ชำแหละ 4 ประเด็นร้อน : หลัง หงส์แดง เปิดรังเชือด วูล์ฟแฮมป์ตัน

ชำแหละ 4 ประเด็นร้อน : หลัง หงส์แดง เปิดรังเชือด วูล์ฟแฮมป์ตัน

ชำแหละ 4 ประเด็นร้อน : หลัง หงส์แดง เปิดรังเชือด วูล์ฟแฮมป์ตัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

4. ความเป็นไปของเกมFBL-ENG-PR-LIVERPOOL-WOLVESPAUL ELLIS/GettyImagesกลายเป็นเกมที่มีประเด็นการตัดสินด้วย VAR ให้พูดถึง 2 ครั้งซ้อนในช่วงท้ายครึ่งแรกทั้งประตูขึ้นนำของ ลิเวอร์พูล และโดยเฉพาะช็อตที่เกือบจะได้ประตูตีเสมอของ วูล์ฟแฮมป์ตัน

ไล่เรียงตั้งแต่ประตูของ ซาดิโอ มาเน ที่เริ่มต้นจากการจับบอลที่กลางสนามของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ซึ่งใกล้เคียงที่บอลจะกระดอนขึ้นมาไต่โดนแขนของปราการหลังชาว ดัตช์ ก่อนที่ อดัม ลัลลานา จะพักบอลโดยใช้บริเวณก้ำกึ่งระหว่างหน้าอกกับหัวไหล่ให้ มาเน ซัลโว

ขณะที่จังหวะน่าจะได้ของ วูล์ฟส ถูกปฎิเสธด้วย VAR เมื่อ จอนนี ยืมเหลื่อมกว่าแนวรับของ หงส์แดง ไปเพียงเส้นยาแดงผ่านแปดก่อนที่จะหลุดไปแอสซิสต์ให้ เปโดร เนโต้ สังหารในกรอบเขตโทษ

3. รายละเอียดเล็กน้อยสร้างความแตกต่างระหว่าง หมาป่า-หงส์แดงFBL-ENG-PR-LIVERPOOL-WOLVESPAUL ELLIS/GettyImagesน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ นูโน ซานโต้ เลือกดร็อป ราอูล ฆิเมเนซ กับ อดามา ตราโอเร ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่พวกเขาเฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 เมื่อ 48 ชั่วโมงก่อนหน้าและจัดทัพออกสตาร์ทด้วยการตั้งรับอย่างเต็มรูปแบบ การขาด 2 แข้งตัวจี๊ดดังกล่าวทำให้เกมสวนกลับของทัพ หมาป่า ไม่สามารถสร้างอันตรายให้กับแนวรับ หงส์แดง ได้อย่างที่ควรจะเป็นและจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ที่ตามหลังไปก่อน

ลูกทีมของ ซานโต้ ที่มี อดามา ถูกส่งลงสนามหลังจากพักครึ่งดูยกระดับเกมรุกมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดและสามารถกดดันทัพ เร้ดแมชีน ได้ในครึ่งเวลาหลัง แม้ว่า วูล์ฟส จะไม่ได้ประตูตีเสมออย่างที่พวกเขาคาดหวังแต่ต้องยกนิ้วให้กับการประสานงานของพวกเขาที่ทำได้อย่างน่าประทับใจ

2. มาเน รับบทพระเอกFBL-ENG-PR-LIVERPOOL-WOLVESPAUL ELLIS/GettyImagesในวันที่คนใดคนหนึ่ง หรือกระทั่ง 2 คนใน 3 ประสานแดนหน้าของ ลิเวอร์พูล ไม่อาจคลำเป้าได้เจอ พวกเขามักมีอีก 1 คนที่เหลือที่มักโผล่มาสร้างจุดเปลี่ยนให้กับทีมอยู่เสมอ คราวนี้กลายเป็น ซาดิโอ มาเน ที่เป็นคนซัลโวประตูสำคัญให้กับทีมคว้าชัยชนะรักษาโมเมนตัมในการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ข้ามปี

 ประตูของดาวเตะทีมชาติ เซเนกัล ในเกมนี้ทำให้เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูของทีมใน พรีเมียร์ลีก ขวบปีนี้แตะหลัก 30 ครั้งเข้าไปแล้ว (24 ประตู 6 แอสซิสต์) นับว่าเป็นรองเพียงแค่ เจมี วาร์ดี้ หัวหอกสังกัด เลสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น

1. หนูเทรนท์ ยังร้อนแรงต่อเนื่องTrent Alexander-ArnoldRobbie Jay Barratt - AMA/GettyImagesให้หลังจากการพัง 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ให้ ลิเวอร์พูล เมื่อเกมก่อนหน้านี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในบทบาทแบ็คขวาจอมบุกยังคงรักษามาตรฐานของตนเองไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

 แม้เจ้าตัวจะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดหรือเป็นคนทำแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ แต่ดาวเตะชาว อังกฤษ วัยเพียง 21 ปีกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการปั้นเกมรุกจากกราบขวา

 เจ้าหนูเทรนท์ กลายเป็นนักเตะที่ได้สัมผัสบอลมากที่สุดในสนามที่ 114 ครั้งและสร้างโอกาสให้เพื่อนได้ยิงประตูมากที่สุด 2 ครั้งเป็นรองเพียงแต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (3 ครั้ง) เท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook