ซิโก้ ยันแล้ว สารัช, ชัปปุยส์ เจ็บไม่หนักพร้อมบู๊ ซูซูกิคัพ

ซิโก้ กุนซือใหญ่ ทีมชาติไทย ออกโรงยืนยัน สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ ที่ได้รับบาดเจ็บยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหา พร้อมลุยแน่นอน ด้าน บิ๊กเกษม ผจก.ทีม ประกาศนัดแรกการเจอกับ สิงคโปร์ คงจะไม่มีคำตอบอื่น นอกจากต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ที่เตรียมทีมลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 ระหว่างวันที่ 22-29 พ.ย. นี้ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (13 พ.ย.) ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ยังคงปักหลักซ้อมอยู่ที่ กิเลนวัลเลย์ เขาใหญ่ เข้าสู่วันที่9 โดย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่จัดนักเตะซ้อมมื้อเช้าเท่านั้นพร้อมกับ แบ่งนักเตะซ้อม ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกที่เป็นตัวจริงในเกมชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-0 ลงสระว่ายน้ำคลายกล้ามเนื้อกับ “แอนดี้” นักกายภาพบำบัด ชาวเยอรมนี ส่วนกลุ่มที่เป็นตัวสำรองและไม่ได้ลงสนามลงซ้อมเกมรุกและการยิงประตู ก่อนใช้เวลาฝึกซ้อมเกือบ 2 ชั่วโมง

หลังจากนั้น "โค้ชซิโก้" ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “เกมที่เราเจอกับโคราชน่าจะชนะสัก 6 ลูก แต่ได้มาเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องชมผู้รักษาประตูของทีมเขาที่ค่อนข้างจะเซฟได้ดี  เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมาปรับแก้เรื่องของลูกยิงประตู ในส่วนคนที่ลงเล่นเกือบเต็มเกมดังกล่าว ก็ให้ไปรีเล็กซ์ลงสระว่างน้ำกับ นักกาพบำบัดไป“

ชมเปาะนักเตะชุดนี้มุ่งมั่นตั้งใจเต็มร้อย
นอกจากนั้น กุนซือทีชาติไทยยังกล่าวนักเตะทีมชาติไทยชุดนี้อีกว่า “อย่างไรก็ตาม เวลานี้ต้องขอชมเชยน้องๆทุกคนตั้งใจ มีความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมรวมถึงอุ่นเครื่องด้วย เพราะต้องยอมรับความจริงว่าเรามีเวลาน้อยมาก ต้องเน้นเรื่องของแทคติกเป็นหลัก ในขณะที่ลูกเซตพีซ ยังไม่ได้ซ้อมเลย ก็ต้องเร้งซ้อมให้หนักหลังจากนี้”

“ขณะเดียวกันเกมรับ-รุก ก็ต้องรีบทบทวน ให้กับนักเตะอย่างพวก อดุล หละโสะ,สุทธินันท์ พุกหอม ,นูรูล ศรียานเก็ม, ประวีณวัช บุญยงค์ ก็เพิ่งมาร่วมซ้อมกับทีม แน่นอนว่าเรื่องของความสัมพันธ์ในเกมมันย่อมมีน้อยไม่เหมือนกับเล่นในสโมสรที่อยู่ด้วยกันเป็นปีๆ แต่อย่างไรก็ดี ยังพอมีเวลาพอสมควรคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ”ซิโก้” กล่าว

พร้อมกันนี้ยังได้พูดถึง สารัช อยู่เย็น และชาริล ชัปปุยส์ ที่ได้มาจากเกมอุ่นเครื่องกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ด้วยว่า "ยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทุกคนร่างดี 90 เปอร์เซ็นต์เข้าไปแล้ว “อาการบาดเจ็บของ สารัช  ทางเราได้ให้ นักกายภาพบำบัดดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ซึ่งเท่าที่ดูอาการแล้วก็ไม่ซีเรียสมากเพราะสามารถเดินได้สบายแต่ก็ต้องให้ทีมกายภาพบำบัดดูแลเต็มที่  มั่นใจว่าทุกคนอยู่ในระดับ90 เปอร์เซ็นต์ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน“

“ส่วน ชัปปุยส์ ก็อาจจะมีอาการล้าบ้าง เพราะเขากรำศึกหนักมาตลอดตั้งแต่เอเชี่ยนเกมส์ต่อเนื่องถึงบอลลีกไม่ได้พักเลย อีกทั้งเดินสายโชว์ตัวไปงานโน่น งานนี่ ก็บอกเขาให้พักผ่อนเยอะๆ เช่นเดียวกับหลายๆคนที่ตั้งแต่กลับมาจากเอเชี่ยนเกมส์ แล้วก็ไปเล่นให้กับสโมสรมีเกมทั้งกลางสัปดาห์ และ วันเสาร์, อาทิตย์ ต้องไปเดินสายโชว์ตัวอีก ก็บอกให้เขาเอางานหลักคือทีมชาติก่อน เพราะ เวลานี้แฟนบอลรอคอยความหวังจากพวกเรา ฉะนั้นทุกคนก็เข้าใจ"

“บิ๊กเษม” ลั่นเปิดหัวชนะหวั่นโปร-มาเลย์เล่นแง่
ทางด้าน “บิ๊กเษม”เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผจก.ทีม ออกมาเผยว่ารู้สึกหวั่นใจ เกรงว่า สิงคโปร์ กับมาเลเซีย บ้านพี่เมืองน้องจะเอื้อให้กันในนัดสุดท้ายกอดคอเข้ารอบ ลั่นสั่งลูกทีมไล่กะซวก เจ้าภาพให้ได้ตั้งแต่นัดแรก  มั่นใจจะเป็นผลดีทำให้พี่น้องตีกันเอง

“นัดแรกการเจอกับสิงคโปร์ผมคงจะไม่มีคำตอบอื่น นอกจากต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ เพราะจะว่าไปแล้วการอยู่ร่วมกลุ่มกับ สิงคโปร์-มาเลเซีย นี้ถือว่าค่อนข้างอันตรายรอบด้าน เนื่องจาก เวลานี้คน มาเลเซีย เองก็เพิ่งได้พาสสปอร์ตสัญชาติสิงคโปร์ บางครอบครัวมีพี่เล่นอยู่ที่สิงคโปร์ มีน้องเล่นอยู่ที่มาเลเซีย เพราะนั้น ก็จะเหมือนถ้อยที ถ้อยอาศัยกัน แต่ถ้าหากเราสามารถเก็บ 3 แต้มได้ในนัดแรกที่จะเจอสิงคโปร์ และ นัดสอง ชนะ มาเลเซีย มี 6 แต้ม พี่กับน้องก็จะต้องตัวใครตัวมัน ในแมตซ์สุดท้าย ที่จะต้องโคจรมาพบกัน”

“ส่วนเราเองเจอกับ เมียนม่าร์ นาทีนี้ก็จะประมาทพวกเขาไม่ได้ ถ้าหากเก็บได้ 1 แต้มหรือไม่มีแต้มเลยใน 2 เกมแรก  เมียนม่าร์ จะแผลงฤทธิ์ขึ้นมาทันที แต่ถ้ามี 6 แต้มตุนในกระเป๋าเข้ารอบไปแล้ว เกมสุดท้ายที่เราจะเจอ เมียนม่าร์ก็จะเล่นแบบถนอมตัว เพราะอย่าลืมว่า รอบรองชนะเลิศต้องเล่นกันแบบเหย้า-เยือน หากมีใครเจ็บหรือว่าติดเหลืองติดแดงมาก็อาจจะทำให้เรามีปัญหาในการผ่านเข้าไปเล่นในนัดต่อไปได้ “

2 เกมดวลมาเลย์,หม่องใช้สนามหญ้าเทียม
นอกจากนี้ “บิ๊กเษม”เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผจก.ทีม ชาติไทย ยังได้กล่าวถึงการที่ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟซูซุกิคัพ แจ้งมาว่า 2 เกมที่ไทยจะเจอกับ มาเลเซีย 26 พ.ย. และ เจอกับ เมียนม่าร์ 29 พ.ย. นี้จะย้ายไปแข่งขันที่สนามจาลันเบซา ซึ่งเป็นสนามหญ้าเทียม ทั้งสองนัด เนื่องจากสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ที่ปรับปรุงใหม่ไม่พร้อมที่จะใช้งานหนักจึงโยกให้ไปใช้สนามดังกล่าวแทน

“เวลานี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้จัดสนามใหม่โดยให้เราเล่นนัดสอง 26 พ.ย. กับ มาเลเซีย และ วันที่ 29 พ.ย. นี้กับ เมียนม่าร์ โดยโยกไป ใช้สนามจาลันเบซา ซึ่งเป็นสนามหญ้าเทียม ซึ่งตรงนี้ทางเราเองก็ได้ประสานงานไปยังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฯ”

“ โดยผมได้นำเรียนไปยัง นายก วรวีร์ มะกูดี  ว่าวันที่ 25 พ.ย. และ วันที่ 28 พ.ย. ก่อนเกมแข่งขัน1 วัน ไทยจะต้องขอซ้อมขึ้นเกมที่สนามจาลันเบซา พร้อมกันนั้น ได้รีบทำหนังสือแจ้งไปยังสิงคโปร์ว่า อย่างไรก็ตามต้องให้เราซ้อมก่อนเกม 1 วันโดยไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไม่ให้ความร่วมมือ”บิ๊กเษม”กล่าวทิ้งท้าย