สื่อดังผู้ดีจัดให้! 50 อันดับสุดยอดกองหน้า "พรีเมียร์ลีก"

สื่อดังผู้ดีจัดให้! 50 อันดับสุดยอดกองหน้า "พรีเมียร์ลีก"

สื่อดังผู้ดีจัดให้! 50 อันดับสุดยอดกองหน้า "พรีเมียร์ลีก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอลลีกยอดนิยมในใจของใครหลายคน โดยเฉพาะแฟนฟุตบอลชาวไทย เดินทางมาถึงฤดูกาลที่ 23 แล้ว นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก "ดิวิชั่น 1" มาเป็น "พรีเมียร์ลีก" ได้ผลิตยอดนักเตะออกมาประดับวงการมากมาย

โดยเฉพาะตำแหน่งที่เรียกได้ว่าสำคัญและเป็นพระเอกในสนามมากที่สุดนั่นคือ "ศูนย์หน้า" หรือหัวหอกถล่มประตูนั่นเอง

ล่าสุด "เดลี่เมล์" สื่อชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ ได้จัด "50 อันดับกองหน้ายอดเยี่ยมตลอดกาลพรีเมียร์ลีก" มาเพื่อให้แฟนบอลได้รำลึกความหลังกัน เชื่อว่าแฟนบอลที่อายุ 30 ปีขึ้นไป น่าจะทันได้ยลฝีเท้าของแข้งดังเหล่านี้ทั้งหมด

ตรงใจผู้อ่านกันบ้างหรือไม่? เชิญติดตามครับ

อันดับ 10 ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล, ลีดส์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส)

เจ้าของฉายา "ก็อด" ของสาวก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เติบโตมาในฐานะนักเตะเยาวชนของทีม ก่อนได้ประเดิมสนามตั้งแต่อายุ 18 ปี ทะลวงตาข่ายกระจุย 25 ลูกในปี 1994-95

ก่อนซัดอีก 28 ประตูในซีซั่นถัดมา สร้างชื่อสุดๆด้วยการซัดแฮตทริกใส่ อาร์เซน่อล ด้วยเวลาเพียง 4 นาที 33 วินาทีเท่านั้น!

อันดับ 9 เอียน ไรท์ (อาร์เซน่อล, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)


"ไร้ท์ซ่า" ตำนานอีกคนนึงของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เจ้าของ 128 ประตู จาก 221 นัดในลีก

หลังจากคว้าตัวมาจาก คริสตัล พาเลซ ในปี 1991 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ และเป็นสถิติสโมสรในขณะนั้น ความทุ่มเทเต็มร้อย ยิงประตูเฉียบขาด ไม่แปลกใจเลยที่แฟนปืนใหญ่จะรักกองหน้าผิวหมึกผู้นี้เหลือเกิน

อันดับ 8 ไมเคิ่ล โอเว่น (ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด, สโต๊ก ซิตี้)

"เบบี้โกล์" แจ้งเกิดตั้งแต่อายุ 17 เมื่อลงสนามมาแล้วยิงได้ทันทีในเกมพบ วิมเบิลดัน เมื่อปี 1997 ยิงไป 118 ให้หงส์แดงในลีก

ตลอด 8 ปีที่อยู่กับทีมก่อนย้ายไปอยู่ยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่าง เรอัล มาดริด ก่อนฟอร์มตกฮวบหลังจากได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง

จนต้องระหกระเหินกลับมาอังกฤษด้วยการเซ็นสัญญากับ นิวคาสเซิ่ล, แมนฯ ยูไนเต็ด(ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย แฟนหงส์บอกว่ามันเจ็บตรงนี้แหละ!) และ สโต๊ก ซิตี้

อันดับ 7 ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (เชลซี)

"แข็งแกร่ง, เฉียบคม, ทรงพลัง" คือคำนิยามของหัวหอกไอวอรี่ โคสต์ผู้นี้ เป็นหัวหอกตัวหลักของทีมตลอด 8 ปี กวาดแชมป์ร่วมกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" มากมาย เป็น 1 ในศูนย์หน้าที่กองหลังฝ่ายตรงข้ามต่างเทคะแนนให้ว่า "ไม่อยากรับมือ" ด้วยที่สุดคนนึงในลีก ปัจจุบันย้ายกลับมาจาก กาลาตาซาราย และรับบทกองหน้าหมายเลข 3 ของทีมคอยพยุงน้องๆ

อันดับ 6 แอนดี้ โคล (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ฟูแล่ม, แมนฯ ซิตี้, พอร์ทสมัธ)

เจ้าของสถิติยิงประตูมากที่สุดอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 187 ประตู แม้บางช่วงของอาชีพจะถูกค่อนขอดว่าใช้โอกาสเปลืองไปบ้างเวลาอยู่หน้าปากประตู แต่ก็ต้องถือว่า "คิงโคล" ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าหัวแถวของลีกอยู่ดีเมื่อดูจาก การคว้าแชมป์แบบนับไม่ถ้วนกับ "ผีแดง" และตัวเลขสกอร์ที่เขาทำได้

อันดับ 5 เวย์น รูนี่ย์ (เอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ยูไนเต็ด)

แจ้งเกิดตั้งแต่อายุ 16 ขวบ เมื่อลงสนามมาซัดอย่างสุดสวยใส่ อาร์เซน่อล ในปี 2002 ก่อนลุยศึกยูโร 2004 ด้วยอายุ 18 ปี ก่อนย้ายมาร่วมทีม "ปีศาจแดง" ด้วยค่าตัวมหึมา 25 ล้านปอนด์ จนถึงตอนนี้ยิงไปแล้ว 161 ประตูจาก 313 เกมในลีก ปัจจุบันรับตำแหน่ง "กัปตันทีม" ทั้งในนามสโมสรและทีมชาติอังกฤษ

อันดับ 4 เดนนิส เบิร์กแค้มป์ (อาร์เซน่อล)

"คลาสสิก" นึกถึงสไตล์ เบิร์กแค้มป์ ต้องใช้คำนี้เลย เป็นกองหน้าที่ไม่ค่อยมีความเร็วมากนัก รูปร่างก็ไม่ได้แข็งแกร่งบึกบึน แต่เทคนิคการยิงประตูและลีลาการจ่ายบอล แพรวพราวมีระดับเหลือเกิน

คำถามคือ? จะมีใครจะลืมประตูสุดสวยที่ยิงใส่ นิวคาสเซิ่ล ในปี 2002 และ ในนามทีมชาติฮอลแลนด์ ที่ยิงใส่ อาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลก 1998 ได้ลงกันล่ะ?

อันดับ 3 เอริค คันโตน่า (แมนฯ ยูไนเต็ด)

"เอริค เดอะ คิง" เล่นให้ทีมปีศาจแดงแค่ 5 ปี แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของสโมสรคนนึงไปเรียบร้อย!

ด้วยฝีเท้าที่เอกอุ และบุคลิกในสนามที่โดดเด่น สร้างความยำเกรงให้คู่แข่ง และความเชื่อใจให้เพื่อนร่วมทีมได้เสมอ

ก็องโต้ไม่ใช่กองหน้าประเภทถล่มประตูเป็นกอบเป็นกำ แต่เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของทีมในเกมรุกมากกว่า ห้าวหาญดุดัน ฉลาดปราดเปรื่อง แต่น่าเสียดายที่อารมณ์ศิลปินมากเกินไป ติสต์แตก ตัดสินใจแขวนสตั๊ดขณะที่อายุเพียง 31 ปีเท่านั้น

อันดับ 2 อลัน เชียเรอร์ (เซาธ์แฮมป์ตัน, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)

เจ้าของสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดตลอดกาลด้วยจำนวน 260 ประตู "ฮอตชอต" ซัดให้ แบล็คเบิร์น ไป 112 ลูก และกับทีมในดวงใจตั้งแต่เด็ก นิวคาสเซิ่ล อีก 148 ตุง หลังย้ายมาร่วมทีมในปี 1996 ด้วยค่าตัวสถิติโลกตอนนั้น 15 ล้านปอนด์

แม้จะไม่ประสบความสำเร็จด้านถ้วยรางวัล เพราะได้เพียงแค่แชมป์ลีกกับ "กุหลาบไฟ" ในซีซั่น 1994-95 เท่านั้น

แต่ในแง่ส่วนตัวถือว่าสุดยอด เมื่อดูจากประตูที่ยิงได้ และตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษอีกหลายปี

อันดับ 1 เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล)

ถึงแม้จะด้อยกว่า เชียเรอร์, โคล หรือแม้แต่ รูนี่ย์ ถ้าวัดในแง่จำนวนประตู แต่ "ติตี้" คือสุดยอดกองหน้าของพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง ด้วยเทคนิคแพรวพราวหาตัวจับยาก, ความเร็วที่กองหลังเลิกฝันเลยว่าจะไล่ทันเมื่อเขาได้ควบบอล, การจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูที่เฉียบขาด และการจบสกอร์ที่เหนือชั้น

อองรีได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย (โดยครั้งล่าสุดเมื่อปี 2003-04 ทำสถิติไม่แพ้ใครทั้งซีซั่นด้วย), 3 แชมป์ เอฟเอ คัพ, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเตะอาชีพ 2 ครั้ง, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอีก 3 ครั้ง และโกลเด้นบู๊ทอีก 4 ครั้ง

แบบนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหน อองรี ก็คู่ควรกับตำแหน่ง "อันดับ 1" แบบไร้ข้อโต้แย้งอย่างที่สุด

กองหน้ายอดเยี่ยมตลอดกาลพรีเมียร์ลีกอันดับที่ 11-50
11. เลส เฟอร์ดินานด์ (ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, เลสเตอร์ ซิตี้, โบลตัน วันเดอเรอร์ส)
12. รุด ฟาน นิสเตลรอย (แมนฯ ยูไนเต็ด)
13. เท็ดดี้ เชอริงแฮม (น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, แมนฯ ยูไนเต็ด, พอร์ทสมัธ, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
14. จิอันฟรังโก้ โซล่า (เชลซี)
15. ดไวท์ ยอร์ค (แอสตัน วิลล่า, แมนฯ ยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เบอร์มิงแฮม ซิตี้, ซันเดอร์แลนด์)
16. แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)
17. สแตน คอลลีมอร์ (น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า, เลสเตอร์ ซิตี้, แบร็ดฟอร์ด ซิตี้)
18. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล)
19. คาร์ลอส เตเบซ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้)
20. เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้)
21. นิโกล่าส์ อเนลก้า (อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, โบลตัน วันเดอเรอร์ส, เชลซี, เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน)
22. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ด)
23. จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด, เชลซี, มิดเดิ้ลสโบรช์, ชาร์ลตัน แอธเลติก)
24. เปาโล ดิ คานิโอ (เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ชาร์ลตัน แอธเลติก)
25. เฟอร์นันโด ตอร์เรส (ลิเวอร์พูล, เชลซี)
26. เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ (ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์)
27. คริส ซัตตัน (นอริช ซิตี้, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เชลซี, เบอร์มิงแฮม ซิตี้, แอสตัน วิลล่า)
28. เควิน ฟิลลิปส์ (ซันเดอร์แลนด์, เซาธ์แฮมป์ตัน, แอสตัน วิลล่า, เบอร์มิงแฮม ซิตี้, คริสตัล พาเลซ)
29. ร็อบบี้ คีน (โคเวนทรี ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, แอสตัน วิลล่า)
30. เอมิล เฮสกี้ย์ (เลสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เบอร์มิงแฮม ซิตี้, วีแกน แอธเลติก, แอสตัน วิลล่า)
31. ดิออน ดับลิน (แมนฯ ยูไนเต็ด, โคเวนทรี ซิตี้, แอสตัน วิลล่า)
32. เจอร์เมน เดโฟ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, พอร์ทสมัธ)
33. มาร์ค ฮิวจ์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, เซาธ์แฮมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส)
34. ดันแคน เฟอร์กูสัน (เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)
35. โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
36. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์)
37. เคร็ก เบลลามี่ (โคเวนทรี ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้)
38. ไนออล ควินน์ (แมนฯ ซิตี้, ซันเดอร์แลนด์)
39. ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น (เชลซี, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, สโต๊ก ซิตี้, ฟูแล่ม)
40. ดาร์เรน เบนท์ (อิปสวิช ทาวน์, ชาร์ลตัน แอธเลติก, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, ซันเดอร์แลนด์, แอสตัน วิลล่า, ฟูแล่ม)
41. ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, แมนฯ ยูไนเต็ด, ฟูแล่ม)
42. ปีเตอร์ เคร้าช์ (แอสตัน วิลล่า, เซาธ์แฮมป์ตัน, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, สโต๊ก ซิตี้)
43. มิคกี้ ควินน์ (โคเวนทรี ซิตี้)
44. หลุยส์ ซาฮา (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ฟูแล่ม, แมนฯ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, ซันเดอร์แลนด์)
45. ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (แมนฯ ซิตี้, เชลซี, ลิเวอร์พูล)
46. ยาคูบู (พอร์ทสมัธ, มิดเดิ้ลสโบรช์, เอฟเวอร์ตัน, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส)
47. เจมส์ บีทตี้ (แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เซาธ์แฮมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน, สโต๊ก ซิตี้, แบล็คพูล)
48. เควิน เดวี่ส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, โบลตัน วันเดอเรอร์ส)
49. โทนี่ เยบัวห์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด)
50. อลัน สมิธ (ลีดส์ ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)

เรียบเรียงโดย "น้องเพชร"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook