บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วิถีแห่งแชมป์แบบมีสไตล์(เนวิน)
ทันทีที่ผู้ตัดสินพ่นลมผ่านนกหวีดยาวหมดเวลา ที่ "นิวไอ-โมบาย สเตเดี้ยม" บนชัยชนะเหนือ "เพื่อนตำรวจ" 2-1 ส่งให้ "บุรีรัมย์ ยุไนเต็ด" ประกาศศักดา ด้วยการเถลิงแชมป์ลีกสูงสุดของสยามประเทศ
โทรฟี่ลูกหนังเมืองไทยเดินทางมาอยู่กับทีมดังเมืองอีสาน เป็นสมัยที่ 3 และเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมกับมีโอกาสลุ้นทำสถิติครองแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัยซ้อน เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลลีกเมืองไทย
4 นัดแรกของซีซั่น ทีมเซาะกราว รูดไปอยู่ถึงอันดับที่ 14 ของตาราง ขอย้ำนะครับว่าอันดับ 14 ของตาราง!
ถามว่า ในเวลานั้น ใครเล่าจะคิดว่า ในบั้นปลาย "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" จะสร้างปาฏิหาริย์มาป้องกันแชมป์ได้
เสียงแรกหลังจากสอยแชมป์ "เนวิน ชิดชอบ" นายใหญ่ประจำทีมปราสาทสายฟ้า ประกาศทันทีว่านี่คือแชมป์ที่ยากลำบากที่สุด ตั้งแต่ทำทีมมา 5 ปี
บิ๊กบอสของสโมสรบุรีรัมย์ เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "ปัจจัยแห่งความสำเร็จ มันมาจากเลือดนักสู้ของนักเตะ และฐานแฟนบอลในสนามอย่าง GU12 ที่อยู่ข้างทีมตลอดมา ขอบคุณและขอบคุณพวกคุณจริงๆ"
เส้นทางสู่ตำแหน่ง "แชมป์ 2014" ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้ ต้องบอกว่า "แทบกระอักเลือด"
หนทางนั้นเต็มไปด้วยขวากหนาม ทั้งในและนอกสนาม
ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ บวกกับตัวหลักอย่าง "การ์เมโล่ กอนซาเลซ" โดนแบนยาว ด้วยข้อหาที่หลายคนมองว่า รุนแรงเกินไปหรือปล่าว? แต่ท้ายสุด พวกเขาก็ผ่านมันมาได้หน้าตาเฉย โดยไม่ยีระต่อแรงเสียดทานรูปแบบนี้
เส้นทางสู่แชมป์ ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนเช่น 2 ครั้งก่อน คือสิ่งที่บ่งบอกว่า "บุรีรัมย์ต้องทำงานหนักขึ้น" เพราะคู่แข่งในลีกพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน
ชลบุรี เอฟซี , บีอีซี เทโรศาสน หรือแม้แต่คู่ปรับอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ต่างก็ยกระดับผลงานในสนามอย่างน่าทึ่ง เชื่อว่าซีซั่นหน้าบุรีรัมย์เผชิญหน้ากับงานมหาหินเป็นแน่
ความสำเร็จด้วย พร้อมดีกรีแชมป์ของสโมสรฟุตบอลแบบ "จังหวัดนิยม"(คนในจังหวัดย่อมรัก และ ต้องเชียร์ทีมจังหวัดตัวเองวันยังค่ำ) เช่นบุรีรัมย์
มันคือตัวบ่งบอกเลยว่า ดินแดนแห่งนี้ เมื่อ 5 ปีก่อน กับห้วงเวลานี้ มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และผมก็ยังยืนยันว่ามันเป็นเยี่ยงนั้นจริงๆ
ใครจะไปคิดว่า "จังหวัด" ที่เคยเป็นแค่ "เมืองทางผ่าน" ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับประเทศ แถมยังไร้ซึ่งทรัพยากรระดับพรีเมี่ยม จะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ชาวบุรีรัมย์ในวันนี้ พวกเขาฟันฝ่าไปพร้อมกับการนำ ของชายที่คนทั่วบุรีรัมย์ซิตี้ ขนานนามว่า "ลุงเน"
หลายคนที่ตั้งแง่สงสัยว่าอดีตนักการเมือง มันก็คือนักการเมืองอยู่วันยังค่ำ จะให้สลัดคราบนั้นได้อย่างไร?
อยากให้มองมุมใหม่กันบ้างนะครับ...........อดีตที่ผ่านมาแน่นอนว่า "เนวิน ชิดชอบ" ในบทบาทนักการเมือง "คนรักก็เยอะ คนชังก็แยะ"
วิถีทางของการเคยรับบทนักการเมือง ที่หลายคนแทบจะร้องยี้ ค่อยๆจางลงไป ในทุกๆวัน
ภาพของชายผู้บ้าคลั่งกีฬา,ใจใหญ่ และ กล้าที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าแม้แต่จะคิด!
สนามแข่งรถระดับโลกอย่าง "ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต" และสนามฟุตบอลที่ผ่านการรับรองจากฟีฟ่าอย่าง "นิวไอ-โมบาย สเตเดี้ยม"
คือคำตอบที่ว่า "เนวิน ชิดชอบ" กับ "กีฬา" มันคือ "การเสพติดสปอร์ตขั้นรุนแรง ที่ยากยิ่งจะหายามารักษาได้"
รอบเมืองบุรีรัมย์ และ ถนนทุกสายต่างๆ ที่มุ่งตรงเข้าสู่จังหวัด บัดนี้เต็มไปด้วยรีสอร์ท และ โรงแรม เพื่อรองรับดินแดนสวรรค์ของคนรักกีฬา
เศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดทะยานสูงขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และนี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่า "บุรีรัมย์" เจริญขึ้นแบบสุดโต่งเฉกเช่นนี้ ก็ด้วยน้ำมือของคำว่า "กีฬา" โดยแท้
สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผ่านการฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางแฟนบอลเซาะกราว ที่แห่กันเข้ามาชมเกมนัดสุดท้าย เต็มความจุ 32,000 ที่นั่ง เป็นอะไรที่ชื่นมื่นไปทั้งจังหวัด
งานรื่นเริงยิงยาวไปดึกดื่น ให้สมกับความเหน็ดเหนื่อยที่เจอมาตลอดฤดูกาล
และนี่ คือรางวัลตอบแทน ที่แฟนบอลและนักเตะ ได้ดีใจ และ เสียใจร่วมกันมาตลอด 9 เดือนเต็มๆ
ภาพที่ออกมา มันบ่งบอกว่าพวกเขาสุขีสุโข แค่ไหน กับการถีบตัวเองจากอันดับที่ 14 แล้วมาลงเอยด้วยคำว่า "แชมป์"!
ผลพวงของความสำเร็จที่บุรีรัมย์ประสบมาตลอด 5 ปี มันมาจากการคิดจริงทำจริง ที่สำคัญพวกตั้งใจลงมือทำมันจริงๆ
"3 แชมป์ลีกสูงสุดใน 5 ปี" คือสิ่งที่ทีม "ปราสาทสายฟ้า" แสดงให้เห็นว่า พวกเขาพร้อมวิ่งชนความสำเร็จ แม้ต้องเจอกับอุปสรรค ด้วยคำว่า "มืออาชีพ"
และนี่คือทั้งหมดของสโมสรฟุตบอลเบอร์ 1 ของเมืองไทย ที่ชื่อว่า "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" บนทางเดินรูปแบบ "เนวินสไตล์"!!
เรื่องโดย : บ.ส้มซิ่ง