How to "เก็งกำไรสนีกเกอร์?"

ในยุคปัจจุบันที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนทุกอย่างก็ล้วนมีมูลค่า ไม่เว้นแม้แต่ในวงการแฟชั่นที่ถึงแม้วัตถุประสงค์หลักจะเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ แต่เมื่อความต้องการมีปริมาณมาก สวนทางกับสินค้าที่มีปริมาณน้อย สิ่งที่ตามมาจึงเป็นราคาที่พุ่งสูงขึ้นเป็นเรื่องปกติ และที่เห็นได้ชัดที่สุดคือสินค้าประเภท "รองเท้าสนีกเกอร์" ที่มีการซื้อมาขายไปเพื่อเก็งกำไรกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

และในเมื่อแทบทุกอย่างสามารถเป็นการลงทุนได้ Main Stand จึงขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อสนีกเกอร์ที่นอกจากจะได้รองเท้าคู่ที่สวยถูกใจแล้ว ยังสามารถนำไปขายต่อในราคาดีได้ด้วย นอกจากนั้นมาดูกันว่าในตลาดรีเซลล์สนีกเกอร์ปัจจุบัน สนีกเกอร์คู่ไหนที่มีราคาพุ่งขึ้นสูงที่สุดจากราคาป้ายตามอัตราเปอร์เซ็นต์

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้น

ในการที่จะเริ่มต้นเข้าสู่วงการรีเซลล์สนีกเกอร์นั้น สื่ออย่าง FashionBeans หนึ่งในผู้นำข่าวสารวงการแฟชั่นสำหรับผู้ชายบอกว่า สิ่งแรกที่จำเป็นต้องตระหนักคือ ปัจจัยสำคัญในการที่รองเท้าสนีกเกอร์แต่ละคู่จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น คือจำนวนที่ผลิตออกมา ซึ่งสัมพันธ์กับจำนวนผู้บริโภคในตลาด ดังนั้นการเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดคือ เริ่มจากรองเท้าที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด หรือ Limited Edition

 

สนีกเกอร์ที่มีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็วนั้น โดยปกติจะไม่ใช่สนีกเกอร์ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด แต่จะเป็นสนีกเกอร์ที่คุณต้องไปเข้าคิวรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดหรือต้องชิงโชคลุ้นสิทธิ์ในการซื้อมัน ดังนั้นสิ่งสำคัญประการต่อมาถ้าอยากจะเป็นนักรีเซลล์สนีกเกอร์ คือการติดตามข่าวสารในวงการนี้อย่างใกล้ชิด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่อำนวยความสะดวกในการเข้าคิวรอ ไม่ว่าจะของแบรนด์รองเท้าเอง หรือร้านที่วางจำหน่าย และที่ขาดไม่ได้เลยคือ StockX และ GOAT แอปพลิเคชั่นที่สนีกเกอร์เฮดทุกคนต้องมีติดโทรศัพท์เอาไว้ เพราะมันเปรียบเสมือนตลาดหุ้นของวงการสนีกเกอร์ ที่จะทำให้คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของราคาสนีกเกอร์ในตลาดรีเซลล์ได้ตลอดเวลา

การรีเซลล์สนีกเกอร์นั้นแบ่งออกหลักๆ ได้เป็น 2 ประเภท คล้ายๆ กับการเก็งกำไรหุ้น คือหนึ่ง ซื้อมาขายไปทันที ตัวอย่างเช่นถ้าคุณเป็นผู้โชคดีได้สิทธิ์ในการซื้อสนีกเกอร์รุ่นใหม่ลิมิเต็ดอิดิชั่น ถ้าคุณซื้อปุ๊บ แล้วขายทันทีเมื่ออกจากร้าน มูลค่าของมันจะพุ่งสูงขึ้นประมาณ 200-300% ส่วนอีกประเภทของการเก็งกำไร คือการเก็บไว้กับตัวในระยะเวลานาน โอกาสที่มูลค่าของมันจะพุ่งสูงขึ้นกว่านั้นอีกก็มี แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความเสี่ยงที่ต้องแบกรับในกรณีที่มูลค่าของมันลดลง

ดังนั้นสรุปได้ว่าการที่จะเริ่มต้นเข้าสู่วงการรีเซลล์สนีกเกอร์นั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงที่สุดคือความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนสินค้าในท้องตลาดและปริมาณความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งหากพูดในแง่เศรษฐศาสตร์นั้นก็คือ "อุปสงค์-อุปทาน" นั่นเอง นอกจากนั้นก็ไม่ต่างจากวงการเก็งกำไรอื่นๆ ที่ต้องศึกษา ติดตามข่าวสารความเป็นไปอย่างละเอียด

