ขัดความสุข?

ขัดความสุข?

ขัดความสุข?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่าดีใจหลังทำประตูได้ คือส่วนประกอบของเกมลูกหนัง ที่ทำให้มันลงตัวมากยิ่งขึ้น เพราะว่ามันเหมือนเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ของผู้ทำประตูได้อย่างเต็มที่

บางคนเครียด อัดอั้นตันใจ เพราะยิงประตูไม่ได้มานาน บางคน สะใจสุด ๆ เพราะว่าเป็นเกมที่เดิมพันสูง การยิงประตูได้เป็นเหมือนการปลดแอก ยิ่งเฉพาะประตูนั้นมาในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย การแสดงอารมณ์ออกมา มันก็เหมือนเป็นการทำให้แฟนบอลอย่างเราๆ มีอารมณ์ร่วมไปกับนักเตะไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเดียวกันหรือฝั่งตรงข้าม

ท่าดีใจเท่ๆ ถูกครีเอตขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นท่าประจำหรือเฉพาะกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นที่มุมธงของ โรเจอร์ มิลล่า ตำนานนักเตะของ แคเมอรูน หรือจะเป็น เบเบโต้ ดาวยิงทีมชาติบราซิล ที่ทำท่าไกวเปลอุ้มลูกที๋โด่งดังในศึกฟุตบอลโลก 1994 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

รวม 10 สุดยอดท่าดีใจของฟุตบอลโลกที่อยู่ในความทรงจำ

ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่ ดาวยิงหัวหงอกชาวอิตาลี ก็เคยทำท่าเอาเสื้อมาคลุมหัว เป็นไอ้โม่ง ก็กลายเป็นท่าที่ฮอตฮิต สำหรับเด็กๆ ที่เตะบอลในยุคนั้น ที่เมือทำประตูได้ ก็ต้องทำตาม ราวาเนลลี่ กันเป็นแถบ

"เดอะหงอก" กับท่าดีใจที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นหน้าแค่จำท่ากรูได้ก็ฟินแล้ว

แต่ว่าความจริงอันน่าโหดร้ายคือ หาก ราวาเนลลี่ เกิดช้ากว่านี้อีกราว 10 ปี เขาคงต้องเปลี่ยนท่าดีใจแล้วล่ะ เพราะว่าการทำแบบนั้นมันแลกมาซึ่งใบเหลือง ทั้งๆ ที่พูดตรงๆ ดูแล้ว การถลกเสื้อขั้นมามันก็ไม่น่าจะร้ายแรงขนาดนั้น
 
ฟุตบอลยุคนี้ นอกจากนักเตะต้องระวังการโดนใบเหลืองจากการตัดฟาวล์, ด่าผู้ตัดสิน พวกเขายังต้องมาคือเผื่ออีกช็อตว่า หากยิงเข้า ท่าดีใจที่จะทำ มันจะผิดกฎกติกาหรือไม่ ซึ่ง ตลกดีนะครับ ยิงเข้าแทนที่จะได้ปลดปล่อยอารมณ์กันแบบเต็มที่ กลับต้องมาโดนใบเหลืองแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
 
กรณีที่เป็นประเด็น สดๆ ร้อนๆ ก็หนีไม่พ้น เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงชาวอุรุกวัย ของ เปแอสเช ที่ดีใจด้วยท่าทางเหนี่ยวไกยิงปืน ทำให้โดนใบเหลือง แน่นอนครับว่า "เอล มาทาดอร์" ก็คงงงๆ ว่าตูไปทำอะไรผิด ก็เลยไปขอคำอธิบาย ก่อนที่จะโดนเหลืองอีกใบ โดนไล่ออกจากสนามทันที

คาวานี่ออกอาการแต๋วแตกหลังโดนเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากท่าดีใจ(ลักษณะยิงปืน)

หรือจะเป็นก่อนหน้านี้ ลิโอเนล เมสซี่ เคยโดนใบเหลืองจากการถลกเสื้อโชว์ข้อความบนเสื้อตัวข้างในอวยพรวันเกิดแม่ ซึ่งมันเป็นตรรกะที่ป่วยมาก ๆ
 
องค์การบิ๊กแห่งวงการลูกหนังอย่าง ฟีฟ่า ควรจะมองเป็นเคสดีกว่าไหม ว่า มันเป็นข้อความทางการเมืองหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ค่อยลงดาบ
 
ล่าสุด โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ยิงประตูตีเสมอเชลซี ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นั้นก็แสดงอาการสะใจด้วยการถอดเสื้อแบบลืมตัว แต่กลายเป็นว่า โดน หลุยส์ ฟาน กัล ผู้เป็นกุนซือ ด่าว่าเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดซะอย่างนั้น ซึ่งก็ต้องโทษกฎนั่นแหละ เพราะถ้าหากวาเกิด อาร์วีพี โดนใบเหลืองไปก่อน เขาก็จะโดนแดงทันที

การถอดเสื้อของอาร์วีพีมันก็คือการปลดปล่อยจากช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่กลับถูกใบเหลืองแบบที่ไม่น่าจะโดน

ท่าดีใจต่าง ๆ มันเหมือนกับศิลปะ ที่คอยแต่งแต้มให้วงการฟุตบอลมีสีสัน แต่ตอนนี้ มันกลับกลายเป็นเหมือนโดนฟีฟ่า บีบ ไม่ให้จิตรกร ได้สร้างผลงานของตัวเอง ต้องเขียนงานตามใบสั่งแทนที่จิตวิญญาณ
 
อีกไม่นาน ท่าดีใจชูมือขวาของ อลัน เชียเรอร์ นั่นล่ะครับ จะเป็นท่าที่เห็นกันดาษดื่น ในวงการ เพราะว่าท่านี้ มันถูกต้องตามหลักที่ ฟีฟ่า ต้องการทุกประการ

The Nut

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook