"5 คีย์แมน" ที่พา "เสือใต้" คว้าแชมป์ในบุนเดสลีกาเป็นซีซั่นที่ 8 ติดต่อกัน

"5 คีย์แมน" ที่พา "เสือใต้" คว้าแชมป์ในบุนเดสลีกาเป็นซีซั่นที่ 8 ติดต่อกัน

"5 คีย์แมน" ที่พา "เสือใต้" คว้าแชมป์ในบุนเดสลีกาเป็นซีซั่นที่ 8 ติดต่อกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา บาเยิร์น มิวนิค ตกที่นั่งลำบากในการตามล่าแชมป์ ด้วยการหล่นลงไปรั้งอันดับ 7 บนตารางลีกสูงสุดของเยอรมนี แต่ในที่สุดทัพ "เสือใต้" ก็สามารถทะยานกลับขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกันได้สำเร็จ

มาดูกันเลยว่ามีนักเตะคนไหนบ้างที่ถูกยกให้เป็นคีย์แมนแห่งความสำเร็จของบิ๊กทีมจากแคว้นบาวาเรียในฤดูกาลนี้

1) โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
untitled-1

ขาดไม่ได้จริงๆ สำหรับสไตรเกอร์ชาวโปแลนด์คนนี้ ตามสถิติแล้วหากไม่มีเลวาน ป่านนี้บาเยิร์นคงไล่ตามโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และไลป์ซิก อยู่สิบกว่าแต้มได้ หลังเลวานดอฟสกี้เริ่มต้นซีซั่นนี้ด้วยการกดสองประตูใส่แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เขาก็สามารถยิงประตูชัยให้ทีมชนะถึง 7 นัด แถมยังยิงได้เกิน 30 ประตูในฤดูกาลเดียวเป็นครั้งที่สองในชีวิตการค้าแข้ง โดยที่ผ่านมามีเพียง 6 นัดเท่านั้นที่เขาทำประตูไม่ได้ และเลวานก็กำลังจ่อคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดแห่งบุนเดสลีกาเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งในอดีตมีเพียง แกร์ด มึลเลอร์ ศูนย์หน้าในตำนานเท่านั้นที่เคยทำสำเร็จ

นอกจากนี้ เลวานยังขยับสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของบุนเดสลีกาจากอันดับ 5 ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ด้วยผลงานรวม 233 ประตู ยังไม่พอ เขาคือนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงได้ตลอด 11 นัดแรกของฤดูกาลด้วยผลงาน 16 ประตู แถมยังยิงประตูคู่แข่งในบุนเดสลีกาครบทั้ง 18 สโมสรแล้วด้วย

2) อัลฟอนโซ เดวีส์
untitled-2

เดวีส์คือนักเตะที่พัฒนาฝีเท้ามาได้รวดเร็วมาก แม้จะอายุเพียง 19 ปี แต่ดาวรุ่งจากแคนาดากลับโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลก เดวีส์โดดเด่นมากในเรื่องความเร็ว ซึ่งบาเยิร์นได้นำจุดเด่นนี้มาใช้เป็นอาวุธในการเล่นเกมสวนกลับ นอกจากนี้ เดวีส์ยังยิงประตูได้ดีด้วยเช่นกัน งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ยอดกุนซืออย่างฮันซี่ ฟลิค และอดีตแบ็คซ้ายที่ถูกจับไปยืนเซ็นเตอร์อย่าง ดาวิด อาลาบา ที่คอยโค้ชให้เจ้าหนูลมกรดจนสามารถสอบผ่านฉลุยในฤดูกาลแรกบนเวทีบุนเดสลีกา ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่เดวีส์มาแรงจริงๆ อย่างที่ฮันซี่ ฟลิค ออกมากล่าวว่าเดวีส์สามารถปรับตัวมาเล่นเกมรับได้อย่างดี แถมยังเล่นเกมรุกได้น่ากลัว จ่ายแอสซิสต์ก็ได้ และยังยิงประตูเองได้อีกด้วย

ก่อนเริ่มฤดูกาล เดวีส์เคยลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายเพียง 6 เกมเท่านั้น แต่นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 มาจนถึงตอนนี้ เดวีส์ลงเล่นในตำแหน่งนี้ไปแล้วถึง 28 นัด ทำสถิติวิ่งเร็วที่สุดในบุนเดสลีกาด้วยสปีด 22.7 ไมล์ต่อชั่วโมงในเกมพบแวร์เดอร์ เบรเมน ในแมตช์เดย์ 32

3) โทมัส มึลเลอร์
untitled-3

นี่คือฤดูกาลที่มึลเลอร์ทำผลงานได้ทรงประสิทธิภาพสุดๆตั้งแต่เคยทำมาเลยทีเดียว กองหน้าตัวเก๋าชาวเยอรมันคนนี้ได้โอกาสกลับมาลงเล่นในตำแหน่ง "ผู้เล่นเบอร์ 10" อีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของฟลิค ยิงไปได้ 7 ประตูและทำแอสซิสต์สูงถึง 20 หนจนสตาร์ทีมบาร์เซโลน่าที่ถูกยืมมาช่วยเกมรุกอย่างฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ต้องถูกเบียดออกไปนั่งดูเพื่อนบนม้านั่งสำรองทีเดียว มึลเลอร์กำลังมีลุ้นเป็นผู้เล่นที่จ่ายแอสซิสต์สูงสุดในบุนเดสลีกาซีซั่นนี้หลังเก็บเหรียญแชมป์บุนเดสลีกาไปประดับตู้โชว์ที่บ้านเป็นสมัยที่ 9 เข้าไปแล้ว

20 แอสซิสต์ของมึลเลอร์ในซีซั่นนี้ทำให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิติทำแอสซิสต์สูงสุดในฤดูกาลเดียวร่วมกับเควิน เดอ บรอยน์ และด้วยวัย 30 ปี มึลเลอร์ได้ทำสถิติลงสนามครบ 500 เกมเข้าไปแล้ว

4) โยชัว คิมมิช
gettyimages-1249475623-594x

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว คิมมิชถูกยกให้เป็นแบ็กขวาที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกา แต่ในฤดูกาลล่าสุดเขาถูกปรับตำแหน่งให้มาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับอย่างเต็มตัว โดยมีเบนฌาแม็ง ปาวาร์ เข้ามาทดแทนตำแหน่งเดิม ในเกมแดร์คลาสสิกเคอร์นัดล่าสุด คิมมิชเป็นผู้ยิงประตูสำคัญด้วยการชิพบอลข้ามหัวโรมัน เบือร์กี้ เข้าไปอย่างสุดสวย แต่นั่นเป็นเพียงหนึ่งในผลงานที่แข้งวัย 25 ปีคนนี้ช่วยให้บาเยิร์นประสบความสำเร็จ คิมมิชเป็นนักเตะจอมขยันที่วิ่งไปทั่วสนามตลอด 90 นาทีแบบไม่มีหมด เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนน่าจะเริ่มจินตนาการภาพแข้งมิดฟิลด์รายนี้ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชูถาดแชมป์บุนเดสลีกาเช่นเดียวกับ ฟิลิปป์ ลาห์ม กันบ้างแล้ว รอเพียงแค่เวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง

คิมมิชมีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 92% มีสถิติสัมผัสบอล (3,003 ครั้ง) และวิ่งระยะทางรวม (231 ไมล์) สูงที่สุดในบุนเดสลีกา แล้วยังเป็นผู้เล่นที่ได้ลงสนามมากที่สุดในทีมบาเยิร์น หากไม่นับรวมผู้รักษาประตู

5) แซร์จ นาบรี้
ef0kim2xuaak4ar

หลังถูกโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 2018/19 ของบาเยิร์น แข้งทีมชาติเยอรมนีก็กลับมาแผลงฤทธิ์ให้กับทีม "เสือใต้" เป็นฤดูกาลที่สอง เล่นงานกองหลังคู่แข่งได้อย่างสนุกเท้าทั้งในเกมลีกและเวทีแชมเปียนส์ลีก โดยเฉพาะในเกมพบกับสเปอร์สที่เขายิงคนเดียวถึง 4 ประตู และทำอีก 2 ประตูในการพบกับเชลซี นาบรี้มาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงแมตช์เดย์ 11 ถึง 25 เมื่อยิงและจ่ายในลีกรวมกันถึง 15 ประตูช่วยให้ทีม "เสือใต้" แซงไลป์ซิกกลับมาทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนได้สำเร็จ

นี่เป็นฤดูกาลที่นาบรี้โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดด้วยผลงาน 10 ประตู 11 แอสซิสต์ มีอัตราเฉลี่ยยิง 1 ประตูหรือจ่าย 1 แอสซิสต์ในทุกๆ 1.46 เกมลีก และจากการลงเล่นในบุนเดสลีกามา 4 ซีซั่น นาบรี้มีสถิติยิงได้ 10 ประตูเป็นอย่างต่ำเสมอ

นิโก้ โควัช อดีตกุนซือทีม "เสือใต้" เคยออกมาชมนาบรี้ว่าเป็นผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสที่หายากในบุนเดสลีกา เขายิงประตูได้ด้วยเท้าทั้งสองข้างและใช้ความเร็วเป็นอาวุธจัดการคู่แข่งได้เสมอ เช่นเดียวกับคิมมิชที่เคยพูดถึงนาบรี้ว่า นักเตะตัวรุกแบบนี้แหละที่เขากลัวเวลาโดนบุก

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ ของ "5 คีย์แมน" ที่พา "เสือใต้" คว้าแชมป์ในบุนเดสลีกาเป็นซีซั่นที่ 8 ติดต่อกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook