รู้จักสนามซ้อมแห่งใหม่ของเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เจ๋งและทันสมัยที่สุดในยุโรปมูลค่า 100 ล้านปอนด์

รู้จักสนามซ้อมแห่งใหม่ของเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เจ๋งและทันสมัยที่สุดในยุโรปมูลค่า 100 ล้านปอนด์

รู้จักสนามซ้อมแห่งใหม่ของเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เจ๋งและทันสมัยที่สุดในยุโรปมูลค่า 100 ล้านปอนด์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คิง พาวเวอร์ ร่วมจับมือกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี แม้จะดูเป็นเรื่องปกติแต่มันมีเหตุผลคนไทยทำไมจึงต้องตื่นเต้นกับเรื่องนี้

เหตุผลก็คือ คิง พาวเวอร์ เพิ่งทำ “บิ๊ก โปรเจ็คท์” ด้วยการสร้างศูนย์ฝึกเยาวชนของ เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรที่พวกเขาเป็นเจ้าของ ด้วยมูลค่า 100 ล้านปอนด์ กับเป้าหมายสร้างทีมให้ใหญ่คับยุโรป ... ซึ่งศูนย์ฝึกของไทยจะใช้ไอเดียการสร้างที่ถอดแบบมาจากของเลสเตอร์ด้วย

เงิน 100 ล้านปอนด์ ถูกนำไปใช้สร้างอะไรบ้าง และมีอะไรที่มันเจ๋งยิ่งกว่าสนามซ้อมของสโมสรดังระดับโลกอื่นๆ ... ติดตามได้ที่นี่

ศูนย์ฝึกฟุตบอลที่รักธรรมชาติที่สุด

ในปัจจุบันกระแสรักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม กลายมาเป็นกระแสหลักที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกันอย่างจริงจัง ในแต่ละประเทศ แต่ละองค์กร มีการใช้กฎหมาย นโยบาย รวมถึงแคมเปญต่างๆ มากมาย เพื่อตอบรับกับกระแสดังกล่าว ซึ่ง เลสเตอร์ ซิตี้ เองก็เช่นกัน การก่อสร้างศูนย์ฝึกแห่งใหม่ของพวกเขา ถึงแม้เป้าหมายใหญ่จะเป็นการสร้างศูนย์ฝึกที่ทันสมัยที่สุด แต่สิ่งที่พวกเขาคำนึงถึงไม่แพ้กัน คือการใส่ใจสิ่งแวดล้อม


Photo : www.lcfc.com

ศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ จะตั้งอยู่ในย่าน ชานวูด ทางตอนเหนือของแคว้น เลสเตอร์เชียร์ ห่างจากย่านใจกลางเมืองไปประมาณ 7 ไมล์ 

ท่ามกลางพื้นที่รกร้างกว้างใหญ่กว่า 185 เอเคอร์ หรือราว 750,000 ตารางเมตร ที่ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของ ปาร์ก ฮิลล์ กอล์ฟคลับ ตอนนี้กำลังจะถูกเนรมิตแทนที่ด้วยสิ่งก่อสร้างสุดทันสมัย อย่างไรก็ตามก่อนที่การก่อสร้างจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง สิ่งแรกที่ทีมงานทุกคนคำนึงถึงคือ “ธรรมชาติ” ซึ่งเป็นแนวคิดตั้งต้นที่แตกต่างจากศูนย์ฝึกซ้อมของทีมชั้นนำอื่นๆ ในยุโรป

ในช่วงแรกของโครงการ การดำเนินงานจะมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบทางนิเวศวิทยา ซึ่งตามแผนงาน พวกเขาต้องการที่จะเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้มากยิ่งขึ้น ในพื้นที่เดิมซึ่งมีความงดงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว 

จากเดิมในพื้นที่ 185 เอเคอร์ มีบริเวณที่เป็นป่าไม้อยู่ประมาณ 4.5 เอเคอร์ ทีมงานผู้ก่อสร้างกำลังจะปลูกต้นไม้เพิ่มเข้าไปอีกกว่า 38,000 ต้น เพื่อทดแทนในส่วนที่พวกเขาจำเป็นต้องตัดต้นไม้ลง 9,000 ต้นเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างไรก็ตามการจำเป็นต้องตัดต้นไม้ครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นการสูญเปล่าทางธรรมชาติเสียทีเดียว เพราะเศษไม้ที่ถูกโค่นจำนวน 900 ตันจะถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อประโยชน์ต่างๆ ของสโมสร และนอกจากนั้นยังมีแผนการเนรมิตพื้นที่อีก 4.6 เอเคอร์ให้กลายเป็นทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีสัน


Photo : www.leicestermercury.co.uk

อีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่ทำให้เห็นว่า เลสเตอร์ ซิตี้ เล็งเห็นความสำคัญของธรรมชาติ คือการเคลื่อนย้ายสัตว์น้ำกว่า 400 ตัวไปสู่บ้านใหม่ที่เหมาะสมเป็นการชั่วคราว เนื่องจากการก่อสร้างครั้งนี้จำเป็นต้องมีการถมบึงน้ำที่มีอยู่เดิมเพื่อการก่อสร้างที่เหมาะสม โดยในภายหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีแผนที่จะขุดบึงน้ำใหม่ขึ้นมาทดแทน โดยหวังให้เป็นบ่อที่มีคุณภาพสูงสุด เพื่อสร้างแหล่งน้ำถาวรที่เป็นมิตรต่อสัตว์ป่าเพื่อชดเชยบ่อที่หายไป และจะนำพันธุ์สัตว์น้ำเดิมที่มีอยู่แล้วกลับสู่บ้านเดิม พร้อมกับเพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำชนิดใหม่เข้าไป สร้างความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำให้มากขึ้น 

เช่นเดียวกับสัตว์ป่าที่ทางสโมสรก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะส่วนหนึ่งในพื้นที่ 185 เอเคอร์ จะถูกแบ่งให้เป็นที่อยู่ของเหล่าสัตว์ป่า เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายพันธุ์ และจะมีการรักษาสมดุลในวงจรห่วงโซ่อาหารของสัตว์ให้คงที่ ไม่เบียดเบียนกันมากจนเกินไป เป็นวงจรชีวิตสัตว์ป่าที่สมบูรณ์ในตัวของมันเอง

นี่คือการเริ่มต้นก้าวแรกสู่ความยิ่งใหญ่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่ลืมคำนึงถึงความสำคัญของธรรมชาติ โดยที่ไม่มีศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสรไหนคำนึงถึงประเด็นนี้ในแง่มุมที่จริงจังขนาดนี้มาก่อน สอดคล้องกับภาพร่างฉบับสมบูรณ์ของศูนย์ฝึกซ้อมแห่งนี้ ที่นอกจากความทันสมัยล้ำยุคแล้ว รอบข้างยังเขียวขจี ดูสบายตา และน่าจะเป็นศูนย์ฝึกซ้อมในฝันของนักเตะเยาวชนหลายคน

เมื่อการจัดการพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือส่วนสำคัญที่สุด ... การสร้างศูนย์ฝึกซ้อมที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป

ความทันสมัยในพื้นที่ 185 เอเคอร์

งบประมาณ 100 ล้านปอนด์ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ กู้ยืมมาจากบริษัทการเงินสัญชาติออสเตรเลีย โดยผ่านความเห็นชอบของสภาเมืองชานวูด ถูกเปลี่ยนให้เป็นสิ่งก่อสร้างสุดทันสมัยมากมายในพื้นที่ 185 เอเคอร์ ซึ่งเมื่อเทียบขนาดแล้ว ก็มีเพียง เรอัล มาดริด เท่านั้นที่มีศูนย์ฝึกขนาดใหญ่ และใช้งบประมาณมากกว่าพวกเขา


Photo : www.kssgroup.com

อย่างแรกคือสนามฟุตบอล ศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่นี้จะมีสนามฟุตบอลกลางแจ้งขนาดมาตรฐาน 11 สนาม สนามฟุตบอลขนาดเล็กที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมนักเตะเยาวชนอีกจำนวน 8 สนาม รวมถึงสนามฟุตบอลในร่มสุดหรูซึ่งจะตกแต่งด้วยไม้ที่โค้งเว้ารับเงาแสงอาทิตย์ พร้อมด้วยหลังคากระจกอีกหนึ่งสนาม 

นอกจากนั้นยังมีสนามที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมผู้รักษาประตูโดยเฉพาะอีก 2 สนาม สนามที่ออกแบบมาเพื่อฝึกซ้อมผู้เล่นในแนวรุกโดยเฉพาะอีกหนึ่งสนาม สนามที่ใช้สำหรับการวอร์มร่างกายและฝึกซ้อมด้านแท็คติกอีก 5 สนาม เรียกได้ว่า ทุกอย่างพร้อมสรรพสำหรับการพัฒนานักเตะทุกตำแหน่งอย่างแท้จริง

ใกล้กับโซนสนามฝึกซ้อมจะเป็นโซนที่พัก ซึ่งจะมีจำนวนทั้งหมด 35 ห้อง ทุกห้องจะมีสระว่ายน้ำขนาดย่อม ซึ่งจะติดตั้งระบบวารีบำบัดเพื่อช่วยผู้เล่นฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ เพื่อให้ผู้เล่นทุกคนสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ในทุกช่วงเวลา 


Photo : www.business-live.co.uk

นอกจากนั้นยังมีสนามที่จะใช้เพื่อจำลองบรรยากาศของการแข่งขันจริง รองรับผู้เข้าชมทั้งหมด 499 ที่นั่ง โดยมีจุดประสงค์ให้นักเตะเยาวชนของทีมสามารถซึมซับบรรยากาศ เพื่อลดความตื่นเต้นในวันแข่งขันจริง พร้อมด้วยโซนจอดรถที่สามารถรองรับได้มากถึง 421 คัน และส่วนของ Sports Turf Academy ศูนย์การเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับหญ้าและดินที่ใช้ในสนามฟุตบอล มีจุดประสงค์เพื่อการสร้างผู้เชี่ยวชาญรุ่นต่อไปในศาสตร์ด้านนี้ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในยุโรป 

ศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ตามกำหนดจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2020 ก่อนจะพร้อมให้เข้าใช้งานก่อนที่พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020-21 จะเริ่มต้นขึ้น และเมื่อช่วงเวลานั้นมาถึง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็พัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นอย่างยั่งยืน ตามปณิธานในการริเริ่มโครงการนี้ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

โอกาสครั้งสำคัญ

“มันคือโอกาสเดียวในรุ่นของเราที่จะลงทุนครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีความหมายในระยะยาวกับสโมสร” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ คนปัจจุบันกล่าวถึงก้าวสำคัญของสโมสร ที่กำลังจะมีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งใหม่มาทดแทนศูนย์ฝึกซ้อม เบลวอร์ ไดร์ฟ ที่ใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1967


Photo : www.sportbible.com

“เรามีความทะเยอทะยาน และผมชอบที่คนของเราไม่มีใครกลัวที่จะพูดถึงความทะเยอทะยาน เราต้องการที่จะปรับปรุงทุกอย่างให้ดียิ่งขึ้น นั่นหมายถึงการต้องก้าวไปข้างหน้า”

“เราตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในหกทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษมาได้สักพักแล้ว แต่ในระยะยาว เราต้องสร้างสิ่งใหม่เพื่อโอกาสที่มากขึ้น” อัยยวัฒน์ให้สัมภาษณ์ผ่านทางเว็บไซต์ของสโมสร

นอกจากจะเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของ อัยยวัฒน์ ในฐานะประธานสโมสรแล้ว ในอีกความหมายมันคือการสานต่อวิสัยทัศน์ของ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรผู้เป็นพ่อ ที่อยากเห็น เลสเตอร์ ซิตี้ ยกระดับเทียบชั้นกับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป

“วิวัฒนาการเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้สโมสรของเราก้าวไปข้างหน้า เพื่อคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง ความสำเร็จ เพื่อสร้างความทรงจำที่ต่อเนื่องมาหลายชั่วอายุคน” ครั้งหนึ่งคุณวิชัยเคยกล่าวไว้

การก่อสร้างศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่นี้ เลสเตอร์ ซิตี้ เลือกใช้บริการของ แม็คลาเรน กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ เข้ามารับหน้าที่หัวเรือสำคัญในการเนรมิตรศูนย์ฝึกซ้อมในฝันให้เกิดขึ้นจริง



Photo : www.lcfc.com

“ศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่นี้จะยกระดับสโมสรและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ขึ้นไปอีกขั้นเพื่ออนาคตในรุ่นต่อๆ ไปของเรา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยอดเยี่ยมมากที่ แม็คลาเรน กรุ๊ป เข้ามารับหน้าที่ดังกล่าว”

“การลงทุนครั้งใหญ่เช่นนี้ เป็นทั้งโอกาสที่ยอดเยี่ยมและความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องในโครงการ เรามีความยินดีที่จะสร้างส่วนสำคัญของอนาคตของสโมสรด้วยกันและมุ่งมั่นที่จะทำให้บางสิ่งบางอย่างให้เป็นความภาคภูมิใจแสนพิเศษ” ซูซาน วีแลน ผู้บริหารระดับสูงของสโมสรกล่าว

ไม่ใช่แค่สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้นที่รู้สึกยินดีในการได้ร่วมงาน แต่สำหรับ แม็คลาเรน กรุ๊ป โครงการนี้คือความทะเยอทะยานครั้งใหญ่ของพวกเขาด้วยเช่นกัน เพราะหน้าที่ที่พวกเขาได้รับ คือการสร้างศูนย์ฝึกซ้อมทันสมัยที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุโรป


Photo : www.leicestermercury.co.uk

“มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการร่วมมือกับเลสเตอร์ ซิตี้ เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยสร้างนักกีฬารุ่นต่อไป”

“เรานำประสบการณ์มากมายในด้านกีฬาและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงชื่อเสียงและความรับผิดชอบทุกอย่างทุ่มเทให้กับโครงการนี้” เควิน เทย์เลอร์ ประธาน แม็คลาเรน กรุ๊ป เผย

นอกจาก แม็คลาเรน กรุ๊ป ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นฝ่ายก่อสร้างแล้ว สถาปนิกผู้ออกแบบศูนย์ฝึกซ้อมแห่งนี้ก็ได้หัวกะทิจาก KSS Design บริษัทสถาปนิกชื่อดังที่เคยออกแบบศูนย์ฝึกซ้อมให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมถึงออกแบบอัฒจันทร์ใหม่ให้กับ ลิเวอร์พูล 

โครงการนี้จึงเหมือนเป็นการรวมตัวของยอดฝีมือในแต่ละแขนงงาน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งสุดยอดให้กับสโมสรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และกำลังจะยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ให้ทัดเทียมกับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ ...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook