมบุกเข้าใส่ ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเล่นเพื่อ 1 คะแนนหรือตั้งรับเพื่อรอโดนยิงก็เป็นได้ !

2. ไร้ เดอ บรอยน์ ก็ไร้ปัญหาKevin De BruyneKevin De BruyneManchester City v Brighton & Hove Albion - Premier League | Clive Brunskill/Getty Images

เป็นเวลาร่วมเดือนแล้วที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไร้ซึ่งเพลย์เมคเกอร์อันดับหนึ่งของทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ จากอาการบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริงเมื่อราวต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เราคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการหายไปของเขานั้นมันแทบไม่ส่งผลอะไรกับทีมเลยตลอด 4-5 สัปดาห์ที่ผ่านมา พิสูจน์ได้ด้วยผลงานที่สามารถคว้าชัยมาครองได้อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในสาเหตุสำคัญก็คือบรรดาผู้เล่นในแดนกลางของ เรือใบสีฟ้า ต่างพากันทยอยคืนฟอร์มเก่งกันแบบถูกที่ถูกเวลาเสียจนทดแทนการขาดหายไปได้อย่างไร้ที่ติทั้ง ฟิล โฟเด้น แบร์นาโด้ ซิลวา และรายที่กำลังฮ็อตสุด ๆ อย่าง อิลคาย กุนโดกัน ที่อยู่ดี ๆ ก็สวมรอยเดอะแบกซัดไปแล้วถึง 7 ประตูในช่วง 10 เกมหลังเลยทีเดียว

แน่นอนว่าเกมวันนี้ จะยังคงเป็นอีกนัดที่ แมนฯ ซิตี้ ยังคงไร้ชื่อของกองกลางชาวเบลเยี่ยมรายนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว แต่ถึงกระนั้น สำหรับแฟน ๆ ลิเวอร์พูล บอกได้เลยว่าพวกเขาอาจจะนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะความอันตรายของ ซิตี้ จะยังมีเหลือ ๆ ไม่ต่างจากเดิมแน่นอน !

3. สถิติที่น่าสนใจต่าง ๆ แบบ "หมัดต่อหมัด" ในฤดูกาลนี้Diogo Jota, Bernardo Silva - Soccer MidfielderDiogo Jota, Bernardo Silva - Soccer MidfielderManchester City v Liverpool - Premier League | Visionhaus/Getty Images

เกมรุก
จำนวนประตูในฤดูกาลนี้ : ลิเวอร์พูล - 43 / แมนฯ ซิตี้ - 39
ได้จากจุดโทษ : ลิเวอร์พูล - 5 / แมนฯ ซิตี้ - 3
ยิงได้จากในกรอบ : ลิเวอร์พูล - 40 / แมนฯ ซิตี้ - 34
ยิงได้จากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 3 / แมนฯ ซิตี้ - 5
ยิงได้จากลูกโหม่ง : ลิเวอร์พูล - 8 / แมนฯ ซิตี้ - 4
จำนวนครั้งที่ยิงทั้งหมด : ลิเวอร์พูล - 244 / แมนฯ ซิตี้ - 233
ยิงตรงกรอบ : ลิเวอร์พูล - 124 / แมนฯ ซิตี้ - 119
ยิงชนเสา-คาน : ลิเวอร์พูล - 6 / แมนฯ ซิตี้ - 12
จำนวนครั้งที่จ่ายบอล : ลิเวอร์พูล - 14,643 / แมนฯ ซิตี้ - 14,448
จำนวนครั้งที่จ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 12,615 / แมนฯ ซิตี้ - 12,851
อัตราการจ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 86.1% / แมนฯ ซิตี้ - 88.9%

เกมรับ
จำนวนประตูที่เสีย : ลิเวอร์พูล - 25 / แมนฯ ซิตี้ - 13
คลีนชีท : ลิเวอร์พูล - 6 / แมนฯ ซิตี้ - 13
เสียประตูจากในกรอบ : ลิเวอร์พูล - 22 / แมนฯ ซิตี้ - 11
เสียประตูจากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 3 / แมนฯ ซิตี้ - 2
บล็อคลูกยิง : ลิเวอร์พูล - 29 / แมนฯ ซิตี้ - 40
เข้าสะกัด : ลิเวอร์พูล - 199 / แมนฯ ซิตี้ - 172
ใบเหลือง : ลิเวอร์พูล - 23 / แมนฯ ซิตี้ - 23
ใบแดง : ลิเวอร์พูล - 0 / แมนฯ ซิตี้ - 0

4. คาดการณ์ก่อนเกมFBL-ENG-PR-MAN CITY-LIVERPOOLFBL-ENG-PR-MAN CITY-LIVERPOOLFBL-ENG-PR-MAN CITY-LIVERPOOL | DAVE THOMPSON/Getty Images

เกมนี้คาดว่าทั้งสองทีมจะเริ่มต้นด้วยการเล่นกันอย่างรัดกุม ค่อย ๆ เคาะบอลหาจังหวะหาพื้นที่เข้าทำและสู้กันบริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เป๊ป คงต้องสั่งให้ลูกทีมเน้นครองบอลบุกเข้าใส่ตามสไตล์อย่างแน่นอน ต้องมาลุ้นกันว่าแนวรับที่ดูกระท่อนกระแท่นของ หงส์แดง แม้ว่าจะได้ 2 แข้งเซ็นเตอร์รายใหม่เข้ามาแต่คาดกันว่าจะยังไม่มีชื่อในเกมวันนี้ จะสามารถต้านทานเกมรุกอันดุดันของทีมเยือนได้หรือไม่ แถมบรรดาผู้เล่นแนวรุกที่เริ่มถูกตั้งคำถามของเจ้าถิ่นจะหาทางเจาะหลังบ้านที่ขึ้นชื่อว่าแข็งสุด ๆ ณ เวลานี้ได้อย่างไร 5 ทุ่มครึ่งวันนี้รู้กัน !

คาดการณ์สกอร์ : ลิเวอร์พูล 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook