"โรนัลดินโญ่" เปิดใจ หลังพ้นคุกฐานปลอมพาสปอร์ต

โรนัลดินโญ่ ตำนานดาวเตะทีมชาติบราซิล ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังออกจากเรือนจำในประเทศปารากวัย ข้อหาปลอมแปลงพาสปอร์ต
อดีตตัวรุกซูเปอร์สตาร์ของ บาร์เซโลน่า ถูกจับกุมพร้อมกับพี่ชาย โรแบร์โต้ เด อัสซิส ฐานใช้พาสปอร์ตปลอมเดินทางเข้าประเทศปารากวัย เมื่อ 5 มี.ค. โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกันบุกจับถึงโรงแรมที่พัก มีการสอบสวนนานข้ามวัน และศาลวินิจฉัยคัดค้านการประกันตัวจนต้องนอนคุกในที่สุด
โรนัลดินโญ่ ต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำนานถึง 33 วัน ก่อนที่สุดท้ายจะวางเงินประกันตัว 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 52 ล้านบาท) ออกมาสู้คดีต่อ
อย่างไรก็ดี แม้จะได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว ทั้งคู่ก็ยังต้องถูกกักบริเวณที่โรงแรม ปัลมาโรก้า โฮเทล ในกรุงอะซุนซิโอน เมืองหลวงของปารากวัย เพื่อรอฟังคำพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป
ล่าสุด โรนัลดินโญ่ วัย 40 เผยถึงชีวิตในเรือนจำเป็นครั้งแรกกับ อาเบเซ โกลอร์ สื่อปารากวัยว่า “เราประหลาดใจกันมากเลยที่ได้รู้ว่าเอกสารมันไม่ถูกกฎหมาย นับตั้งแต่นั้นความตั้งใจของเราคือการทำงานร่วมกับระบบยุติธรรมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง”
“นับตั้งแต่ตอนนั้นถึงวันนี้ เราได้อธิบายทุกอย่างและให้ความร่วมมือทุกอย่างที่ได้รับการร้องขอมา”
เกี่ยวกับวินาทีที่รู้ว่าต้องโดนจำคุก “มันหนักมาก ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องเจอช่วงเวลาแบบนั้น ทั้งชีวิตของผมพยายามไปถึงจุดสูงสุดในระดับมืออาชีพและให้ความสุขกับผู้คนด้วยฟุตบอลของผม”
โรนัลดินโญ่ เผยว่าเขาได้โอกาสเล่นฟุตบอลในคุกตามที่เคยเป็นข่าว รวมถึงต้องแจกลายเซ็นและถ่ายรูปมากมายในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้รู้สึกแค้นเคืองชาวปารากวัยแต่อย่างใด “ผมรู้สึกถึงความอบอุ่น ความรัก และความเคารพของคนปารากวัยตั้งแต่วันแรกที่มาจนถึงวันนี้ และผมก็ซาบซึ้งมาก”
“ผมมีความศรัทธา และก็สวดขอให้เรื่องราวมันเป็นไปด้วยดี และหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้มันจะจบในเร็ววันนี้”