คำแนะนำจากมือโปร

"คุณสามารถที่จะเลี้ยงชีพจากการเก็งกำไรสนีกเกอร์ได้" จัสมิน มิลเลอร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ GOAT กล่าว ซึ่งก็เป็นที่ประจักษ์ชัด เพราะในแต่ละปีบรรดาพ่อค้ารายใหญ่ในตลาดรีเซลล์สนีกเกอร์นั้นสามารถสร้างกำไรได้ในมูลค่าหลักล้านเหรียญเลยทีเดียว

"แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นได้ คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณจะซื้ออะไรและขายอะไร"

 

ส่วน แซม เคอรช์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ @socialocialite หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายสนีกเกอร์ชื่อดังบน Instagram ที่มีผู้ติดตามกว่า 150,000 คน ก็ให้คำแนะนำว่า 

"ผู้คนอาจจะยังติดภาพว่าการจะเก็งกำไรสนีกเกอร์นั้นต้องดั้นด้นไปเข้าแคมป์หน้าร้าน รอข้ามวัน เพื่อให้ได้คู่ที่ต้องการมา แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว มีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการหาสนีกเกอร์ที่ต้องการ เพียงแต่ต้องรู้จักใช้มันให้เป็น ไม่ว่าจะเป็น Instagram, eBay, หรือกลุ่มต่างๆ ใน Facebook"

"ในแต่ละสัปดาห์จะมีรองเท้าคู่ใหม่ออกวางจำหน่ายตลอด และถ้าคุณศึกษามันมาแล้วว่าแนวโน้มในอนาคตความต้องการของรองเท้ารุ่นนั้นจะพุ่งสูงขึ้น จากปัจจัยต่างๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้อมัน แปลว่าจะมีเงินเข้ากระเป๋าคุณแล้ว ขั้นต่ำ 40-60 เหรียญ" เดเร็ค มอริสัน หัวหน้าฝ่ายธุรกิจของ StockX กล่าว

"อย่างไรทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการจับตามองความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างใกล้ชิดนั่นแหละ" มอริสันกล่าวทิ้งท้าย

คงพอจะได้เรียนรู้กันไปบ้างแล้วว่าการเริ่มต้นเข้าสู่วงการรีเซลล์นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง ต่อไปที่เราจะนำเสนอคือสนีกเกอร์ 10 คู่ที่มูลค่าพุ่งขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่วางขายครั้งแรก (จัดอันดับตามเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่สูงขึ้น) จากการรายงานของสื่ออย่าง Market Insider เมื่อเดือนกันยายนปี 2019 และ Hypebeast เมื่อเดือนธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าการรีเซลล์สนีกเกอร์นั้นสามารถสร้างรายได้มหาศาลได้จริงๆ ถ้าเราศึกษามันดีพอ

10. Virgil Abloh x Converse Chuck 70

ราคาเปิดตัว: $130 (ประมาณ 3,900 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $1,134 (ประมาณ 34,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 872%

 

ความเห็นจาก อาเมียร์ อาซาครอน ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: การโคจรมาพบกันระหว่างรองเท้าสุดคลาสสิคอย่าง Chuck Taylor กับดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เวอร์จิล แอบโลห์ แห่ง Off-White™ ที่ระเบิดไอเดียดัดแปลงความคลาสสิคให้เป็นความล้ำยุคด้วยการใช้วัสดุโปร่งแสง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รองเท้ารุ่นนี้จะได้รับการจับตามองอย่างสูง

9. Off-White™ X Nike Air Force 1 Low MCA 

ราคาเปิดตัว: $185 (ประมาณ 5,500 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $1,875 (ประมาณ 56,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 1,015%

 

ความเห็นจาก ชอน คอนเวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: เมื่อ เวอร์จิล แอบโลห์ จับมือกับ Nike ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มูลค่าของมันจะพุ่งขึ้นสูงขนาดนี้ ยิ่งคู่นี้มาพร้อมกับสีสันที่แปลกใหม่ ยิ่งควรค่าแก่การลงทุน

8. Travis Scott x Air Jordan 1 "Cactus Jack"

ราคาเปิดตัว: $175 (ประมาณ 5,200 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $1,795 (ประมาณ 54,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 1,026%

 

ความเห็นจาก อาเมียร์ อาซาครอน ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: การรวมตัวกันของหนึ่งในตระกูลรองเท้าที่คนไฮป์ที่สุดอย่าง Jordan กับศิลปินที่คนไฮป์ที่สุดในยุคนี้อย่าง ทราวิส สก็อตต์ มันคือสูตรสำเร็จของราคารีเซลล์ที่พุ่งสูงอย่างเข้าใจได้

7. Futura x UNKLE x Nike Dunk High Pro SB

ราคาเปิดตัว: $70 (ประมาณ 2,100 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $836 (ประมาณ 25,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 1,195%

 

ความเห็นจาก อาเมียร์ อาซาครอน ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: เปิดตัวออกมาในปี 2004 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Nike SB ได้รับความนิยมอย่างสูง นอกจากนั้น Nike ยังร่วมมือกับ UNKLE กลุ่มทริปฮอปชื่อดัง และลวดลายยังบนตัวรองเท้าก็เป็นผลงานของศิลปินกราฟฟิตีผู้มีความโดดเด่นอย่าง Futura

6. Nike X Tom Sachs Mars Yard 2.0

ราคาเปิดตัว: $200 (ประมาณ 6,000 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $3,000 (ประมาณ 90,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 1,500%

 

ความเห็นจาก ชอน คอนเวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: การร่วมมือกันระหว่าง Nike กับ ทอม แซคส์ ศิลปินชื่อดัง สร้างสรรค์รองเท้ารุ่นนี้ออกมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการท่องอวกาศของ NASA ด้วยคอนเซปต์ที่น่าสนใจ จึงทำให้มันกลายเป็นสนีกเกอร์ที่ได้รับความสนใจอย่างมหาศาลตั้งแต่วางจำหน่ายครั้งแรก

5. Nike x Kanye West Air Yeezy 2 Red October

ราคาเปิดตัว: $179 (ประมาณ 5,400 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $2,900 (ประมาณ 87,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 1,620%

 

ความเห็นจาก ชอน คอนเวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: การร่วมมือกันครั้งสุดท้ายระหว่าง Nike กับ คานเย่ เวสต์ สำหรับคอลเล็กชั่น Air Yeezy 2 เกิดเป็นสนีกเกอร์สีแดงฉูดฉาด กระชากความสนใจของเหล่าสนีกเกอร์เฮดได้อย่างมหาศาล

4. Off-White™ x Air Jordan 1 "Chicago"

ราคาเปิดตัว: $190 (ประมาณ 5,700 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $3,450 (ประมาณ 103,500 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 1,816%

 

ความเห็นจาก อาเมียร์ อาซาครอน ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: สุดยอดสนีกเกอร์แห่งปี 2019 ด้วยการผสมผสานระหว่างสีสันและเงาอันเป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์จากไอเดียของ เวอร์จิล แอบโลห์ สนีกเกอร์ดีไซน์เนอร์แห่งยุค

3. Jordan 3 Retro "Oregon Ducks PE Promo"

ราคาเปิดตัว: $194 (ประมาณ 5,800 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $4,000 (ประมาณ 120,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 2,062%

 

ความเห็นจาก ชอน คอนเวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: สนีกเกอร์ที่ในครั้งแรกวางจำหน่ายแค่ในวงแคบๆ ของนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้องของทีม Oregon Ducks แห่ง University of Oregon ดังนั้นมันจึงจัดเป็นสุดยอดแรร์ไอเท็ม ความพิเศษอีกอย่างคือสนีกเกอร์รุ่นนี้ได้เปลี่ยนโลโก้จาก Jumpman ซึ่งเปรียบเสมือนโลโก้ประจำตัวของ Air Jordan เป็นสัญลักษณ์รูปตีนเป็ด สื่อถึงทีม Oregon Ducks นั่นเอง

2. Off-White™ x Nike Air Force 1 MoMA Low

ราคาเปิดตัว: $175 (ประมาณ 5,200 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $3,750 (ประมาณ 112,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 2,143%

 

ความเห็นจาก อาเมียร์ อาซาครอน ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานศิลปะที่มาในรูปแบบของรองเท้าสนีกเกอร์ จึงทำให้นี่เป็นรองเท้า Off-White™ ที่ราคาสูงที่สุดในตลาดรีเซลล์นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์

1. Nike MAG with Limited Edition Plutonium Case

ราคาเปิดตัว: $179 (ประมาณ 5,400 บาท)

ราคารีเซลล์ปัจจุบัน: $9,900 (ประมาณ 300,000 บาท)

มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น: 5,530%

 

ความเห็นจาก ชอน คอนเวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์แห่ง The RealReal: การร่วมมือกันระหว่าง Nike และภาพยนตร์เรื่อง Back to the Future Part II ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าผูกเชือกอัตโนมัติที่ตัวเอกอย่าง มาร์ตี้ แมคฟลาย สวมใส่ ผลลัพธ์คือสนีกเกอร์ที่มีอัตรารีเซลล์พุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะนอกจากตัวรองเท้าแล้ว อุปกรณ์เสริมที่แถมมาด้วยนั้นก็ล้วนแล้วแต่ลิมิเต็ดอิดิชั่นแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น กล่อง Nike Mag Plutonium ซึ่งมาพร้อมกับที่ชาร์จ, เสื้อยืดรุ่นพิเศษ, ขาตั้ง Nike Air Mag, ที่ทับกระดาษ หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กพร้อมดีวีดี และภาพวาดของ ทิงเกอร์ ฮาตฟิลด์ ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบ