"แมตต์ นีล" : โค้ชบ้านๆจาก FM ที่กลายเป็น "หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล" ให้สโมสรอาชีพ

"แมตต์ นีล" : โค้ชบ้านๆจาก FM ที่กลายเป็น "หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล" ให้สโมสรอาชีพ

"แมตต์ นีล" : โค้ชบ้านๆจาก FM ที่กลายเป็น "หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล" ให้สโมสรอาชีพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากย้อนกลับไปเมื่อราว 10-20 ปีก่อน วิดีโอเกม ดูเหมือนจะเป็นปีศาจร้ายในสายตาผู้ปกครอง เมื่อในมุมมองของพวกเขา มันคือสิ่งที่ดูดเวลาในการอ่านหนังสือ ที่อาจจะทำให้บุตรหลานของพวกเขาเสียการเรียน

Football Manager หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า FM คือหนึ่งในนั้น เพราะมันเป็นเกมที่ต้องใช้เวลาในระดับหลายสิบชั่วโมง ไปจนถึงหลายร้อยชั่วโมง ในการบริหารทีมฟุตบอล จนบางคนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน

อย่างไรก็ดี กลับมีบุรุษผู้หนึ่ง ที่สามารถใช้ประโยชน์จากความคลั่งไคล้เกมคุมทีมฟุตบอลชื่อดังซีรีย์นี้ ต่อยอดไปสู่อาชีพของตัวเองในวงการลูกหนัง และ แมตต์ นีล คือชื่อของเขา เขาทำได้อย่างไร ร่วมติดตามไปพร้อมกับ Main Stand

เด็กหนุ่มผู้หลงใหลใน Football Manager 

Football Manager หรือ FM ถือเป็นในเกมคุมทีมฟุตบอลที่ได้รับความสนใจมาในวงกว้างตั้งแต่ตั้งแต่ใช้ชื่อว่า Championchip Manager โดยมันทำยอดขายรวมไปแล้วกว่า 18 ล้านก็อปปี้ และขึ้นชาร์ทเกมขายดีเป็นประจำแทบทุกปีที่วางจำหน่าย 

 1

แมตต์ นีล เด็กหนุ่มชาวอังกฤษ ก็เป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบเกมแฟรนไชส์นี้ ที่อันที่จริงน่าจะเรียกว่าความคลั่งไคล้มากกว่า เขารู้จักกับ Football Manager มาตั้งแต่เด็ก และใช้เวลากับมันในระดับเกินกว่า 500 ชั่วโมงต่อปี  

"ความสำเร็จสูงสุดของผมคือการมีสนามเป็นชื่อของตัวเองที่ฮัดเดอร์สฟิลด์" นีลให้สัมภาษณ์กับ The Guardian เมื่อปี 2016  

"ถ้าพูดถึงชั่วโมงที่ผมเล่น พูดตามตรงมันน่าจะราว 600-700 ชั่วโมงต่อปี แต่มันเป็นแค่เวลาที่บันทึกไว้ เพราะคุณไม่ได้สังเกตตอนที่คุณเล่นหรอก" 

ด้วยความหลงใหลใน FM ทำให้เขามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้ และแสงแห่งความหวังก็มาถึงในปี 2008 เมื่อไปเห็นในหน้าเว็บไซต์ว่า Sports Interactive ผู้สร้างเกม กำลังเปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลของ ทรูโร ซิตี สโมสรนอกลีกในอังกฤษ 

อันที่จริง เขามีความใกล้ชิดกับ พลีมัธ อาร์ไกล์ ที่ตอนนั้นเล่นอยู่ในเดอะแชมเปียนชิพ มากกว่า เนื่องจากเป็นสโมสรที่ตามเชียร์มาตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็มองว่านี่คือโอกาสครั้งสำคัญ ที่จะได้ช่วยงานทรูโร ซิตี้ และได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมที่ชอบ สุดท้ายเขาก็ได้งานนั้น 

 2

"ผมพอจะรู้ข้อมูลของนักเตะบางคนมาบ้าง เพราะพวกเขาเคยอยู่พลีมัธ อาร์ไกล์ ดังนั้น ผมจึงคิดว่าผมน่าจะช่วยได้ในบริเวณนี้ เพราะไม่มีใครทำมันมาหลายปี" นีลกล่าวกับ The Guardian 

แน่นอนว่า แม้ว่าตอนนั้นเขาจะอายุเพียง 15 ปี แต่เมื่อได้งานแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำแบบเด็กเล่นขายของ นีล ให้ความสำคัญกับงานนี้อย่างมาก เขาต้องเดินทางไปชมเกมแบบติดขอบสนามอยู่หลายเกม เพื่อเก็บข้อมูลของทีมให้ได้มากที่สุด 

"ผมไปดูเกมของทรูโรอยู่ 5-6 เกมในหนึ่งฤดูกาล เพราะค่าตั๋วรถไฟแค่ 3 ปอนด์ (122 บาท) และตั๋วเข้าชมแค่ 6 ปอนด์ (244 บาท)" นีลอธิบาย 

ก่อนที่มันจะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่อนาคต

จากเกมสู่โลกจริง 

แม้ว่างานเก็บข้อมูล จะเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ ของเกม FM แต่ นีล ถูกใจในงานที่เขาได้รับมอบหมาย การรวบรวมข้อมูลและนำมาวิเคราะห์เป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และการได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เขารัก ยิ่งทำให้เขาทำมันอย่างมีความสุข 

 3

แต่เขาก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น หลังรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลของ ทรูโร ให้ Football Manager อยู่ราว 6 เดือน เขาก็ไปเห็นว่าตำแหน่งนี้ของทีม พลีมัธ อาร์ไกล์ กำลังว่างอยู่ ทำให้เขาไม่รอช้าที่จะส่งอีเมลขอสมัครงานในตำแหน่งนี้ 

ในอีเมล นีลแนะนำตัวว่า เขามีศักยภาพที่จะเป็นเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลประจำทีม พลิมัธ เพราะเขาเป็นแฟนของทีมมานานหลายปี แถมยังถือตั๋วปีของสโมสรมาแล้ว 4 ฤดูกาลติดต่อกัน ในขณะเดียวกันยังได้แนบไฟล์เอ็กเซล ที่รวบรวมประวัตินักเตะอย่างละเอียด พร้อมค่าพลังที่เขาประเมินเองไปในอีเมลอีกด้วย 

อันที่จริง ทีมผู้ผลิตเกมก็ประทับใจในผลงานของ นีล ตอนที่ทำให้ ทรูโร อยู่แล้ว แต่ความมุ่งมั่นที่พวกเขาได้เห็นจากอีเมลของเด็กหนุ่มคนนี้ ทำให้พวกเขาไม่ลังเลที่จะเลือก นีล เป็นผู้ดูแลประจำทีมพลีมัธ 

"ผมดูพลีมัธมาหลายปี และ Football Manager ก็ประทับใจในสิ่งที่ผมทำกับทรูโร" นีลกล่าวกับ The Guardian

 4

"จากข้อมูลที่ผมส่งไป ซึ่งรวมไปถึงไฟล์เอ็กเซลที่รวบรวมข้อมูลนักเตะทุกคน ทั้งประวัติ ความสามารถ และอื่นๆอีกมากมาย และพิจารณาว่าผมมีตั๋วปีในตอนนั้น ทำให้ผมได้เลื่อนขึ้นมาเป็นทีมเก็บข้อมูลของพลีมัธ"  

"มันเป็นช่วงก่อนผมอายุ 16 ไม่นาน แทนที่จะมุ่งกับ GCSEs (การสอบจบชั้นมัธยมปลายของเด็กๆ ในสหราชอาณาจักร) ผมใช้เวลาทั้งหมดไปกับ Football Manager" 

แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหลังทำหน้าที่เป็นฝ่ายเก็บข้อมูลประจำทีมพลีมัธให้ Football Manager อยู่หลายปี สายตาอันเฉียบคมในการประเมินนักเตะของเขาก็ไปเข้าตา พลีมัธ จนได้ ทำให้ในปี 2012 นีลได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลประจำทีมชุดใหญ่ของพลีมัธ 

หน้าที่ของ นีล คือเตรียมข้อมูลให้กับทีมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผลงานของผู้เล่นในทีม รายงานข้อมูลของคู่แข่ง และเสาะหานักเตะที่น่าสนใจที่ควรดึงตัวมาร่วมทีม ซึ่งเขาเองก็มีพื้นฐานจากการเป็นเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลอยู่แล้ว 

 5

"ผมเริ่มทำงานกับ พลิมัธ อาร์ไกล์ ตอนปี 2012 ในฐานะเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลของทีมชุดใหญ่ มันเกิดขึ้นหลังผมแนะนำนักเตะให้ คาร์ล เฟลท์เชอร์ ผู้จัดการทีมในตอนนั้น และเขาก็ประทับใจในนักเตะคนนั้น ที่ทำให้ผมได้งานนี้" นีลกล่าวกับ The Miller Reporter

ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้มีโอกาสใช้ความรู้ที่สั่งสมจากในเกมมาใช้ในโลกจริงอีกด้วย

ประสบการณ์ที่สั่งสมจากเกม 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้ร่วมงานกับ Football Manager มาตั้งแต่อายุยังน้อย บวกกับความชื่นชอบที่เรียกได้ว่าคลั่งไคล้ในเกมนี้ ช่วยขัดเกลาพรสวรรค์ในการประเมินนักเตะแต่ละคน ของ นีล ให้เฉียบคมขึ้น  

อันที่จริง เขาทำได้ดีมาตั้งแต่สมัยเป็นเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลของเกม เมื่อนักเตะหลายคนในทีมเยาวชนของพลีมัธ ที่เขาคาดการณ์ว่าจะทำผลงานได้ดีในอนาคต ต่างสร้างชื่อได้ไม่น้อย 

 6

"ผมจำได้ว่าผมได้ดู ลอยด์ แซ็กตัน ในทีม U-18 ที่ตอนนี้เล่นให้ GIF Sundsvall ในสวีเดน, คริสเตียน วอลตัน ที่ตอนนี้อยู่ ไบรท์ตัน, ลอยด์ โจนส์ และ แซม กัลลาเกอร์ ที่เคยอยู่ในทีมระดับพรีเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล กับ เซาธ์แฮมป์ตัน รวมถึง โจ เมสัน ผมให้คะแนนพวกเขาค่อนข้างสูง และพวกเขาก็ทำได้ดีจากนั้น" นีล กล่าวกับ The Guardian 

"ตอนที่ผมเริ่มทำงาน โจ เมสัน (ตอนนี้อยู่ มิลตันคีย์ส ดอนส์) ถูกมองว่าเป็นนักเตะจากนอกลีกที่เก่งที่สุดในเกม ดังนั้น ผมจึงเพิ่มค่าความสามารถของเขาทันที" 

"ไม่กี่ปีต่อมา เขาทำประตูเบิกร่องในนัดชิงชนะเลิศลีกคัพ (ปี 2012) ให้ คาร์ดิฟฟ์ ในนัดพบกับ ลิเวอร์พูล" 

ในขณะเดียวกัน ประสบการณ์จากการทำงานกับ FM ยังช่วยฝึกให้เขาเป็นคนไม่ประเมินนักเตะแค่เพียงครั้งแรกที่เห็น ที่กลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำหน้าที่นักวิเคราะห์ข้อมูลของสโมสร 

"ถ้าบางคนมีค่าการผ่านบอล 17 ผมจะไม่คิดว่าเขาเป็นคนผ่านบอลเก่งในทันที เพราะว่ามันอาจจะมาจากการได้ดูเขาแค่ 3 เกม" นีลอธิบาย   

"มันเป็นเรื่องปกติที่จะดูเกมสองเกม แล้วบอกเกี่ยวกับความสามารถทางร่างกายของผู้เล่น แต่ถ้าต้องลงรายละเอียดปลีกย่อย อย่างเรื่องสมาธิ มันต้องใช้เวลาพอสมควร"

"บางเกมผู้เล่นอาจจะเงียบหายไปเลยในการเจอกับคู่แข่งที่เก่ง และบางเกมพวกเขาอาจจะไม่ได้ถูกทดสอบอะไรเลย มันเหมือนกันในเรื่องความทุ่มเท ดูว่าผู้เล่นคนไหนวิ่งไล่ไปทั่ว หรือคนไหนที่รู้ว่าตอนไหนควรจะเข้าไปกดดันปิดพื้นที่ ยังมีอีกหลายเรื่องนะที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยจนกระทั่งมาทำหน้าที่นี้" 

 7

ยิ่งไปกว่านั้น นีล ยังได้นำความรู้จากจากการเล่นเกม FM มาปรับใช้กับพลีมัธอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเสาะหานักเตะ เพื่อนำไปเสนอให้ผู้จัดการทีมเลือกเซ็นสัญญามาเสริมทีม

"เราเคยเซ็นผู้รักษาประตูที่ชื่อ มาร์ค แมคคัลลัม ซึ่งผู้เล่น FM น่าจะจำเขาได้จากการเป็นยอดดาวรุ่งตอนอยู่ ดันดี ยูไนเต็ด แน่นอนว่าผมก็ซื้อตัวเขาทุกครั้ง" นีลกล่าวกับ The Guardian 

"ตอนที่เขามาทดสอบฝีเท้า เขาเดินมา และมันก็เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่แปลกประหลาดที่สุดในชีวิตของผม ผมไม่เคยเจอเขาจริงๆ ผมเคยเห็นแต่หน้าเขาในเกม แต่ทันทีที่เห็น ผมก็รู้ว่าเป็นเขา"

สิ่งเหล่านี้แสดงให้ไหวพริบ และพรสวรรค์ของนีล ในการนำความรู้จากในเกมมาปรับใช้ในชีวิตจริง ที่ทำให้เขาสามารถต่อยอดความคลั่งไคล้ให้เป็นอาชีพได้อย่างน่านับถือ 

แต่เขาก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้

เริ่มใหม่กับร็อตเตอร์แฮม 

นีล ร่วมหัวจมท้ายกับพลีมัธตั้งแต่เขายังเป็นวัยรุ่นจนบรรลุนิติภาวะ เขาผ่านประสบการณ์มากมายกับทีมนี้ ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากทีมในปี 2019 เพื่อไปทำงานในบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับฟุตบอล

 8

"ผมทำงานกับพลีมัธอยู่ 7 ปี และมีประสบการณ์ที่เหลือเชื่อตั้งแต่สูงสุดไปถึงต่ำสุด รวมไปถึงการได้ไปเวมบลีย์ (น่าเสียดายที่เราแพ้ - เพลย์ออฟเลื่อนชั้นลีกทู ปี 2016 แพ้ เอเอฟซี วิมเบิลดัน 0-2), แอนฟิลด์ และคว้าตั๋วเลื่อนชั้นจากลีกทู (ปี 2017)" นีลกล่าวกับ The Miller Reporter

"ผมออกจากที่นั่นเมื่อต้นปีที่แล้ว และย้ายไปทำงานในบริษัทที่ชื่อว่า InStat ซึ่งเป็นบริษัทเตรียมข้อมูลและวิดีโอแนวทางแก้ไขให้สโมสรฟุตบอล"  

แต่เพียงไม่กี่เดือนเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ นีลนึกถึงตอนทำงานให้สโมสรฟุตบอลที่ทำให้เขามีความสุข ทำให้เขาตัดสินใจที่จะหวนคืนสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง ก่อนที่จะได้ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลของ ร็อตเตอร์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรในลีกวัน 

"ผมคิดถึงคิดถึงการได้มีส่วนร่วมในสโมสรฟุตบอลทุกวัน และตัดสินใจว่าช่วงหน้าร้อน จะมองหาที่ใหม่" นีลกล่าวต่อ

"ผมได้คุยกับคนที่เคยเล่นและทำงานที่ร็อตเตอร์แฮมในอดีต และทุกคนก็มีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับทีมงานและสภาพแวดล้อมที่นั่น ผมจึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้กลับไป" 

 9

ร็อตเตอร์แฮม เป็นทีมที่ต่างจากพลีมัธพอสมควร พวกเขาเพิ่งจะร่วงตกชั้นลงมาจาก เดอะ แชมเปียนชิพ ลีกระดับ 2 ในพิรามิดฟุตบอลของอังกฤษ และตั้งเป้าที่จะเลื่อนชั้นกลับไปเล่นในลีกเดิมอีกครั้ง

และเพียงปีแรกที่ นีล มาถึง ร็อตเตอร์แฮมก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยก่อนที่ลีกจะพักเบรกจากสถานการณ์ COVID-19 พวกเขารั้งอันดับ 2 ของตาราง ซึ่งเป็นโซนเลื่อนชั้นอัตโนมัติ โดยมีแต้มห่างจากอันดับ 3 อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด อยู่ 2 แต้ม 

แน่นอนว่าเครดิตเกือบทั้งหมด ต่างตกอยู่กับ พอล วาร์น ผู้จัดการทีมและนักเตะในทีม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สตาฟฟ์ผู้อยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลอย่าง นีล ก็มีบทบาทที่ไม่น้อยไปกว่ากันในผลงานของทีม 

แม้ว่าเขายังคงทำหน้าที่เหมือนตอนอยู่พลีมัธ นั่นคือรายงานผลงานของนักเตะในทีม และวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของคู่แข่ง แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ เขามีงบประมาณมากพอที่จะจัดหาเทคโนโลยีมาใช้ ที่ช่วยให้เขาทำงานได้สะดวกขึ้น และมันก็กลายเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ ร็อตเตอร์แฮม กำลังบินสูงอยู่ในขณะนี้ 

 10

"เทคโนโลยี ยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในลีกล่าง คุณแค่ต้องใช้ประโยชน์สูงสุดจากสิ่งที่คุณมี ดังนั้นในสนามจึงต้องมีโปรเจคเตอร์ในห้องแต่งตัว เพื่อแสดงคลิปของนักเตะก่อนเกม ระหว่างเกม และหลังเกม" นีลกล่าว

"ในสนามซ้อม เรามีทีวีหน้าจอสัมผัส ที่ทำให้เราสามารถใส่คำอธิบายในระหว่างการประชุม ซึ่งดีมากสำหรับผู้เรียนในห้อง"

"เราสามารถใส่ข้อความที่ถูกต้องที่เราต้องการในรูป แทนที่จะพูดถึงมัน ซึ่งมันสร้างความแตกต่างอย่างมาก นับตั้งแต่ผมเข้ามา และแนะนำมันให้ทุกคนได้รู้จัก" 

ปัจจุบัน นีล ยังใช้ชีวิตกับงานที่เขารัก ในฐานะฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลของร็อตเตอร์แฮม แม้ว่าเขาจะมีอายุเพียง 27 ปี แต่ก็มีประสบการณ์ในวงการนี้ก็ไม่น้อย หลังทำหน้าที่มาเป็นปีที่ 8 ซึ่งยังไม่รวมเวลาอีกมากมายที่เขาได้เรียนรู้จากเกม Football Manager 

นี่คือสิ่งที่ นีล พิสูจน์ให้เห็นว่าการเล่นเกมไม่ใช่สิ่งไร้สาระเสมอไป เมื่อเขาสามารถนำสิ่งที่คลั่งไคล้ มาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ และผลักดันตัวเองจนได้ทำงานในวงการลูกหนังมาเกือบ 10 ปี 

ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้โลกได้รู้จักกับ ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ที่กำลังขึ้นมามีบทบาทสำคัญในโลกฟุตบอลปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต 

 11

หมายเหตุ: แมตต์ นีล ต้องรอถึง 5 ปี กว่าจะมีชื่อตัวเองในเกม Football Manager หลังทีมผู้สร้างเพิ่งจะเพิ่มตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลในเกมเป็นครั้งแรกกับ Football Manager 2017

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ "แมตต์ นีล" : โค้ชบ้านๆจาก FM ที่กลายเป็น "หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล" ให้สโมสรอาชีพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook