[OPINION] 5 ระดับโลก ที่ย้ายค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช้าเกินไป
นับตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นเวทีการแข่งขันฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับคอลูกหนังชาวไทย เพราะนอกจากเกมการแข่งที่รวดเร็วดุดันเร้าใจแล้วยังมีผู้เล่นระดับท็อปมากมายมารวมตัวกันอยู่ด้วย
และทุกครั้งที่มองออกไปยังลีกอื่น ๆ เช่น กัลโช เซเรียอา (อิตาลี), ลาลีกา (สเปน), บุนเดสลีกา (เยอรมนี) หรือ ลีกเอิง (ฝรั่งเศส) แล้วเห็นว่ามีนักเตะระดับโลกกำลังสร้างตำนานอยู่ ย่อมรู้สึกอยากให้ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะกับทีมที่เราเชียร์
สมัยนี้ยังไม่เท่าไหร่ เพราะนักฟุตบอลส่วนใหญ่อยากค้าแข้งในอังกฤษกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่สำหรับเมื่อประมาณ 15-20 ปีก่อนมันไม่ได้เป็นแบบนี้ ทำให้หลาย ๆ ครั้งสาวกก็ต้องผิดหวังไป เพราะแข้งระดับตำนานหลายคนเลือกแขวนสตั๊ดไปโดยที่ไม่เคยสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกเลยแม้แต่นัดเดียว
ขณะที่มีอีกหลายต่อหลายคนเลือกเอาลีกอังกฤษเป็นสถานีสุดท้ายในช่วงบั้นปลายก่อนจะแขวนสตั๊ด ซึ่งก็น่าเสียดายเพราะมีเวลาเล่นกันแค่ 1-2 ปีแถมยังเข้าสู่วัยโรยรากันหมดแล้ว ซึ่งคนกลุ่มนี้แหละที่เราอยากพูดถึงกันในวันนี้ ส่วนจะมีใครบ้าง เลื่อนลงไปดูเลย !
1. จอร์จ เวอาห์
ถ้าถามว่าใครคือสไตรเกอร์ที่อันตรายร้ายกาจสุด ๆ ของ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน คอบอลจากยุค 2000 อาจบอกว่า ฟิลิปโป้ อินซากี้ หรือไม่ก็ อังเดรย์ เชฟเชนโก้ กันทุกคน แต่สำหรับแฟนบอลจากยุค 90 คำตอบของพวกเขาถ้าไม่ใช่ มาร์โก แวน บาสเทน ก็เป็น จอร์จ เวอาห์ คนนี้นี่แหละ
แล้วถามว่า เวอาห์ ที่ว่าเนี่ย "เก่งขนาดไหน ?" คำตอบง่าย ๆ เลยคือ เขาเป็นนักฟุตบอลชาวแอฟริกันคนแรกและคนเดียวที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้ในปี 1995 โดยมีคะแนนทิ้งห่างอันดับ 2-3 อย่าง เจอร์เกน คลินส์มันน์ และ ยารี ลิตมาเนน ไปแบบไกลลิบโลดเลย
ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลครึ่งกับ มิลาน ดาวเตะชาวไลบีเรีย ยิงได้ทั้งหมด 147 ลูกเฉลี่ยแล้วตกฤดูกาลละ 36 ประตูซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ไม่ธรรมดา แถมยังช่วยพาทีมคว้าแชมป์ลีกกัลโชฯ มาอีก 2 สมัยด้วย (1995-96 และ 1998-99)
หลังจากประสบความสำเร็จมากมายทั้งส่วนตัวและแบบทีม เขาก็ได้รับข้อเสนอสุดงามจาก เชลซี ให้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ในลีกอังกฤษเมื่อฤดูกาล 1999-00 แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นอายุปาเข้าไป 33 ปีแล้ว ทำให้สภาพร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่จนมีโอกาสลงเล่นเพียงแค่ 11 นัดยิงได้ 3 ประตู แล้วโยกขึ้นเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่นถัดไปซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน (อยู่ 1 ปี ลงเล่น 7 นัดยิงได้ 1 ประตู)
2. โลรองต์ บล็องก์
โลรองต์ บล็องก์ เป็นกองหลังที่สร้างชื่อโด่งดังมาตั้งแต่เป็นดาวรุ่งอยู่ มงเปลิเยต์ ก่อนจะพีคจริง ๆ ช่วงเล่นให้ โอก์แซร์, บาร์เซโลนา และ มาร์กเซย์ จนถูกยกย่องว่านี่แหละคือเซ็นเตอร์แบ็คระดับโลกของจริง
และในปี 2001 เขาก็ได้รับการทาบทามจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้มาร่วมงานด้วยที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยยอดบรมกุนซืออยากได้ประสบการณ์ของ บล็องก์ ที่อยู่ในวัย 36 ปีมาช่วยประคับประคองรุ่นน้องที่กำลังเติบโตขึ้นนั่นเอง
แต่ด้วยความยอดเยี่ยมของเขาทำให้ได้รับความไว้วางใจจาก เฟอร์กี้ อย่างสูงจนมีโอกาสลงสนามไปมากถึง 75 นัดในช่วง 2 ฤดูกาล (ยิงได้ 4 ประตู) จากนั้นจึงแขวนสตั๊ดไปในฐานะฮีโร่ขวัญใจเด็กผีคนหนึ่ง
เมื่อดูจากฟอร์มการเล่นและคุณประโยชน์มากมายที่ บล็องก์ สร้างเอาไว้ให้กับทัพปีศาจแดง แฟน ๆ หลายคนถึงกับบ่นเสียดายเลยทีเดียวว่าเขาย้ายมาอยู่ด้วยกันช้าเกินไป ไม่งั้นล่ะมันส์แน่นอน
3. ยารี ลิตมาเนน
ถึงแม้ ฟินแลนด์ จะไม่ใช่ประเทศที่มีนักเตะชื่อดังมากมายให้พูดถึงมากนัก แต่เมื่อเอ่ยชื่อของตำนานอย่าง ยารี ลิตมาเนน เชื่อว่าคอลูกหนังจากยุค 90 ทุกคนจะต้องพยักหน้าเห็นด้วยว่าคนเนี้ย "โคตรเก่งของจริง"
ช่วงเวลาที่ ลิตมาเน พีคสุด ๆ ก็คือสมัยเล่นให้ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ระหว่างปี 1992-1999 เพราะเขาคือหน้าต่ำคนสำคัญที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จมากมายจนนับแทบไม่ถ้วน (คว้าแชมป์ 14 รายการ) แถมยังยิงได้มากถึง 129 ประตูจาก 228 นัด
จากนั้นเขาก็ไปสร้างชื่อเสียงต่อกับทีมระดับมหาอำนาจอย่าง บาร์เซโลนา ซึ่งผลงานเองก็ไม่ใช่ธรรมดาเลย แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง จึงมีสถิติส่วนตัวไม่ค่อยสวยนักเมื่อเทียบกับคุณภาพแสดงออกให้เห็นในแต่ละนัด
และแล้วความฝันของเด็กหงส์หลายคนก็กลายเป็นจริงเมื่อ ลิเวอร์พูล ดึงเอา ลิตมาเนน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่น่าเสียดายที่ได้รับบาดเจ็บบ่อยจนไม่สามารถทำผลงานให้เข้าตาได้ตามความคาดหวัง แต่ก็ไม่ถือว่าแย่อะไร เพราะช่วยเหลือเพื่อนฝูงยามอยู่ในสนามได้ดีตามสไตล์
หลังอยู่กับหงส์ 2 ปี ลิตมาเนน ก็ย้ายกลับ อาแจกซ์ และเปลี่ยนทีมไปเรื่อย ๆ ทุกปีจนกระทั่งฤดูกาล 2007-08 เจ้าตัวก็กลับมาอังกฤษอีกครั้งโดยมี ฟูแลม เป็นผู้ทำสัญญาด้วย แต่สมัยนั้นอายุเยอะมากแล้วจนไม่สามารถสร้างอิมแพ็คอะไรได้เลย
4. เฟอร์นันโด เอียร์โร
ชายชาวสเปนผู้มีร่างกายสูงใหญ่และใบหน้าดุดันคนนี้ คืออีกหนึ่งราชันย์ที่ได้รับความเคารพอย่างสูงสุดในฐานะกัปตันทีม เรอัล มาดริด ตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งอยู่ถิ่น เบอร์นาบิว
เขาคือสุดยอดกองหลังระดับตำนานที่พาชาวคณะชุดขาวทำศึกสังเวียน คว้าแชมป์มาได้จนครบทุกรายการซ้ำแล้วซ้ำอีกจนนับนิ้วแทบไม่หมด และยังเป็นกัปตันที่ลงเล่นมากถึง 621 นัดจากทุกรายการ (ยิงได้ 126 ประตู)
นอกจากนี้ เอียร์โร ยังถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีสุดตลอดกาลของทีมชาติสเปนอีกด้วย เรียกว่ายิ่งใหญ่ซะจนหาคนมาเทียบเคียงได้ยาก แม้แต่กับตัวท็อปอย่าง เซร์คิโอ รามอส เองก็ตาม
ในปี 2003 เอียร์โร ที่อายุเยอะมากแล้วเลือกย้ายออกจาก มาดริด ไปเล่นให้ อัล เรย์ยาน ในลีกกาต้า ซึ่งทุกคนเชื่อว่าเขาน่าจะแขวนสตั๊ดกับทีมนี้แหละ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ทำเซอร์ไพร์สย้ายมาค้าแข้งให้ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หน้าตาเฉย ก่อนจะประกาศอำลงลูกหนังไปในที่สุด
5. เฮนริค ลาร์สสัน
เมื่อพูดถึง เฮนริค ลาร์สสัน แล้วล่ะก็แฟน ๆ ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจไม่รู้สึกว่าสายเกินไปสำหรับการมาอังกฤษของตำนานชาวสวีเดนคนนี้ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าได้เซ็นสัญญากันตั้งแต่สมัยทำผมทรงเดรดล็อคและยิงกระจายให้ เซลติก จะต้องดีกว่านี้หลายเท่าแน่นอน
ลาร์สสัน สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะเครื่องจักรถล่มประตูของทัพม้าลายขาว-เขียว และถึงแม้จะเล่นในลีกระดับกลาง ๆ อย่าง สก็อตติช พรีเมียร์ฯ แต่ก็ยังได้รับคำยกย่องจากคอบอลต่อเนื่องแบบไม่เคยขาดเลย
ปี 2004 บาร์เซโลนา ก็มาพาตัวเจ้าผมทรงเดรดล็อค (ที่สมัยนั้นโกนจนเกลี้ยงแล้ว) ไปอยู่ด้วยเป็นเวลา 2 ฤดูกาลถ้วน ซึ่งก็ไม่สามารถพูดว่าประสบความสำเร็จได้เต็มปาก ทำให้เจ้าตัวถูกปล่อยไปอยู่ โรเซนบอร์ก ตอนปี 2006 ซึ่งทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สบช่องทางเซ็นสัญญายืมมาใช้งานด้วยเป็นเวลา 1 ปี (ด้วยวัย 36) ในช่วงนี้นี่เอง
แม้จะลงเล่นเพียงแค่ 13 นัดยิงได้ 3 ลูกแต่ฟอร์มของเขาโดดเด่นมาก เรียกว่าใช้โอกาสที่ได้รับจาก เซอร์อเล็กซ์ คุ้มค่าทุกวินาทีอย่างแท้จริง จนแฟน ๆ ยกให้เป็นขวัญใจไปตลอดกาล