[OPINION] ภารกิจสุดหินใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โอเล กุนนาร์ โซลชา
ภารกิจที่สำคัญของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ซึ่งทุกคนทราบกันดีว่าคือ การพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่บัลลังก์ของการเป็น King of English Football ให้ได้อีกครั้ง หลังยุครุ่งเรืองอันยาวนานถึง 26 ปีภายใต้การเสกสรรปั้นแต่งของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เพิ่งดับมอดลงไปเมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่พวกเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จ
ปฏิบัติการที่สำคัญของการกลับสู่เส้นทางความยิ่งใหญ่นี้ก็คือการสร้างทีมใหม่ด้วยปรัชญาของตนเองที่เน้นนักเตะเจเนอเรชั่นใหม่ ฝีเท้าดี อายุน้อย และพัฒนาต่อยอดได้ ซึ่งซีซันนี้ถือเป็นการทำงานแบบเต็มรูปแบบของนายใหญ่ชาวนอร์วีเจี้ยนกอบกู้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้สัญญา 3 ปี
เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาจึงมีการการเดินหน้าในตลาดซื้อขายนักเตะกันอย่างคึกคัก ซึ่งอาจจะมีทั้งคำชมและคำบ่นจากบรรดาแฟนบอล เพราะเหมือนกับว่าเขากำลังแก้ปัญหาถูกจุด แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาโดยแทบไม่ทันตั้งตัว
เรื่องที่ว่านั้นก็คือการขอบอร์ดบริหารอนุมัติงบประมาณก้อนโตในการดึง 3 นักเตะอย่าง อารอน วาน-บิสซาก้า, แฮร์รี แม็คไกวร์ และ แดเนียล เจมส์ เข้ามาเสริมทัพ แก้ปัญหาเกมรับพร้อมเพิ่มออปชั่นในเกมริมเส้นเข้าไป แต่คล้อยหลังอีกไม่กี่วันต่อมาพวกเขากลับต้องเสีย 2 กองหน้าระดับท็อปอย่าง โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเซส ไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน และดันไม่ได้ดาวยิงตัวใหม่เข้ามาแทนที่เลย
นี่เป็นเรื่องที่ใครหลายคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนบอลของทีม ปีศาจแดง ต่างหัวเสียเป็นอันมาก เพราะแม้จะเสริมทัพได้ดีในแดนหลัง แต่ทีมของเขากลับหานักเตะกองหน้าที่มีดีกรีใกล้เคียงกันเข้ามาทดแทนไม่ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนมกราคม โซลชา และ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ก็ต่างเข้าใจความต้องการของแฟนบอลเป็นอย่างดี พวกเขาจึงจัดการกระชากตัว บรูโน แฟร์นันเดส และ โอเดียน อิกาโล 2 ดาวเตะในแนวรุกเข้ามาอุดรูรั่วที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งซีซันแรก และทั้งคู่ก็สามารถตอบโจทย์ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
ประกายแห่งความหวังกลับมาสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้งด้วยการที่บรรดาขุนพล เร้ดเดวิลส์ เก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่องและไม่แพ้ใครนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ก่อนที่ พรีเมียร์ลีก ต้องพักการแข่งขันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
แน่นอนว่าเมื่อผลงานเข้าตากันขนาดนี้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรก็เริ่มเชื่อว่าหากพวกเขายอมทุ่มเงินกับนักเตะที่เข้ากับทีมได้จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียเงินเสียเวลาแต่อย่างใด เพราะท้ายที่สุดแล้วนักเตะคนนั้นก็จะตอบแทนกลับมาด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม
นั่นจึงเป็นที่มาของการมีข่าวกับนักเตะดังในตลาดหลายต่อหลายคนในช่วงหลัง และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนเมื่อช่วงซัมเมอร์หรือในยุคของ โชเซ มูรินโญ อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีแผนที่จะดึงนักเตะใหม่เข้ามา บรรดานักเตะเก่าที่อยู่ในทีมก็ต้องถูกโละวางแผงขายเมื่อตลาดเปิดทำการ ซึ่งนั่นจึงเป็นที่มาของข่าวที่ว่า โอเล กุนาร์ โซลชา กำลังวางแผนที่จะปล่อยตัว 5 ดาวดังของพวกเขาออกจากทีมเพื่อเปิดพื้นที่และหาเงินเข้ามาเป็นทุนในการเสริมทัพตามโปรเจ็คที่วางเอาไว้
แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อประจำเมืองรายงานว่านักเตะที่กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนเตรียมจะโละออกจากทีมนั้นประกอบไปด้วย ฟิล โจนส์, เจสซี ลินการ์ด, อันเดรียส เปเรย์รา, คริส สมอลลิง และ อเล็กซิส ซานเชซ โดย 3 รายแรกนั้นยังอยู่กับทีมชุดใหญ่ ส่วนอีก 2 รายหลังถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นใน กัลโช เซเรีย อา
คงไม่ต้องถามกันให้เมื่อยว่าทำไมต้องเป็น 5 คนนี้ แต่หากสงสัยก็คงจะต้องอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ทำไมพวกเขาจึงไม่ดีพอต่อโปรเจ็คการคืนสู่ความยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เริ่มกันที่ ฟิล โจนส์ ซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าตอนนี้คู่เซ็นเตอร์ตัวจริงที่ โซลชา มักจับลงสนามพร้อมกันนั้นคือ แฮร์รี แม็คไกวร์ และ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ โดยมี เอริค ไบญี ซึ่งเป็นนักเตะคนแรกที่ มูรินโญ ซื้อมาร่วมทีมก็พร้อมที่จะเป็นตัวสอดแทรกหลังากที่เจ้าตัวหายเจ็บกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง
ดังนั้นที่ว่างของ โจนส์ นั้นจึงแทบจะไม่เหลือ ยังไม่นับนักเตะดาวรุ่งอย่าง อักเซล ตวนเซเบ้ ที่ขึ้นมารอโอกาสในทีมชุดใหญ่แล้วในซีซันนี้ ซึ่งเมื่อดูโอกาสที่กองหลังชาวอังกฤษรายนี้จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงก็แทบจะปิดตายเป็นศูนย์ การย้ายทีมเพื่อหาโอกาสลงสนามอย่าต่อเนื่องจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในช่วงของการเปลี่ยนแปลงแบบนี้
ทางด้าน เจสซี 'บีนส์ บีนส์' ลินการ์ด และ อันเดรียส เปรเรย์รา ก็เหมือนกัน ทั้งคู่ได้รับโอกาสตั้งแต่ช่วงเปิดฤดูกาลแต่กลับไม่สามารถไขว่คว้ามันเอาไว้ได้ กลายเป็นยิ่งเล่นยิ่งออกอ่าวออกทะเล จึงไม่ต้องแปลกใจกับสถิติอันขี้ริ้วขี้เหร่ และโดนดร็อปเป็นตัวสำรองตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ คิดดูว่าถึงขนาดที่ โซลชา นั้นทนไม่ไหวต้องมอบตำแหน่งให้กับ ฆวน มาต้า ที่หลายคนคิดว่าหมดไฟไปแล้ว ให้กลับมาลงสนามแก้ขัดแทนพวกเขา
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเข้าไปอีกเมื่อ ยูไนเต็ด ได้ตัว บรูโน แฟร์นันเดส มาร่วมทีม ไหน เฟร็ด กองกลางบราซิลเลียนที่โดนล้อว่าเป็น 'แซมบ้าเสิ่นเจิ้น' จะกลับมาหาฟอร์มตัวเองเจออีกครั้ง นั่นจึงทำให้ในแดนกลางของทีมเต็มไปด้วยนักเตะที่พร้อมลงสนาม ทำให้ 2 คู่หูทั้ง ลินการ์ด และ เปเรย์รา ก็กลายเป็นส่วนเกินไปในทันที
ในรายของ คริส สมอลลิง นั้นดูดีกว่าเพื่อนอยู่หน่อย เพราะเจ้าตัวโดนปล่อยตัวให้ โรมา ยืมไปใช้งาน และสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจจน ดาเนียล ฟอนเซก้า กุนซ์อใหญ่ของทีมหมาป่าเรียกร้อให้สโมสรจัดการซื้อขายเสียเลยแต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ แถมยังมีทีมอื่นทั้งในอิตาลีและ พรีเมียร์ลีก ที่ต่อคิวพร้อมดึงตัวไปร่วมงานด้วยกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็แน่นอนว่าเจ้าตัวจะไม่ได้อยู่กับทีมของ โซลชา ต่อไปอย่างแน่นอน
คนสุดท้ายที่ยังไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตดีซึ่งนั่นก็คือ อเล็กซิส ซานเชซ ที่พอมีโอกาสย้ายตาม ลูกากู ไป อินเตอร์ มิลาน กลับกลายเป็นว่าไปทำตัวให้เป็นภาระค่าเหนื่อยของทีมงูใหญ่ ด้วยการโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานไปครึ่งซีซัน พอกลับมาก็ยังหาฟอร์มไม่เจอ และก็ต้องอดเล่นต่อ เพราะไวรัสมันออกทำงานพอดี
ผิดกับศูนย์หน้าร่างยักษ์อย่าง 'ลูลู่' ที่ตอบแทนทุกปอนด์ที่ทีม เนรัซซูรี ทุ่มไปด้วยการยิงระเบิดเถิดเทิงครองดาวซัลโวของทีมให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
นักเตะทั้ง 5 คนนี้คือบุคคลที่สื่อใกล้ชิดกับทีม ปีศาจแดง คาดการณ์กันเอาไว้ว่าจะต้องเก็บของออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงวัมเมอร์นี้ หากว่า โอเล กนุนาร์ โซลชา ต้องการลดช่องว่างของสโมสรให้เข้าใกล้ 2 ทีมชั้นนำในตอนนี้อย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ส่วนจะมีกำลังสามารถดึงสตาร์คนใดมาร่วมทีมได้นั้น ก็คงต้องลุ้นกันไปพร้อม ๆ กันเมื่อได้ข้อสรุปกันว่าซีซันนี้จะจบลงอย่างไร