ทำไม "ไซออน วิลเลียมสัน" จึงคู่ควรเป็น "วัยรุ่นพันล้าน" ตั้งแต่อายุ 19 ปี?

ทำไม "ไซออน วิลเลียมสัน" จึงคู่ควรเป็น "วัยรุ่นพันล้าน" ตั้งแต่อายุ 19 ปี?

ทำไม "ไซออน วิลเลียมสัน" จึงคู่ควรเป็น "วัยรุ่นพันล้าน" ตั้งแต่อายุ 19 ปี?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อนับตั้งแต่เข้าสู่สหัสวรรษใหม่ หากนึกถึง "เด็กเทพแห่งวงการบาสเกตบอล" แทบทุกเสียงคงจะนึกถึง เลบรอน เจมส์ ผู้สร้างชื่อในระดับไฮสคูล จนถูกดราฟต์เข้า NBA ในฐานะเบอร์ 1 เมื่อปี 2003 แบบไม่ต้องเข้ามหาวิทยาลัย

ในขณะนั้นวงการบาสเกตบอลทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ต่างจับจ้อง เลบรอน เจมส์ อย่างตาเป็นมัน ไม่ว่าจะเป็นลีลาที่โหดเกินวัย ร่างกายที่ดูแกร่งกว่าเพื่อนร่วมรุ่น รวมถึงทักษะ ความสามารถที่เกินขีดจำกัดของคำว่าเด็กมัธยมในตอนนั้น แต่แน่นอน เมื่อเลบรอนเข้าสู่ลีกอาชีพ ก็มีคำถามจากแฟนๆ ทั่วโลกที่ตั้งไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ "เลบรอนเป็นของจริงหรือไม่?" 

วันเวลาผ่านไป 16 ฤดูกาลนับจากที่เขาเข้ามาสู่ลีก ถึงตอนนี้ไม่ต้องสงสัยว่า เลบรอนนั้นคือ "ของจริง" กับ 3 แชมป์ NBA, 4 รางวัล MVP, 15 ครั้งสำหรับการติดออลสตาร์ ไม่รวมรางวัล ตำแหน่งต่างๆ อีกมากมาย นอกจากนั้น เขายังเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกอีกด้วย เพราะนับจากคราวนั้นมา ก็ยังไม่มีนักบาสคนใดที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ได้มากเท่ากับเลบรอนเลย

กระทั่งมีชายคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้น ...

อนาคตผู้ทะเยอทะยาน

ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ ไซออน วิลเลียมสัน เจ้าของความสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว (198 เซนติเมตร) กับน้ำหนัก 284 ปอนด์ (129 กิโลกรัม) ได้กลายเป็นนักบาสวัยรุ่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ไม่แพ้ เลบรอน เจมส์ ในตอนนั้นเลยทีเดียว 


Photo : www.cnbc.com

ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน รวมถึงรูปแบบการเล่นที่ไม่เกรงกลัวใคร กล้าลุย กล้าแหวก และกล้าที่จะเล่น ทำให้ ไซออน วิลเลียมสัน ถูกพูดถึงในวงการแม่นห่วงของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ถึงขั้นสื่อขนานนามเขาว่า "อนาคตของวงการบาสเกตบอล" เลยทีเดียว 

แม้ว่าคำกล่าวนี้หลายคนจะบอกว่าดูเกินจริง แต่ไซออนนั้นมั่นใจอย่างมาก "ผมคิดว่าผมจะดัง และเป็นสตาร์ตั้งแต่อายุ 5 ขวบนะ" ไซออนกล่าวติดตลก แต่คำพูดของเขานั้นแฝงความทะเยอทะยานอันสูงส่งไว้ ... ทว่าความจริงแล้ว แม้แต่ครอบครัวของไซออนก็ยังเชื่อว่าเขาทำได้ ซึ่งไซออนกล่าวว่า เครดิตหรือความดีความชอบทั้งหมดมาจาก ลี แอนเดอร์สัน พ่อเลี้ยงของเขา 

"พ่อบอกให้ผมตื่นตอนตี 5 เพื่อมาซ้อมชู้ต ซ้อมเลี้ยง หรือซ้อมตามโปรแกรมของพ่อ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมแค่ 9 ขวบเท่านั้น" 

ขณะที่ ชารอนด้า แซมป์สัน คุณแม่ของไซออน ก็เห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อเลี้ยงของไซออนนั้นทำมา เพราะจากประสบการณ์ที่เป็นโค้ช และคุณครูสอนพละในโรงเรียนมัธยมนั้น เธอก็รู้สึกเช่นกันว่า "ไซออนสามารถเป็นสตาร์ได้"

ไซออนนั้นเติบโตเร็วมาก และมีทักษะบาสเกตบอลที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณแม่แซมป์สันกล่าวว่า เดิมทีไซออนนั้นรูปร่างเล็ก ตอนอายุ 16 ปี ช่วงที่เรียนมัธยมปลาย เขาสูง 6 ฟุต 3 นิ้ว (190 เซนติเมตร) แต่หนักเพียง 175 ปอนด์ (79 กิโลกรัม) จนเจ้าตัวถึงกับบ่นให้คุณแม่ฟังทุกๆ วันว่า ตัวเองนั้นผอมไป แรงปะทะไม่มี 

นั่นทำให้ครอบครัวของไซออนนั้น อัดทั้งอาหารการกิน ทั้งการเทรนนิ่ง เพิ่มน้ำหนักในช่วง 3 ปีต่อมารวมๆ กว่า 100 ปอนด์ จนหลายคนอดห่วงไม่ได้ว่า มันมากเกินไป แต่ไซออนก็ออกมาพูดว่า ไม่ใช่ปัญหาเลย


Photo : www.si.com

"หลายคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ร่างกายของผมมันเติบโตขึ้นตามไปด้วย ยิ่งน้ำหนักผมมาก ผมก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย มันทำให้ผมเป็นผู้เล่นที่มีความหลากหลายมากขึ้น" 

และผลงานในสนามก็พิสูจน์ตามที่เขากล่าว เพราะแม้น้ำหนักจะขึ้น แต่ในช่วงมัธยมปลายที่โรงเรียนสปาร์ตันเบิร์ก เขาถูกจับตามองจากแวดวงแม่นห่วงอย่างมาก ด้วยรูปแบบการเล่นที่โหดกว่าเด็กมัธยมทั่วไป ทั้งดังค์ได้ มีลูกหนัก เคลื่อนไหวได้เร็ว เล่นระยะกลางดี แถมเกมป้องกันก็ยอดเยี่ยมเกินกว่าเด็กมัธยมปลาย จนถูกเรียกว่าเป็น "ปีศาจ" แห่งบาสเกตบอล

อย่างไรก็ตาม แม้ในสนามจะดูดุดันเพียงใด แต่คุณแม่ของไซออนกลับบอกว่า ตัวจริงนั้นไซออนเป็นคนที่อ่อนโยน และบ้าการ์ตูนมังงะเอามากๆ "เขาชอบเรื่องนารูโตะ ถ้ามีเวลานะ เขาจะต้องหยิบการ์ตูนเรื่องนี้มาอ่านตลอดเลย แถมบางครั้งยังทำท่าเหมือนนารูโตะด้วย สำหรับฉันยังไงเขาก็ยังคือเด็ก"

ทุกสายตาต้องจับจ้อง

ด้วยการเล่นที่ถูกจับตามองทั่วสหรัฐอเมริกา และสื่อทุกๆ สำนัก ทำให้แม้กระทั่งแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง "เดรค" ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ โตรอนโต แร็ปเตอร์ส ถึงกับกล่าวว่า "ผมเป็นแฟนตัวยง และติดตามไซออนตั้งแต่ตอนเขาเล่นในมัธยมแล้ว และมันโคตรวิเศษมากที่ผมได้ติดต่อกับเขา และเค้ขายังส่งข้อความมาหาผมอีกด้วยนะ" 


Photo : www.basketinside.com

ความดังของไซออนไม่ได้มีเพียงแค่นั้น ด้วยรูปร่างที่ใหญ่ แต่กลับความเร็วที่พริ้วไหวดั่งสายน้ำ เอริค มาเทออส โค้ชอเมริกันฟุตบอลของ LSU หรือ มหาวิทยาลัย ลุยเซียน่า สเตท หลงใหลในความสามารถที่มหัศจรรย์ของไซออนมาก ถึงขนาดส่งคนไปติดต่อไซออน ตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย เพื่อให้ทุนการศึกษาของ LSU แก่ไซออน แลกกับการดึงตัวมาเล่นอเมริกันฟุตบอลให้กับสถาบัน ทว่านั่นคือสิ่งที่ไม่เกิดขึ้น

"มันไม่ใช่การประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยเราหรอกนะ เขายอดเยี่ยมจริงๆ เขามีพลังมากมายเกินกว่าที่คิดและสามารถเล่นอเมริกันฟุตบอลได้ดี แต่ยังไงล่ะ เขาไม่ตอบรับข้อเสนอของเรา" และไซออนก็ตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยดุ๊ค ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงเรื่องบาสเกตบอล

หลังจากที่ ไซออน วิลเลียมสัน ตัดสินใจเล่นให้กับมหาวิทยาลัยดุ๊คแล้ว ชื่อของเขาก็ดังขึ้นไปอีก กับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2018-19 ทั้งๆ ที่นั่นคือปีแรกในการเล่นระดับคอลเลจ 

สถิติเฉลี่ย 22.6 แต้ม 8.9 รีบาวด์ 2.1 แอสซิสต์ และการยิงลง 68% ต่อเกม ทำให้สื่อต่างๆ เริ่มเรียกไซออนว่า "The Next LeBron James" หรือ "เลบรอน เจมส์ คนต่อไป" เรื่องดังกล่าวทำให้เรตติ้งคนดูการถ่ายทอดสดเกมระดับมหาวิทยาลัย หรือ NCAA ในทุกๆ นัดที่ไซออนลงสนามพุ่งขึ้นอย่างมาก สปอนเซอร์ก็เข้าช่องทีวีต่างๆ มากขึ้น และนั่นยิ่งทำให้สื่อต่างๆ จับจ้องไซออนมากยิ่งขึ้น พร้อมกับคาดหวังกันว่า "ไซออน คือว่าที่ดราฟต์เบอร์ 1 ปี 2019 อย่างแน่นอน"


Photo : www.sportsnet.ca

ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เกินจริงนัก ทุกๆ สกู๊ปพิเศษของสื่อทั้ง ESPN, Yahoo Sport, Bleacher Report, Slam ได้บอกตรงกันว่า นี่คือเด็กมหัศจรรย์ต่อจาก เลบรอน เจมส์ เลยทีเดียว และทีมใดได้ไปจะถือเป็นผู้ชนะ กับการยกระดับทีมอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นผลการแข่งขัน เรตติ้งคนดู ตลอดจนเงินรายได้ต่างๆ ที่จะถาโถมเข้ามา และไซออนก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต่างจับจ้องว่า ทีมใดจะโชคดี ถูกหวยกับการได้ดราฟต์ "เด็กมหัศจรรย์" คนนี้ ที่ตัดสินใจจะเข้า NBA หลังจบการเล่นปีแรกกับมหาวิทยาลัยดุ๊กไป

ซึ่งทุกอย่างก็ไม่มีพลิกโผ เพราะในการดราฟต์ของ NBA เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2019 ไซออน วิลเลียมสัน ได้เป็นดราฟต์เบอร์ 1 ตามคาด โดยไปอยู่กับ นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ และปรากฎการณ์ที่หลายฝ่ายคาดหมายก็เกิดขึ้นตามมาแทบจะทันที โดยตั๋วเกม 16,867 ใบที่ สมูทตี้ คิงส์ เซนเตอร์ ในเกมส์พรีซีซั่นของเพลิแกนส์ถูกขายหมดเกลี้ยงทุกนัด

กำเนิด "วัยรุ่นพันล้าน"

ไม่เพียงแต่ทีมที่ได้อานิสงส์ ตัวไซออนเองก็ได้ไปไม่น้อยเช่นกัน เริ่มจากสัญญารุกกี้ ที่มูลค่าใน 2 ปีแรกสูงถึงกว่า 19.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งยังไม่รวมปีที่ 3 และ 4 ซึ่งทีมถือออปชั่นในการต่อสัญญาไว้ มูลค่ากว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของคำว่า "วัยรุ่นพันล้าน" เท่านั้น


Photo : bleacherreport.com

เพราะหลังจากการดราฟต์จบลง ก็มีการประเมินกันต่อว่า แบรนด์รองเท้าดังเจ้าใด ไม่ว่าจะเป็น ไนกี้, อาดิดาส, พูม่า หรือ รีบอค จะได้ทำรองเท้าให้กับไซออนใส่ พร้อมประเมินกันด้วยว่า มูลค่าของสัญญาจะเหยียบๆ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

และผ่านไปไม่ทันไรก็มีข่าวตามมาทันทีว่า ไซออน วิลเลียมสัน ตัดสินใจเซ็นสัญญากับทาง "แอร์ จอร์แดน" แบรนด์รองเท้าบาสเกตบอลในเครือ ไนกี้ ด้วยมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสัญญา 7 ปีในการที่ แอร์ จอร์แดน จะออกรองเท้าของไซออนให้ได้สวมใส่ในสนาม NBA 

แม้ว่ามูลค่าของเงินที่ได้อาจจะไม่มากเท่ากับที่สื่อคาดไว้ มิหนำซ้ำยังมีการประเมินว่า หากไซออนเลือกเซ็นกับแบรนด์อื่น เขาจะสามารถทำรายได้มากกว่านี้ แต่ทีมเอเยนต์ของไซออนนั้นชี้แจงถึงสาเหตุว่า "ไซออนนั้นสบายใจที่อยากจะใส่รองเท้าของ แอร์ จอร์แดน"

หลังจากนั้น สปอนเซอร์จากแวดวงอื่นๆ ก็เข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่มเกลือแร่ เกเตอเรด, น้ำอัดลม เมาเท่น ดิว, ค่ายเกม 2K ผู้สร้างเกม NBA 2K ที่ฮิตติดใจแฟนบาสทั่วโลก หรือแม้แต่ พานินี่ ผู้ผลิตการ์ดสะสมนักกีฬาชื่อดัง ... สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายเจ้าในที่นี้ ล้วนเป็นแบรนด์ที่ไซออนเอ่ยปากด้วยตัวเองว่า เคยเป็นลูกค้ามาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ซึ่งถึงแม้บางทีอาจจะเป็นการตอบเอาใจ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันช่วยให้ภาพลักษณ์ของเขากับแต่ละแบรนด์ในสายตาผู้บริโภคนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


Photo : sneakernews.com

เมื่อนับรวมแล้ว สปอนเซอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แอร์ จอร์แดน, เกเตอเรต, 2K, พานินี่ และ เมาเท่น ดิว ที่เข้ามาหา ไซออน วิลเลียมสัน ประมาณกันว่ารวมๆ แล้วมีมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อรวมสัญญารุกกี้ที่เจ้าตัวรับอยู่แล้วกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เจ้าตัวรับทรัพย์รวมแล้วกว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไซออน วิลเลียมสัน จึงกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน (บาท) อย่างไม่ต้องสงสัย

แน่นอน รายได้มหาศาลย่อมมาพร้อมกับคำครหาจากหลายคน โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า "ไซออนยังไม่ได้พิสูจน์อะไรในลีกเป็นชิ้นเป็นอันเลย" แต่ไซออนและครอบครัวก็ไม่ได้สนใจเรื่องดังกล่าวสักเท่าไหร่ เพราะว่าอย่างน้อยๆ เด็กอายุเพียง 19 ปีคนนี้ สามารถทำเงินกว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการประเมินจากนิตยสาร ฟอร์บส์ ด้วยว่า โอกาสที่ในอนาคตไซออนนั้นจะสามารถทำเงินได้กว่า 1,000 ล้านเหรียญล้านดอลลาร์สหรัฐฯนั้นมีค่อนข้างสูง จากความดังของเขา แม้ว่าผลลัพธ์นั้นจะต้องรอการพิสูจน์ตัวใน NBA ก่อนก็ตาม

แต่เมื่อพูดถึงเรื่องผลงานในสนาม ในตอนนี้ ไซออน วิลเลียมสัน ก็ยังคงไม่ได้เล่นใน NBA เลยสักเกม เนื่องจากไซออนนั้นประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น และทางทีมแพทย์ของเพลิแกนส์ ได้ประเมินแล้วว่าไซออนนั้นจะต้องพักรักษาตัวเป็นระยะเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย 

แม้เรื่องดังกล่าวจะสร้างความสงสัย, กังวล รวมถึงกังขา ทว่า เดวิด กริฟฟิน ประธานของเพลิแกนส์ ก็ได้บอกว่า "มันจะไม่กระทบมากเท่าไหร่ เราต้องเดินหน้าต่อไป มันไม่ใช่ปัญหา เพราะอีกไม่นานไซออนก็จะกลับมา" ซึ่งแม้ผลงานในสนามอาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เรื่องนอกสนามนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะแค่ชื่อของไซออน ก็ทำให้สถานีโทรทัศน์ต่างๆ เลือกเกมที่เพลิแกนส์ลงสนามในโปรแกรมถ่ายทอดสดไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เช่นเดียวกับตั๋วปีที่ขายหมดแล้วอีกด้วย 


Photo : www.sneakerfiles.com

ถึงจะยังไม่ได้เข้าเล่นใน NBA สักเกม แต่ด้วยความสามารถในเชิงบาสเกตบอล บวกกับการโปรโมทอย่างแรงจากสื่อ จึงทำให้เด็กอายุ 19 ปี สามารถรับทรัพย์ไปแล้วหลายพันล้านบาท แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวถือเป็นความมหัศจรรย์ในวงการกีฬาโลก จนหากจะเรียก ไซออน วิลเลียมสัน ว่า "เสี่ยไซออน" ก็ดูจะไม่ผิดนัก

แต่ "เสี่ยไซออน" จะสามารถนำความสามารถที่มี สร้างความสำเร็จให้ตัวเองและทีมสมดังความคาดหวังกับการเป็น "อนาคตของวงการบาสเกตบอล" ได้หรือไม่? คงมีแต่เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ... 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook