"อับเดลฮัค นูรี" : แข้งผู้เป็นแรงบันดาลใจหมายเลข 34 ของ "ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค"

"อับเดลฮัค นูรี" : แข้งผู้เป็นแรงบันดาลใจหมายเลข 34 ของ "ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค"

"อับเดลฮัค นูรี" : แข้งผู้เป็นแรงบันดาลใจหมายเลข 34 ของ "ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อย่างที่ทุกคนรู้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตัว ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เป็นนักเตะรายแรกในซัมเมอร์นี้ไปที่เรียบร้อยแล้ว และก็อีกเช่นที่มีการเปิดเผยหมายเลขเสื้อของเขาว่าจะเป็นเบอร์ 34 ... ซึ่งไม่ใช่เบอร์ที่ป๊อปปูลาร์สำหรับคนทั่วไป

และนี่คือเรื่องราวและเหตุผลที่ทำให้ ฟาน เดอ เบ็ค เลือกใช้เบอร์นี้แทนเลขตัวเดียว เบอร์ 34 ที่สวมใส่โดยเพื่อนรักของเขาที่กอดคอสวมรองเท้าเตะฟุตบอลกันมาตั้งแต่ 9 ขวบอย่าง อับเดลฮัค นูรี 

จริง ๆ ทั้งสองคนควรจะสร้างชื่อและยิ่งใหญ่ขึ้นมาพร้อม ๆ กันได้ เพราะในปี 2017 ทั้ง ดอนนี่ และ นูรี ดันตัวเองมาจนถึงชุดใหญ่ของ อาแจ็กซ์ ได้แล้ว เพียงแต่ว่าในวันหนึ่ง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น..

แอปปี้ จากย่านอพยพ 

อับเดลฮัค นูรี่ เกิดในย่านผู้อพยพชานเมืองของอัมสเตอร์ดัม พ่อของเขาเป็นชาวโมร็อกโก ที่เข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายเนื้อเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวจนกระทั่ง อับเดลฮัค หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า "แอปปี้" จะลืมตามาดูโลก

1

ในย่านที่เขาอยู่ มีสนามฟุตบอลพื้นคอนกรีตที่ แอปปี้ กับเพื่อนจะเล่นกันทุกวันจนเป็นภาพคุ้นตาของคนที่นั่น เด็กทุกคนรู้ดีว่าในความยากลำบากของชีวิตที่ได้เจอ หากพวกเขาเล่นฟุตบอลได้ดี เล่นฟุตบอลได้เก่ง มันจะเป็นตัวช่วยที่ฉุดพวกเขาและครอบครัวไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า และ แอปปี้ ก็คาดหวังไว้มากกับเส้นทางนี้

ในปี 2005 เขาได้เข้าสู่ทีมอคาเดมีของ อาแจ็กซ์ ในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี โดยนักเตะในรุ่นนั้นที่เติบโตมามีชื่อเสียงและเป็นเพื่อนซี้ของเขา ได้แก่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค นั่นเอง 

มีคำกล่าวและเล่าเรื่องถึงฝีเท้าของ แอปปี้ ในระดับอคาเดมีว่าเป็นนักเตะในสไตล์ที่แตกต่างจากนักเตะเนเธอร์แลนด์ทั่วไป เขาเล่นคล้ายผู้เล่นฝั่งโมร็อกโก ที่ได้ DNA มาจากพ่อมากกว่า กล่าวคือเรื่องของความรวดเร็ว คล่องแคล่ว และมีเทคนิคแพรวพราว นั่นคือสไตล์ในแบบที่หลายคนกล่าวถึงเขา

2

ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ หนึ่งในนักเตะอคาเดมีของอาแจ็กซ์ชุดนั้น ที่ปัจจุบันเป็นนักเตะในสังกัดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันด้วยตัวเองว่าในฐานะรุ่นน้องของ แอปปี้ เขาได้เห็นการเล่นของ แอปปี้ มานานจนรู้ว่านี่คือนักเตะที่อยู่ระดับแถวหน้าของเยาวชนทุกคนในสโมสร เขาคือคนที่รุ่นน้องทุกคนอยากเดินตามรอย ไม่แพ้ ฟาน เดอ เบ็ค เลย 

"นูรี คือผู้เล่นมากพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นด้วย เขามีแววที่จะโด่งดังเหมือนกับที่ ฟาน เดอ เบ็ค เป็น หนำซ้ำดูจะมีแววเก่งกว่าด้วยซ้ำไป" แซนด์เลอร์ กล่าวกับ The Sun 

ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น แอปปี้ นูรี เติบโตขึ้นในระบบเยาวชนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็พัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดสำรอง และสุดท้ายทีมเยาวชนอาแจ็กซ์ชุดเด็กเทพที่นำโดย นูรี และ ฟาน เดอ เบ็ค ก็ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2015 ตอนที่เด็ก ๆ พวกนี้ยังมีอายุแค่ 18 ปี 

3

สำหรับ ฟาน เดอ เบ็ค นั้นคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับ แอปปี้ นูรี นั้น การได้สัญญาอาชีพมีความหมายมากกว่าเรื่องของฟุตบอล แต่มันคือเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ที่ครอบครัวของเขาจะได้ลืมตาอ้าปากจริง ๆ จัง ๆ เสียที ประกอบกับในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มูฮัมหมัด นูรี พ่อของเขาก็ต้องออกจากการเป็นลูกจ้างร้านขายเนื้อ เนื่องจากมีปัญหาที่กล้ามเนื้อหัวไหล่เพราะอยู่กับการสับและชำแหละเนื้อมาตลอดชีวิต ... ดังนั้นนี่คือโอกาสที่พอของเขาจะได้พัก

เมื่อมีภาระและคนที่รักอยู่บนบ่า มนุษย์เรานั้นมักจะมีพลังพิเศษที่เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ที่มาที่ไป อยู่ดี ๆ เราก็สามารถทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้ บางครั้งเราก็สู้ได้มากกว่าที่เราคิด นั่นคือขุมพลังที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่าอยู่ดี ๆ มันมาจากไหนกันแน่

ตัวของแอปปี้ เมื่อเริ่มเข้าใกล้ทีมชุดใหญ่ เขาก็ไม่ลืมที่จะทำตัวให้เป็นมืออาชีพในทุก ๆ ด้าน สำหรับเด็ก ๆ หลายคนเมื่อได้สัญญาอาชีพอาจจะสูญเสียความมุ่งมั่นไปบ้าง แต่ไม่ใช่กับเขา 

ในปี 2014 ตอนที่เขาอายุ 17 ปี เขาเคยเล่ากับสื่อในเนเธอร์แลนด์ว่า เด็กเยาวชนของ อาแจ็กซ์ ที่เด่น ๆ ในรุ่นจะถูกทีมใหญ่ ๆ จ้องมาสอยก่อนจะได้สัญญาอาชีพ ซึ่งนั่นจะทำให้ตัวเด็กได้ค่าจ้างก้อนใหญ่กว่าที่อาแจ็กซ์พร้อมจะให้ ในขณะที่อาแจ็กซ์เองก็เสียเปรียบเพราะจะได้เพียงค่าชดเชยสัญญาไม่กี่ล้านยูโร เช่นกรณีของนักเตะที่ชื่อว่า มิงค์ ปีตอร์ส เด็กรุ่นพี่ของ แอปปี้ ที่เลือกปัดสัญญาจากอาแจ็กซ์ และย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด แทน 

4

"ผมจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ใช่สำหรับช่วงอายุแบบนี้แน่นอน มาดริด เป็นสโมสรชั้นนำ แต่ผมรู้ดีว่าผมกำลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีเมื่อได้อยู่กับ อาแจ็กซ์" นูรี กล่าว 

มันไม่ใช่เรื่องของเงินอย่างเดียว นูรี มีความสุขกับชีวิตที่นี่เป็นอย่างมาก การได้เล่นเกมอาชีพเคียงข้างเพื่อนรักเตะฟุตบอลกันมานานกว่า 10 ปี คือสิ่งที่เขาเฝ้ารอ นอกจากนี้ นูรี ยังเป็นเด็กที่เข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในสโมสรเสมอ เขามักจะขอตั๋วเข้าชมเกมของทีมชุดใหญ่ และบางครั้งก็ขอโอกาสได้ซ้อมกับนักเตะรุ่นพี่ ซึ่งนั่นทำให้กลุ่มผู้บริหารหรือกลุ่มโค้ชชื่นชอบในความทะเยอทะยานของ แอปปี้ และที่สำคัญที่สุดต่างฝ่ายต่างก็รักและให้ความเคารพกันเป็นอย่างมาก และการที่อยู่กับสโมสรนี้มานานเขาจึงเป็นเหมือนลูก ๆ หลาน ๆ ของคนที่นี่ไปแล้ว

รอหน่อยเพื่อน..

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2014-16 ที่กลุ่มเด็กเทพอาแจ็กซ์ ถูกดันขึ้นชุดใหญ่พร้อม ๆ กันในคราวเดียวกันอีกครั้ง ณ เวลานั้นทีม อาแจ็กซ์ ชุดใหญ่ถือว่าไม่ได้แข็งแกร่งในระดับยุโรปอะไรมากมายนัก มีเพียงการคว้าแชมป์ลีกที่ถือว่าไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไร โดยกลุ่มเด็กเทพที่ถูกดันขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกันมีหลัก ๆ ทั้งหมด 7 คนนอกจาก นูรี แล้วก็ได้แก่ มัทไธส์ เดอ ลิกต์, โจเอล เฟลมัน, อามิน ยูเนส, จัสติน ไคลเวิร์ต, ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์, แฟรงกี้ เดอ ยอง และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค 

5

แม้บางคน อาแจ็กซ์ จะไม่ได้ปั้นขึ้นมาด้วยตัวเองเพียว ๆ แต่เป็นการซื้อมาปั้นต่อก็ตาม ทว่า ณ เวลานั้นสำนักข่าวจากอังกฤษอย่าง The Guardian ได้จัดอันดับบทความนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองในยุโรปประจำปี 2014 ซึ่งเขาเลือกนักเตะจากทีมเด็กเทพชุดนี้เกินครึ่ง และแน่นอน แอปปี้ เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

ช่วงเวลาของ แอปปี้ ได้เริ่มขึ้น อาจจะช้ากว่า เดอ ลิกต์ และ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ได้ประเดิมตัวจริงในทีมชุดใหญ่ไปก่อน เพราะนักเตะแนวรุกของ อาแจ็กซ์ นั้นเต็มเอี๊ยด เขาโดนส่งไปลงเล่นในทีม ยอง อาแจ็กซ์ (ทีมสำรอง ที่ลงเล่นในลีก 2 ของประเทศ) และมีโอกาสสลับขึ้นมาอยู่กับทีมชุดใหญ่เป็นระยะ ๆ ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือการโดนส่งไปเล่นในลีกรอง ในฤดูกาล 2016-17 ที่เขายิงไป 11 ประตูและได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีก นอกจากนี้ยังได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่และอยู่ในชุดที่ได้รองแชมป์ ยูโรปา ลีก ในปี 2017 ที่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกด้วย

6

ฤดูกาลแห่งความยอดเยี่ยมจบลง ก็ได้เวลาที่ แอปปี้ จะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งชุดใหญ่พร้อมกับเพื่อน ๆ ของเขาในฤดูกาล 2017-18 ซึ่งตอนนั้นทีมโค้ชของ อาแจ็กซ์ วางตัว นูรี เอาไว้ในฐานะนักเตะที่จะได้มีส่วนร่วมในการลงสนามมากขึ้น 

ทว่าเรื่องราวของชีวิตนั้นคาดเดาไม่ได้เสมอ ในช่วงปรีซีซั่นก่อนฤดูกาลจะเริ่ม นูรี ที่ได้เสื้อหมายเลข 34 ได้รับมอบหมายให้เป็นนักเตะตัวรุกที่คอยสแตนด์บายตำแหน่งของ ฮาคิม ซิเย็ค เอาไว้ และเขาจะได้โอกาสลงในตำแหน่งหมายเลข 10 ในช่วงปรีซีซั่นนี้ เพื่อลองดูว่าเขาพร้อมหรือยังสำหรับลีกสูงสุด

เกมดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2017 เป็นเกมอุ่นเครื่องระหว่าง แวร์เดอร์ เบรเมน กับ อาแจ็กซ์ ซึ่งไปจัดที่ประเทศออสเตรีย โดยในเกมนั้น นูรี โดนเปลี่ยนตัวลงมาแทน ซิเย็ค ตามแท็คติกในนาทีที่ 72 ทว่าหลังจากลงสนามได้ไม่กี่นาทีเขาก็ล้มลงแบบไม่มีใครรู้สาเหตุ

7

ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเขาเป็นอะไร หรือโดนอะไร หลายคนอยู่ในสภาวะงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคนแรกที่เริ่มรู้สึกตัวหลัง แอปปี้ ลงไปนอนฟุบกับพื้นราว 10 วินาทีคือ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ดาวยิงตัวเก๋าของ อาแจ็กซ์ ที่รู้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เขาโวยวายและเรียกแพทย์ของทีมเข้ามาดูอาการ และเมื่อถึงมือแพทย์สนาม ผู้เล่นทุกคนจึงเริ่มตระหนักว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้ว นักเตะของ อาแจ็กซ์ หลายคนโดยเฉพาะทีมงานเด็กเทพ เริ่มร้องไห้ และเอามือกุมหน้า บ้างก็สวดภาวนาให้เพื่อนของพวกเขาลุกขึ้นมาให้ได้ ทว่าอาการของ แอปปี้ ไม่ดีขึ้นเลย 

ทุกฝ่ายช่วยกันปล้ำเขาอยู่พักใหญ่ แต่อาการก็ไม่ตอบสนอง จนทำให้ต้องเรียก เฮลิคอปเตอร์ เข้ามาอย่างเร่งด่วนเพื่อส่งตัว แอปปี้ ให้ถึงมือหมอและเครื่องมือแพทย์ให้เร็วที่สุด ... และอย่างที่เราทุกคนรู้ มันคือความโชคร้ายของเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ที่จะเติบโตเป็นนักเตะระดับโลก ความฝันที่จะเป็นเหมือน ริคาร์โด้ กาก้า และ อันเดรียส อิเนียสต้า ของ แอปปี้ ไม่เคยได้ถูกสานต่อ เนื่องจากนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่เคยได้กลับมาเล่นฟุตบอลอีกเลย ... ซ้ำร้ายแค่รู้สึกตัวก็ยังไม่สามารถทำได้  

แพทย์ระบุชัดเจนว่าอาการของเขาเข้าขั้นโคม่าต้องติดตามอาการแบบนาทีต่อนาที และสุดท้ายเมื่อครอบครัวของเขาเดินทางจาก อัมสเตอร์ดัม มาถึง เยอรมัน พวกเขารีบถามหมอทันทีว่า แอปปี้ จะกลับมาเป็นปกติไหม? คำตอบของคุณหมอในวันนั้นคือ "เขาจะไม่หายกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว"

8

"นี่เป็นข่าวร้ายที่แย่ที่สุดที่สโมสรเคยมี เรารู้สึกเสียใจและเห็นใจกับครอบครัวพ่อแม่พี่น้องและญาติคนอื่น ๆ ของเขา เพราะนี่คือความทุกข์ทรมานที่ไม่สามารถบรรยายได้ เช่นเดียวกับสโมสรของเราด้วย อับเดลฮัค เป็นคนที่มีพรสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าเส้นทางแห่งดวงดาวของเขา จะพาเขาไปหยุดที่จุดไหน" เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ผู้นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรกล่าว

อีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน คือเหล่ากลุ่มเด็กเทพทั้งหลายที่โตมาด้วยกัน พวกเขาเห็นและรู้ถึงความฝันของ แอปปี้ มาตั้งแต่ 7 ขวบ และถูกความโชคร้ายพรากไปแบบไม่มีวันกลับเช่นนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เด็ก ๆ ชุดนั้นสะเทือนใจเป็นอย่างมาก 

สโมสรและตัวนักเตะผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ อาแจ็กซ์ เริ่มผุดแคมเปญ "Stay Strong Appie" ซึ่งเป็นสโลแกนที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังบนโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังพยายามให้แฟน ๆ มีส่วนร่วมในการส่งกำลังใจด้วยการนำเสื้อหมายเลข 34 ของ นูรี ให้แฟน ๆ มาเขียนข้อความอวยพรและให้กำลังใจ เพื่อหวังว่าเขาจะพ้นจากโชคร้ายและอย่างน้อยกลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมให้ได้อีกครั้ง แม้ว่าจะไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้ก็ตาม

32 เดือนที่ไม่ได้มาจากแค่ "ความโชคร้าย"

สโมสรอาแจ็กซ์ พยายามช่วยเหลือครอบครัว นูรี ทุกด้าน ไม่ว่าจะเรื่องการรักษา และการดูแลครอบครัวทดแทนในส่วนของลูกชายคนเก่งด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่หากทุกคนไม่ประมาทจนเกินไปนัก เพราะหลังจากที่ นูรี นอนห้องไอซียูด้วยอาการโคม่ามากว่า 32 เดือน ความจริงจากคุณหมอผู้รักษาไข้ ก็ยืนยันว่าสาเหตุที่ แอปปี้ นูรี ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไม่ใช่เรื่องของความโชคร้ายอย่างเดียว แต่เกิดจากความไม่พร้อมของระบบการปฐมพยาบาลอีกด้วย

9

เรื่องของเรื่องคือคืนก่อนเกมกับ เบรเมน นูรี ไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม เพราะเขารู้ว่าเขามีอาการปวดท้องและนอนไม่หลับ เนื่องจากสภาพอากาศบริเวณเทือกของแอลป์ที่อาแจ็กซ์ไปเก็บตัวนั้นร้อนมาก ร่างกายของเขาไม่พร้อมจะลงเล่นเกมนี้เพราะได้พักผ่อนน้อยและยังหาต้นสายของอาการป่วยไม่เจอ หนำซ้ำเมื่อเขาได้ลงสนาม ความเสี่ยงของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกจากการปฐมพยาบาลที่ขาดความรู้และความเข้าใจ

ผู้ตัดสินเกมวันนั้นปล่อยเวลานานไปกว่า 10 วินาที กว่าที่จะเรียกให้แพทย์สนามเข้ามาดูอาการ ก่อนที่อีก 25 วินาทีต่อมาแพทย์ของฝั่งอาแจ็กซ์ ก็เข้าประจำการ และสุดท้ายทีมแพทย์ของเบรเมนก็เข้ามาช่วยด้วย

พวกเขาปล้ำร่างที่ไร้สติของ นูรี อยู่หลายนาที กว่าที่พวกเขาจะเข้าใจว่า นูรี เป็นโรคหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ก็กินเวลาไปราว ๆ 7 นาที ก่อนจะปั๊มหัวในในอีก 10 นาทีต่อมา ซึ่งในมุมมองของแพทย์มองว่านั่นมันนานเกินไป และโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด หัวใจ และสมอง ใครก็รู้ดีว่า ยิ่งแก้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งถึงมือหมอไวเท่าไหร่ โอกาสที่จะหายก็มีมากขึ้นเท่านั้น 

"ข้อความที่ผมได้รับคือมีคนหมดสติในสนาม ผมมาถึงและเริ่มช่วยชีวิตเขา ก่อนที่จะเริ่มมีการช็อตไฟฟ้าที่หัวใจของเขา" หนึ่งในทีมแพทย์กล่าวกับ De Volkskrant หนังสือพิมพ์ดัตช์

"แอปปี้ นูรี ได้รับยากระตุ้นการไหลเวียนหลังจากล้มลงพื้นไปถึง 13 นาที หลังจากนั้นเขาก็เริ่มดีขึ้นและมีอัตราการเต้นของหัวใจที่ฟื้นกลับมาอีกครั้ง การปั๊มหัวใจและให้ยากระตุ้นที่ช้าเกินไป ส่งผลทำให้กว่าที่ นูรี่ จะถึงโรงบาล อาการของเขาก็รุนแรงเกินเยียวยาแล้ว และทำให้เขาต้องอยู่ในสภาพโคม่า" 

เรื่องดังกล่าวมันชัดเจนมากว่า การปฐมพยาบาลที่ผิดพลาดมีผลต่อร่างที่เปลี่ยนไปตลอดกาลของ นูรี่ ซึ่งในส่วนนี้เอง ฟาน เดอ ซาร์ ก็ออกมายอมรับผิดในฐานะตัวแทนของสโมสรถึงการปฎิบัติงานที่ล่าช้า จนคน ๆ หนึ่งต้องเสียอนาคตไป

10

"ผมของยอมรับว่าการปฐมพยาบาลของเราไม่เพียงพอ แพทย์ของสโมสรเข้าถึงตัวเขาและเน้นไปที่การตรวจวัดการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนของเลือด แต่แค่นั้นมันยังไม่เพียงพอกับการยื้อสภาพร่างกายของใครคนหนึ่ง" ฟาน เดอ ซาร์ กล่าว

"เครื่องกระตุ้นหัวใจควรจะถูกนำออกมาใช้เร็วกว่านี้ หากเรารับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เป็นไปได้ว่า แอปปี้ จะกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นก็เป็นไปได้ ... ดังนั้นผมในนามสโมสรอาแจ็กซ์ ยืนยันว่าเราตระหนักถึงความรับผิดชอบที่ตกหล่น และผลที่ตามมาครั้งนี้"

ฝันของนายให้เราช่วยสานต่อ

อาแจ็กซ์ ยินดีเป็นผู้จ่ายค่ารักษาทั้งหมด และพร้อมจะมอบเงินให้กับครอบครัว นูรี ทดแทนในส่วนที่ แอปปี้ ทำได้ พวกเขาและเด็ก ๆ ชุดเด็กเทพหลายคนพยายามช่วยกันผลักดันแคมเปญให้กำลังใจ แอปปี้ นูรี จนทำให้มีกำลังใจและธารน้ำใจไหลมายังครอบครัวนูรี่เสมอจนถึงทุกวันนี้ 

11

ในส่วนของ โมฮัมเหม็ด คุณพ่อของ นูรี ที่คอยเฝ้าเขาที่โรงพยาบาลอยู่ทุกวันนั้น ยังคงมีเอฟเฟ็กต์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย โทรศัพท์ของเขายังใช้รูปพักหน้าจอเป็นรูปของลูกชายที่กำลังสวมชุดอาแจ็กซ์เมื่อครั้งอดีต แม้ทุกวันนี้อาการของ นูรี่ จะดีขึ้นบ้าง มีการแสดงออกทางสีหน้าได้เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการยักคิ้ว กรอกตา แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นยังมากเกินไปกว่าที่เขาจะลุกมาใช้ชีวิตเองได้ และต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง ที่ใครหลายคนให้กำลังใจและเอาใจช่วยอย่างที่สุด 

สิ่งที่สโมสรอาแจ็กซ์ และเพื่อนๆของเขาจะทำได้ในเวลานี้ คือการ "ไม่ลืม" แอปปี้ นูรี่ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมหมายเลข 34 จึงมีความหมายกับสโมสรและเด็ก ๆ ชุดนี้มากมายนัก เช่นในฤดูกาลที่ผ่านมาที่ อาแจ็กซ์ ได้แชมป์ลีกสมัยที่ 34 พวกเขาก็จัดงานฉลองเพื่อให้ทุกคนไม่ลืม นูรี นอกจากนี้ยังให้พี่ชายและพ่อของเขาร่วมฉลองกับนักเตะชุดดังกล่าวในฐานะตัวแทนของ นูรี อีกด้วย 

เรื่องในสนามเราอาจจะพอรู้ได้ว่า แอปปี้ นูรี เก่งกาจจนถึงยกให้เป็นเยาวชนแถวหน้าของสโมสร แต่สิ่งที่เพื่อน ๆ ของเขาทำหลังจากที่เขาต้องประสบกับโชคร้ายครั้งนี้ มันแสดงออกว่า นูรี เป็นคนที่เพื่อน ๆ รักขนาดไหน นักเตะอย่าง โจเอล เฟลมัน, อามิน ยูเนส, จัสติน ไคลเวิร์ต, ฟิลิปป์ แซนด์เลอร์ หรือ เควิน ดิคส์ ต่างเลือกที่จะสวมใส่หมายเลข 34 ให้กับต้นสังกัดปัจจุบันของพวกเขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังสานฝันต่อในส่วนที่เหลือให้กับเพื่อนซี้ของพวกเขา

12

"ทำไมผมถึงเลือกเสื้อหมายเลข 34 น่ะเหรอ ? เพราะนี่คือหมายเลขประจำตัวของ แอปปี้ คำอธิษฐานและหมายเลขเสื้อเบอร์นี้ที่ผมใส่จะส่งไปถึงเพื่อนของผม เขาเป็นเหมือนพี่ชายที่สอนอะไรต่อมิอะไรให้ผมมากมาย" จัสติน ไคลเวิร์ต กล่าว ซึ่งแสดงออกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในรั้วเยาวชนอาแจ็กซ์ได้เป็นอย่างดี 

เช่นเดียวกับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค นักเตะคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เลือกหมายเลขนี้ แทนที่จะเลือกหมายเลขดังอย่างเบอร์ 7 หรือ 11 ที่ยังว่างอยู่ ในความหมายว่าแด่เพื่อนสนิทคนสำคัญของเขา 

13

"นี่เป็นสิ่งพิเศษสำหรับผม เพราะว่าเพื่อนคนดีของผม อับเดลฮัค นูรี บางทีคุณอาจจะรู้เรื่องของเขาแล้ว เขาหัวใจวายและเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีของผม" แข้งคนใหม่ของปีศาจแดงกล่าว  

"ผมสนิทกับครอบครัวของเขา พี่ชายของเขาเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของผม และผมก็คุยกับพวกเขาอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจที่จะใช้หมายเลขเก่า (เบอร์ 34) ผมอยากจะมีความทรงจำที่ดีกับหมายเลขนี้" 

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่โลกต้องสูญเสียนักเตะพรสวรรค์คนหนึ่งไป พี่ชายของ แอปปี้ ยอมรับว่าตอนนี้มีเพียงปาฎิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้น้องชายของเขากลับมาเป็นปกติได้ ... ไม่แน่เหมือนกันว่าโลกนี้อาจจะมีปาฎิหาริย์จริ งๆ ก็เป็นได้ เพราะอะไรๆที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ในทุกนาที แอปปี้ นูรี ล้มลงด้วยความไม่คาดฝัน ... วันหนึ่งเขาอาจจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งแบบสุดเซอร์ไพรส์ก็ได้ใครจะรู้ 

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ "อับเดลฮัค นูรี" : แข้งผู้เป็นแรงบันดาลใจหมายเลข 34 ของ "ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook