"โรแบร์โต บาจโจ้" : ตำนานลูกหนังอิตาลีที่ทำให้ชายยุค 90's อยากไว้เปียทั่วบ้านทั่วเมือง

"โรแบร์โต บาจโจ้" : ตำนานลูกหนังอิตาลีที่ทำให้ชายยุค 90's อยากไว้เปียทั่วบ้านทั่วเมือง

"โรแบร์โต บาจโจ้" : ตำนานลูกหนังอิตาลีที่ทำให้ชายยุค 90's อยากไว้เปียทั่วบ้านทั่วเมือง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากจะพูดถึง โรแบร์โต้ บาจโจ้ ทุกคนคงโฟกัสไปกับเรื่องของการยิงจุดโทษพลาดในฟุตบอลโลกปี 1994 ซึ่งเป็นช็อตคลาสสิกอันดับ 1 จนทุกวันนี้

อย่างไรก็ตามในความผิดพลาดนั้นกลับส่งผลกับสังคมบางอย่าง การมีอยู่, ความผิดหวัง, และความเป็นตำนานของ บาจโจ้ ทำให้เทรนด์ของโลกเปลี่ยนไป นั่นคือการไว้ "ผมเปีย" ของเหล่าวัยรุ่นยุค 90's ที่พร้อมทำตามโดยเต็มใจ

ติดตามความผิดพลาดที่เปลี่ยนให้ บาจโจ้ กลายเป็นไอค่อนในยุคนั้นผ่านทรงผมแห่งความทรงจำได้ที่นี่

เรื่องที่หลายคนไม่รู้

เรื่องที่หลายคนรู้คือ โรแบร์โต้ บาจโจ้ คือกองหน้าที่ยิงจุดโทษพลาดในเกมกับทีมชาติบราซิล และภาพจำจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ความจริงข้ออื่นๆ ที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกครั้งนั้นหายไป

บาจโจ้ ที่ ณ เวลานั้นเป็นแข้งอัจฉริยะของ ยูเวนตุส เป็นปรากฎการณ์ของวงการฟุตบอลอิตาลี นำทัพอัซซูรี่ลงแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 แบบไม่ได้เป็นทีมเต็งหามอะไรเบอร์นั้น ทว่าเมื่อลงแข่งจริง บาจโจ้ กลายเป็นพระเอกที่กลายเป็นไฮไลต์ของฟุตบอลโลกครั้งนั้นไปโดยปริยาย 

1

บาจโจ้ เริ่มทัวร์นาเมนต์ด้วยการเป็นความหวังของทีม แต่ผลงานของเขากลับแย่ในรอบแบ่งกลุ่มเนื่องจากยิงประตูไม่ได้แถมผลงานทีมก็ยังกระท่อนกระแท่น ซึ่งเหตุการณ์ ณ เวลานั้นทำให้เขาโดนวิจารณ์ขนาดหนัก

ทว่าสุดท้ายทองแท้ไม่แพ้ไฟ เมื่อเข้าถึงรอบน็อคเอาต์ได้ บาจโจ้ ก็แบก อิตาลี อย่างชัดเจน จากผลงานแต่ละรอบที่มักจะแสดงเซ้นส์บอลแบบเหนือชั้น ไปจนถึงการยิงประตูในช่วงท้ายเกมเซฟชีวิต อิตาลี เสมอ ตลอดรอบน็อคเอาต์เขายิงไป 5 ลูก และได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปอีก 1 เกม ช่วงเวลานั้นทุกอย่างพลิกกลับเป็นปีของบาจโจ้ จนขนาดที่สื่อบางเจ้ายกให้เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ แม้ปลายทาง อิตาลี จะพลาดแพ้การดวลจุดโทษให้กับ บราซิล แต่ความจริงคือ บาจโจ้ คือพระเอกอย่างไม่ต้องสงสัย เขาโดดเด่นเปล่งประกายยิ่งกว่า โรมาริโอ กับ เบเบโต้ 2 แข้งเกมรุกทีมแชมป์อย่างบราซิลรวมกันเสียอีก

เรียกได้ว่าการก้าวผิดเพียงก้าวเดียวในครั้งสุดท้ายเปลี่ยนทุกอย่างไปสิ้นเชิง หาก บาจโจ้ ยิงเข้า เขาจะถูกกล่าวขานถึงเหมือนกับสิ่งที่ ดิเอโก้ มาราโดน่า ทำกับ อาร์เจนติน่า ในปี 1986 (พาทีมชาติคว้าแชมป์โลกและเป็นตำนาน) แต่เมื่อทำไม่ได้ภาพจำของเขาก็ถูกลดทอนจากความจริงไปเยอะ ความเก่งกาจถูกพูดถึงน้อยลง เหลือเพียงจังหวะพลาดจุดโทษลูกนั้นที่เข้ามาแทนที่..

2

อย่างไรก็ตามทุกอย่างนั้นมี 2 ด้าน ในความผิดพลาดนั้นทำให้เกิดแรงกระเพื่อมบางอย่าง และส่งผลไปยังวงการอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอล ... บาจโจ้ เอฟเฟ็กต์ เกิดขึ้นแล้วจากการยิงจุดโทษผิดพลาดครั้งนั้น

บูมถูกเวลา

ยุค 90's คือยุคที่มีผู้คนพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวมากมาย ในโลกฟุตบอลก็เช่นกัน ฟุตบอลโลก 1994 คือรายการที่ประสบความสำเร็จในแง่คนดูมากที่สุด และยังทำให้ชาติเจ้าภาพอย่างสหรัฐอเมริกาจุดกระแส "ซอคเก้อร์ ฟีเวอร์" ติด สามารถตั้งลีกอาชีพได้ยืนยาวจนถึงทุกวันนี้อีกด้วย

อีกนัยหนึ่ง ฟุตบอลโลก 1994 คือความคลาสสิกและเป็นฟุตบอลโลกสมัยแรกของใครอีกหลายคนที่ได้ดูด้วยตาตัวเอง เพราะ ณ เวลานั้นโทรทัศน์เริ่มเข้าถึงประชากรทั่วโลกมากขึ้น และนั่นทำให้ทุกช็อตทุกฉากของ บาจโจ้ อยู่ในความทรงจำของใครหลายคน แม้แต่คนไม่ดูฟุตบอลหากได้ลองเปิดใจดูการแข่งขันของ อิตาลี เพียงไม่กี่นาที เชื่อได้เลยว่าพวกเขาจะต้องหันมาถามคนข้างๆ เกี่ยวกับทรงผมของ โรแบร์โต้ บาจโจ้ อย่างแน่นอน เพราะมันแปลกกว่าใครๆ ในยุคนั้น บวกกับฝีเท้าที่เด่นที่สุดจึงทำให้ "ผมเปีย" ของเขากลายเป็นซิกเนเจอร์ไปโดยปริยาย

ซึ่งความโด่งดังของ บาจโจ้ นั้นนอกจากเรื่องฟุตบอลแล้ว ความเป็นไอค่อนของเขาก็เข้าปะทะกับยุคสมัยการเปลี่ยนผ่านของแฟชั่นยุค 90's พอดิบพอดี เพราะยุคนั้นมีการเกิดแบรนด์แฟชั่นมากมาย หลายแบรนด์บูมขึ้นผ่านการนำเสนอที่น่าจดจำเช่น แคมเปญจาก Calvin Klein ของ เคท มอส ที่สร้างคำศัพท์ทางแฟชั่นว่า "เฮโรอิน ชิค" (Heroin chic) เป็นต้น เรียกได้ว่าเทรนด์ต่างๆ เกิดขึ้นในยุค 90's รวมถึงทรงผมที่ชื่อว่า "เปียทองคำ" ของ บาจโจ้ ก็เป็นหนึ่งในแฟชั่นที่ถูกจดจำได้ติดตาเช่นกัน 

3

ทรงผมของบาจโจ้นั้นมีความแปลกกว่าใครๆ เพราะทรงผมเปียนั้นมักจะเป็นทรงที่นิยมของเด็กสาว เพียงแต่ว่าตัวของบาจโจ้เปลี่ยนแปลงมันเล็กน้อย เพราะเขาไม่ได้ไว้ผมยาวทั้งหัวแต่อย่างใด เขาตัดสั้นทั้ง 4 ด้านเหลือเพียงเปียที่ไว้เป็นหางม้าเล็กๆ อย่างเดียวเท่านั้น แต่นั่นก็กลายเป็นทรงผมระดับตำนานเมื่อบวกกับผลงานในฟุตบอลโลก 1994 ของเขา

ว่ากันว่าทุกอย่างบนโลกนี้จะเท่หรือไม่เท่นั้นขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งความจริงมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นหากเราพูดถึงทรงผมของ บาจโจ้ เพราะลีลาการเล่นที่ฝังใจ เด็กวัยรุ่นยุคนั้นหากถามว่าชอบนักฟุตบอลคนไหน แน่นอนว่าชื่อของ บาจโจ้ ต้องปรากฎเป็นชื่อแรกๆ แน่นอน หากเปรียบให้เห็นภาพ บาจโจ้ ในปี 1994 ก็เหมือน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในปัจจุบันนั่นแหละ เก่งกาจเกินใครจนทำให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอว่าเขาจะทำอะไรในวันนี้ ซึ่งแน่นอนว่า ทรงผม คือความประทับใจแรกและทำให้คนจำเขาได้ง่ายและดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม 

4

และเมื่อเป็นเช่นนั้น บางคนอาจจะบอกว่าทรงผมของเขาดูแย่ แต่สำหรับคำว่าแฟชั่นแล้วไม่มีสิ่งใดตายตัว คำว่า "ดี-ไม่ดี" ไม่มีจริงอะไรประมาณนั้น ทรงผมที่ว่าเท่ๆ หากอยู่กับคนที่ไม่เหมาะสมก็จะกลายเป็นทรงผมธรรมดาๆ ที่ไม่มีใครจำ ขณะที่ทรงผมที่แย่แต่อยู่กับคนที่ยอดเยี่ยม ก็เปลี่ยนเป็นทรงผมเจ๋งๆ ได้เช่นกัน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม บาจโจ้ จึงถูกจดจำในภาพชายผมเปียที่ยืนก้มหน้ามองพื้นหลังยิงจุดโทษพลาดในฟุตบอลโลก 1994 แม้ว่าจริงๆ แล้วเขาได้ตัดผมเปียทิ้งไปในอีก 3 ปีให้หลังก็ตาม

อยากเท่เหมือน "บาจโจ้"

เอาล่ะเรากลับมาที่เมืองไทยกันบ้าง เมื่อฟุตบอลโลกปี 1994 เป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกๆ ที่วัยรุ่นยุค 90's ได้ดูการถ่ายทอดสด และมันเป็นจังหวะดีกับที่วงการแฟชั่นเติบโตขึ้นมาพร้อมๆ กัน ดังนั้นเราจึงได้เห็นนักเตะหลายคนมีทรงผมเท่ๆ และสร้างภาพจำขึ้นมา ซึ่งนอกจาก บาจโจ้ แล้วยังมีทรงผมฟูย้อมทองของ คาร์ลอส วัลเดอราม่า จอมทัพทีมชาติโคลอมเบีย เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม อิตาลี คือหนึ่งในทีมที่แฟนบอลไทยเชียร์มากที่สุด ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะความเก่งกาจและแบกศักดิ์ศรีแชมป์ 3 สมัย (ก่อนได้เพิ่มปี 2006) ทว่าอีกส่วนหนึ่งหากไม่ต้องพูดถึงการย้อนอดีตและความสำเร็จเก่าๆ คือ "ความเท่" ของนักเตะอิตาลี ที่ไม่ว่าจะจิ้มไปที่นักเตะคนไหนก็หล่อโดดเด่นโดนใจ หากเป็นผู้หญิงก็ว่ากันว่านัยตาของเหล่าแข้งอัซซูรี่นั้นชวนหลงใหล และหากเป็นผู้ชายก็ต้องแพ้ให้กับความเท่ของสปอร์ตแมนที่เกินทาน

5

ดังนั้นเมื่อ บาจโจ้ สร้างตำนานไว้ในปี 1994 คำว่า "เท่เหมือนบาจโจ้" หรือคำเปรียบเทียบเรื่องความเก่ง+เท่ กับ บาจโจ้ จึงมีให้เห็นในกลุ่มวัยรุ่นชายเป็นประจำ โดยเฉพาะกลุ่มคนดูบอลที่พยายามจะเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่เหมือนๆ กับ บาจโจ้ แล้ว เรื่องทรงผมก็ไม่แพ้กัน หลังฟุตบอลโลกปี 1994 มีเด็กชาย, วัยรุ่น หรือผู้ชายอีกหลายคนที่เปิดใจกล้าไว้ทรงผมเปียเหมือนกับ บาจโจ้ แม้ว่า ณ เวลานั้นการที่ผู้ชายทำอะไรเหมือนกับผู้หญิงทำ (เช่นทำผมทรงผู้หญิง) มักจะโดนค่อนขอดและโดนแซวก็ตาม 

แต่ทว่าเมื่อ บาจโจ้ คือผู้สร้างเทรนด์เปียทองคำ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที เพราะด้วยความเก่งกาจในสนามบวกทรงผมที่ไม่มีใครทำ กลายเป็นความแตกต่างที่ทุกคนมองเห็นได้ชัดเจน และแน่นอนว่าเมื่อมี "ไอค่อน" ก็ย่อมมีคนทำตาม เมื่อนั้นทรงผมเปียในยุค 90's ของผู้ชายถือว่าเป็นทรงผมยอดนิยมแบบไม่มีใครข้องใจ ซึ่งแน่นอนว่าหากเห็นใครไว้เปียในยุคนั้นก็สามารถเดาได้เลยว่า "หมอนี่แฟนคลับบาจโจ้แน่นอน" 

6

เรียกได้ว่าทรงผมเปียทองคำของ บาจโจ้ นั้นเปลี่ยนหลายสิ่งทั้งในโลกของฟุตบอล วัฒนธรรมทางแฟชั่น ไปเลยทีเดียว หลังจากที่ผมเปียของเขาโด่งดัง นักฟุตบอลยุคหลังๆ ก็เริ่มหันมาสร้างอัตลักษณ์ให้ตัวเองผ่านทรงผมกันมากขึ้น ใครที่ทั้งเก่งในสนามและมีสไตล์นอกสนามก็จะสามารถต่อไปยอดไปสู่วงการอื่นๆ ได้ อาทิ เดวิด เบ็คแฮม เจ้าพ่อแฟชั่นทรงผมในอีกไม่กี่ปีต่อมา ที่ไม่ว่าเบ็คแฮมจะตัดผมทรงไหน และแปลกแค่ไหน สุดท้ายก็ยังมีคนพร้อมตัดตามโดยเต็มใจและภูมิใจเสมอ และนี่คือสิ่งที่เรียกว่า "อิทธิพลของคนดัง" และ ผมเปียของบาจโจ้เอง ก็ต้องถูกบรรจุอยู่ในคำนี้อย่างแน่นอน  

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ "โรแบร์โต บาจโจ้" : ตำนานลูกหนังอิตาลีที่ทำให้ชายยุค 90's อยากไว้เปียทั่วบ้านทั่วเมือง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook