[OPINION] เซร์คิโอ โรเมโร่ : นายทวารมือสองฝีมือดีที่ "น่าสงสาร" มากที่สุดในโลก

[OPINION] เซร์คิโอ โรเมโร่ : นายทวารมือสองฝีมือดีที่ "น่าสงสาร" มากที่สุดในโลก

[OPINION] เซร์คิโอ โรเมโร่ : นายทวารมือสองฝีมือดีที่ "น่าสงสาร" มากที่สุดในโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"มือสองที่ดีที่สุดในโลก" เป็นฉายาที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกให้กับ เซร์คิโอ โรเมโร ผู้รักษาประตูชาวอาร์เจนไตน์ วัย 33 ปี ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพราะถึงแม้จะต้องประจำอยู่บนม้านั่งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ในระหว่างนั้นเจ้าตัวก็ยังยึดมือหนึ่งในแคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินาเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แถมยังมีฟอร์มการเซฟที่คงเส้นคงวาจนทำให้เขาติดธงรับใช้ชาติไปแล้วมากถึง 96 นัดด้วยกัน

"แจ้งเกิดที่ ปักกิ่ง"

ย้อนกลับไปในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อปี 2008 โรเมโร สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองโดยพาทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าเหรียญทองในการแข่งขันฟุตบอลชายด้วยการเอาชนะ ทีมชาติไนจีเรีย ในรอบชิงชนะเลิศ 1-0 ประตูชัยของ อังเคล ดิ มาเรีย ในนาทีที่ 58 จนทำให้ช่วงซัมเมอร์เดียวกันนั้น เขาถูก อาแซด อัลค์มาร์ ดึงตัวมาค้าแข้งที่ยุโรปเป็นครั้งแรกและยึดมือหนึ่งของทีมได้แทบจะทันทีตั้งแต่ในปีแรกที่ย้ายมาเล่นในแดนกังหันลม

(From top L) Argentinian midfielder Juan(From top L) Argentinian midfielder JuanArgentinian U23 | AFP/Getty Images

ความผิดหวังในฐานะ "รองแชมป์"

แต่แล้วปี 2011 โรเมโร ตัดสินใจย้ายทีมอีกครั้งโดยคราวนี้เป็น ซามพ์โดเรีย ทีมดังใน กัลโช เซเรีย อา ที่ซื้อไปร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 2 ล้านปอนด์ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าตัวสามารถยึดมือหนึ่งในนามทีมชาติมาครองได้เป็นที่เรียบร้อย จนในปี 2014 โรเมโร ติดทีมชาติอาร์เจนตินา ไปลุยศึกฟุตบอลโลกที่บราซิลในตำแหน่งผู้รักษาประตูหมายเลข 1 ของทีมฟ้าขาว ซึ่งก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายสุด ๆ ที่ ทีมชาติอาร์เจนตินา ทำได้แค่เพียงเป็นพระรองในปีนั้นและกลับบ้านไปพร้อมกับความผิดหวังในฐานะรองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 ด้วยการพ่ายต่อ ทีมชาติเยอรมนี ในช่วงต่อเวลาพิเศษรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ โรเมโร เคยออกมาเปิดเผยว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าเสียดายที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเขา

Mario Goetze, Sergio RomeroMario Goetze, Sergio RomeroGermany v Argentina: 2014 FIFA World Cup Brazil Final | Matthias Hangst/Getty Images

ชีวิตใน "โรงละครแห่งความฝัน"

ช่วงหน้าร้อนปี 2015 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาลกัล ได้ทำการกระชากตัวนายทวารรายนี้มายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แบบไร้ค่าตัว ซึ่งในปีนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นปีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีผู้รักษาประตูระดับโลกถึง 3 คนอยู่ในทีมทั้ง ดาบิด เด เคอา วิคตอร์ บัลเดส และ เซร์คิโอ โรเมโร แต่สุดท้าย ฟานกัล ยังคงเชื่อมั่นในตัว เด เคอา ให้เป็นนายทวารมือ 1 ของทีม ทำให้ โรเมโร จำต้องนั่งรอโอกาสอยู่ข้างสนามและแทบไม่ได้รับโอกาสเลยในปีดังกล่าว กระทั้งทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 5 และสามารคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ แต่นั่นก็ไม่สามารถต่ออายุกุนซือใหญ่ชาวฮอลแลนด์ให้อยู่กับทีมต่อไปจนต้องแยกทางกันในที่สุด เปิดทางให้ยอดกุนซืออย่าง โชเซ มูรินโญ เข้ามาทำหน้าที่แทนในปีถัดมา

Sergio RomeroSergio RomeroSouthampton v Manchester United - Premier League | Tony Marshall/Getty Images

"เฮียมู" เหมือนจะให้โอกาส

ฤดูกาล 2016/17 ภายใต้การคุมทีมของเดอะสเปเชียลวันนั้น หน้าที่ของผู้รักษาประตูจะถูกแบ่งเอาไว้ค่อนข้างชัดเจน โดย ดาบิด เด เคอา ได้รับมอบหมายให้เฝ้าเสาในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นหลัก ส่วน โรเมโร รับหน้าที่ในฟุตบอลถ้วยรายการต่าง ๆ รวมถึง ยูโรปาลีก ที่สุดท้ายทีมสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในที่สุด โดยหนึ่งคนที่ได้รับเครดิตไปเต็ม ๆ นั่นก็คือ เซร์คิโอ โรเมโร ที่ลงสนามแทบจะทุกนัดในรายการนี้ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ แถมเก็บไปได้ถึง 8 คลีนชีทจาก 12 นัดที่ลงสนาม จนแฟน ๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกับตั้งฉายาให้กับเขาว่าเป็น "ประตูมือสองที่ดีที่สุดในโลก" กันเลยทีเดียว

Sergio RomeroSergio RomeroAjax v Manchester United - UEFA Europa League Final | Catherine Ivill - AMA/Getty Images

"ยุคมึด" เริ่มมาเยือน

ฤดูกาลต่อมา แม้ก่อนหน้านี้จะเคยถูกยกให้เป็นมือสองขั้นเทพ แต่ โรเมโร ก็ยังคงตกเป็นพระรองของ เด เคอา เช่นเคย แถมในปี 17/18 และ 18/19 บทบาทในถ้วยยุโรป ที่ทีมได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็กลับถูกนายด่านมือหนึ่งชาวสเปนยึดสัมปทานไป นั่นจึงทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นเพียงฟุตบอลถ้วยในประเทศเท่านั้น และด้วยเหตุนั้นเองที่ทำให้ในที่สุด โรเมโร ก็ไม่มีชื่อติดทีมชาติไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา กระทั่งสุดท้ายความสำเร็จในสองฤดูกาลแรก ก็มิอาจช่วยยืดชีวิต เฮียมู ในฐานะผู้จัดการทีมปีศาจแดงต่อไปได้ ด้วยผลงานที่ตกต่ำจนน่าใจหายในซีซั่น 2018/19 สุดท้าย เดอะแฮปปี้วัน ก็ถูกไล่ตะเพิดออกจากตำแหน่งไปตั้งแต่ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งฤดูกาล และเป็น โอเล กุนนาร์ โซลชา อดีตกองหน้าตำนานสโมสรเข้ามาทำหน้าที่แทนนับจากนั้น

FBL-ENG-PR-MAN UTD-HUDDERSFIELDFBL-ENG-PR-MAN UTD-HUDDERSFIELDFBL-ENG-PR-MAN UTD-HUDDERSFIELD | PAUL ELLIS/Getty Images

นี่หรือความไว้วางใจ ของ โซลชา ?!

ถัดมาในฤดูกาลปัจจุบันที่แม้ โอเล กุนนาร์ โซลชา ดูจะเริ่มกลับมาให้โอกาสนายทวารชาวอาร์เจนไตน์มากขึ้น นั่นก็อาจเป็นเพราะทีมไม่ได้ไปเล่นในรายการใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยในปีนี้ โซลชา กลับมาแบ่งหน้าที่กันชัดเจนอีกครั้งด้วยการให้ เด เคอา เฝ้าเสาในเกมลีก ส่วน โรเมโร ดูแลบอลถ้วยรวมถึง ยูโรปา ลีก แต่...

ต้องบอกเลยว่าในช่วงปีหลังแม้ เด เคอา จะฟอร์มตกต่ำย่ำแย่ทำพลาดมากขนาดไหน โรเมโร ก็ยังคงต้องอดทนรอและนั่งดูทีมฝ่าฟันผ่านยุคมึดอยู่บนม้านั่งสำรองต่อไปโดยที่ไม่เคยถูกมองว่าเป็นนายทวารตัวหลักของทีม ที่บอกว่าเป็นเช่นนั้นก็เพราะขนาด โรเมโร พาทีมทะลุมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายในถ้วย เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลนี้ แต่เมื่อถึงเกมสำคัญ โซลชา กลับเปลี่ยนมาใช้ เด เคอา ที่แม้ฟอร์มจะอยู่ในช่วงขาลง รับโอกาสลงมาเฝ้าเสาแทนอย่างหน้าตาเฉย... ทำไมกัน ? นี่คงเป็นคำถามที่ทั้ง โรเมโร และแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนได้แต่คิดอยู่ในใจ อุตส่าใช้โอกาสอันน้อยนิดทำมาแทบตาย สุดท้ายพอเกมใหญ่กลับไม่ได้รับโอกาส แถมต้องมานั่งดูทีมตกรอบชนิดที่สร้างมากับมือ แต่กลับทำได้แค่ยืนมองคนอื่นมาทำพังไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ตัวเองไม่มีโอกาสช่วยทีมได้เลยแม้แต่นิดเดียว

Ole Gunnar Solskjaer, sergio romeroOle Gunnar Solskjaer, sergio romeroChelsea FC v Manchester United - Carabao Cup Round of 16 | Chloe Knott - Danehouse/Getty Images

ความน่าสงสารยังไม่จบแค่นั้น !

แม้ยังมีฟุตบอลถ้วยอย่าง ยูโรปา ลีก ให้ โรเมโร ได้ลงเล่นอยู่ในปีนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าหากเข้าถึงรอบลึก ๆ แล้ว โอเล กุนนาร์ โซลชา จะหักดิบส่ง ดาบิด เด เคอา ลงมาเล่นแทนอีกเหมือนในรายการ เอฟเอ คัพ ที่ผ่านมาอีกหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารดาวรุ่งที่ถูกส่งให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัว กลับทำผลงานได้ดีจนมีข่าวว่าทีมเตรียมดึงเข้ามาเบียดแย่งมือหนึ่งกับ เด เคอา ไม่เว้นแต่ละวัน ชนิดที่เรียกได้ว่ามองข้ามหัวของ โรเมโร กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมานายด่านชาวอาร์เจนตินา รายนี้ ทั้งอดทนทั้งทุ่มเททำเพื่อสโมสรมาโดยตลอด

Dean HendersonDean HendersonSheffield United v Chelsea FC - Premier League | Visionhaus/Getty Images

ดูจากสภาพทีมจนถึงตอนนี้ ก็คงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเราน่าจะไม่ได้เห็น โรเมโร ก้าวขึ้นมาเบียดแย่งตำแหน่งนายทวารมือหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และต้องยอมก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมการเป็นมือสองที่ถูกลืม นั่งตบยุงรออยู่ข้างสนามเพื่อที่จะได้ลงเล่นเมื่อมือ 1 บาดเจ็บ หรือเมื่อทีมต้องการโรเทชั่นนักเตะในรายการเล็ก ๆ เหมือนกับมือสองคนอื่น ๆ ในวงการ ทั้งที่ตลอดมาดีกรีและฝีมือของเขานั้น เรียกได้ว่าสามารถไปเป็นมือหนึ่งให้กับทีมใหญ่ ๆ ได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งการมาของ ดีน เฮนเดอร์สัน ในอนาคตอันใกล้ ดูจะยิ่งทำให้เส้นทางของเขาในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อาจต้องสิ้นสุดลงแค่ปี 2021 นี้หลังจากหมดสัญญากับทีม ปิดฉากอดีต "มือสองที่ดีที่สุดในโลก" ไปด้วยความน่าสงสารโดยแทบไม่ได้รับการยอมรับหรือไว้วางใจจากบรรดาผู้จัดการทีมปีศาจแดงเลยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา

สุดท้ายนี้.. หลายคนอาจจะมองว่าถ้ากุนซือไม่ไว้ใจ แล้วที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลถ้วยตลอดเวลาที่ผ่านมาล่ะคืออะไร ? ก็คงได้แต่ถามกลับไปว่า ถ้าไม่ใช่รายการเล็ก ๆ ที่ส่งลงไปเล่นเพื่อพักโรเทชั่นนักเตะตัวหลัก เขาเคยได้โอกาสด้วยหรือ ? ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เคยได้เล่นไหม ? ถ้าทีมยังไม่เข้ารอบร้อยเปอร์เซ็น หรือที่ชัดเจนที่สุด แค่เกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 ทีมสุดท้าย ก็ยังโดนริบโอกาสที่ควรจะเป็นของเขาไปเลยด้วยซ้ำ.. นี่หรือที่เรียกว่า "ความไว้วางใจ" ที่ตอบแทนให้กับผู้รักษาประตูผีมือดีผู้น่าสงสารรายนี้ คงต้องฝากไว้ให้คิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook