"ฟลิป แฟลป" : ไขรหัสท่าไม้ตายของ "โรนัลดินโญ่" ที่ยุคหนึ่งไม่มีใครหยุดได้

"ฟลิป แฟลป" : ไขรหัสท่าไม้ตายของ "โรนัลดินโญ่" ที่ยุคหนึ่งไม่มีใครหยุดได้

"ฟลิป แฟลป" : ไขรหัสท่าไม้ตายของ "โรนัลดินโญ่" ที่ยุคหนึ่งไม่มีใครหยุดได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำไมการเลี้ยงบอลผ่านกองหลังคู่แข่งของ โรนัลดินโญ่ มันจึงง่ายดายนัก? เขาแค่เผชิญหน้าและใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีก็สามารถเอาชนะการดวล 1-1 ได้อย่างง่ายดาย ด้วยท่าเลี้ยงบอลที่ตื่นตาตื่นใจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนทิศทางบอลแบบเสี้ยววินาทีที่โลกตะลึงอย่าง "ฟลิป แฟลป"

 

ว่ากันว่าในช่วงที่ โรนัลดินโญ่ พีกถึงขีดสุด ฟลิป แฟลป คือท่าที่เป็นลายเซ็นและทำให้โลกจดจำมันได้ อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดมีที่มา ไม่ว่าจะต้นกำเนิด, เบื้องหลังความเก่งกาจ และที่มาของสกิลไร้เทียมทานนี้

ติดตามเรื่องราวของ โรนัลดินโญ่ และ ฟลิป แฟลป ของเขาได้ที่นี่

ฟลิป แฟลป คืออะไร?

ก่อนที่จะชื่อ ฟลิป แฟลป ท่าไม้ตายอันเป็นลายเซ็นของ โรนัลดินโญ่ นั้นถูกเรียกว่า อีลาสติโก้ และมันเริ่มเกิดขึ้นรวมถึงเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั้งโลกในปี 1999 มันเป็นช่วงที่ทีมชาติบราซิลกำลังเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกโคปา อเมริกา

 1

ในตอนนั้นทีมแซมบ้าให้โอกาส โรนัลดินโญ่ ฉายาที่แปลว่า "โรนัลโด้น้อย" ซึ่งมีอายุเพียง 19 ปีเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมชุดนี้ด้วย โดยได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องกับ ลัตเวีย และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จากการแอสซิสต์ด้วยการยกบอลข้ามหัวกองหลังลัตเวียให้ อเล็กซ์ เดอ ซูซ่า ยิงประตูเข้าไป หลังจากนั้นทุกคนรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งพาบราซิลชุดยู 17 คว้าแชมป์โลกที่ อียิปต์ ในปี 1997 มาแล้ว

โรนัลดินโญ่ ใช้ท่า อีลาสติโก้ ในการเอาตัวรอดแบบ 1-1 มานานนมนับตั้งแต่เล่นในระดับยู 17 และไปจนถึงเกมลีกกับ เกรมิโอ โดยเฉพาะแมตช์ในความทรงจำที่ เกรมิโอ พบกับ อินเตอร์นาซิอองนาล ตัวของ โรนัลดินโญ่ นั้นเล่นงาน ดุงก้า กัปตันทีมชุดแชมป์โลกปี 1994 เสียหัวคะมำ นอกจากนี้ยังมีทักษะอีกหลายอย่างที่เขาปล่อยออกมาเป็นชุดทั้งการเล่นลูกตอกส้น รวมถึงการผ่านบอลแบบ ราโบน่า (ไขว้ขา) 

"อีลาสติโก้" เป็นท่าที่ใช้เท้าเปลี่ยนทิศทางลูกบอลอย่างรวดเร็ว โรนัลดินโญ่ จะใช้ข้างเท้าด้านนอกของเขาสัมผัสบอลและทำเหมือนกับว่าจะพาบอลออกไปด้านกว้าง ทว่าในเสี้ยววินาทีเขาจะใช้ข้างเท้าด้านในสะกิดและเปลี่ยนทิศทางบอลเพื่อพาบอลไปในทางแคบทันที

 

การสะบัดเท้าอย่างรวดเร็วทำให้ อีลาสติโก้ ถูกเรียกกันอีกชื่อว่า ฟลิป แฟลป ซึ่งหลังจากที่ โรนัลดินโญ่ ใช้มันจนเป็นซิกเนเจอร์ อีลาสติโก้ หรือ ฟลิป แฟลป ก็กลายเป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันแทบจะทั่วโลก โดยเฉพาะที่ ไนจีเรีย ที่เรียกท่าดังกล่าวว่า "เดอะ เกาโช่" เพื่อสรรเสริญ ผู้คิดค้นอย่าง โรนัลดินโญ่ เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม โรนัลดินโญ่ ไม่ได้เป็นคนแรกทีใช้ อีลาสติโก้ อย่างที่ใครเข้าใจ...

ต้นตำรับตัวจริง

เก่าที่สุดเท่าที่จะหาดูได้และมีหลักฐานยืนยันก็พบว่า ท่า อีลาสติโก้ มีรุ่นพี่ชาวแซมบ้าที่ชื่อว่า ริเวลิโน่ ใช้มาก่อนแล้ว

 3

ยุคนั้น ('70s) ต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ทีวียังเป็นขาวดำ ริเวลิโน่ เป็นนักเตะทีมชาติบราซิลชุดแชมป์โลกปี 1970 และถูกเรียกในยุคนั้นว่าเป็นนักเตะเท้าซ้ายที่เก่งที่สุดในโลก รวมถึงเป็นราชาฟรีคิกของทีมชาติบราซิล เขาติดทีมเซเลเซา 92 นัด ยิงได้ 26 ประตู 

อย่างไรก็ตาม ริเวลิโน่ ไม่ได้โด่งดังในวงกว้างเพราะในยุคนั้นมีดาราตัวจริงอย่าง เปเล่ และตัวของเขาเองก็อยู่กับสโมสรอย่าง โครินเธียนส์ ยาวนานถึง 9 ปีและไม่มีความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ดังนั้นโลกจึงไม่ได้จำเขาในฐานะชายผู้ใช้ อีลาสติโก้ คนแรก 

และเมื่อสืบสาวไปอีกก็พบว่า ก่อนหน้า ริเวลิโน่ ยังมีนักเตะบราซิลที่ชื่อว่า ลุยซินโญ่ หรือ ลุยซ์ โทรชินโญ่ หนึ่งในตำนานผู้เล่นตัวรุกของ โครินเธียนส์ ยุค '50s อีกรายที่ใช้ท่า อีลาสติโก้ นี้ ซึ่งแน่นอน ด้วยหลักฐานที่หายากยิ่งกว่า จึงทำให้แทบไม่มีใครจำได้ไปอีกราย

นอกจากนี้ อีลาสติโก้ ยังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในนักเตะบราซิลยุคก่อน โรนัลดินโญ่ ทั้ง โรมาริโอ และ โรนัลโด้ R9 ต่างก็เคยใช้ท่า อีลาสติโก้ ก่อนที่ โรนัลดินโญ่ จะโด่งดังด้วยซ้ำ 

แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือทุกชื่อที่กล่าวมายังไม่สามารถนำท่า อีลาสติโก้ มาเป็นลายเซ็นของตัวเองได้ เพราะต่างคนต่างก็มีจุดเด่นของตัวเองทั้งนั้น ริเวลิโน่ เป็นจอมฟรีคิก, โรมาริโอ และ โรนัลโด้ ก็ถูกจดจำในฐานะยอดดาวยิงมากว่าการเป็นนักเตะที่ใช้ทักษะได้เนียนตาเป็นอาวุธเหมือนกับที่ โรนัลดินโญ่ ทำ 

ขณะที่ยุคของ โรนัลดินโญ่ นั้นฟุตบอลเริ่มหาดูง่าย มีการถ่ายทอดสดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงทำให้ภาพของ เหยินน้อย เป็นที่จดจำไปโดยปริยาย ทว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือการใช้ท่า ฟลิป แฟลป ที่ทำให้คนเห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่ามันต้องเป็นท่าของ โรนัลดินโญ่ เกิดขึ้นจากการฝึกฝนอย่างหนักจนทำให้เขาเคลื่อนที่ได้อย่างลื่นไหลแบบไร้ข้อติติง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าท่า อีลาสติโก้ นั้นถือกำเนิดมาจากการดวลกับกองหลังที่อึดที่สุดในชีวิตเท่าที่เขาเคยพบมา เรี่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็กของ โรนัลดินโญ่ และเขาเล่าว่ากองหลังรายนี้คือผู้ปิดทองหลังพระให้เขาเป็นเจ้าพ่อเรื่องทริกและเทคนิคที่สวยงามต่างๆ

 4

"ตามท้องถนนของ ปอร์โต อเลเกร มีสงครามแก๊งและยาเสพติดเต็มไปหมด ทุกอย่างรอบตัวดูอันตรายนอกจากว่าคุณกำลังเตะบอลในสวนสาธารณะกับสุนัขของคุณ เมื่อนั้นทุกอย่างปลอดภัย"

"ใช่ ผมหมายถึงหมานั่นแหละ หมาของผมคือกองหลังที่ไม่เคยรู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ต่อให้ผมเล่นกับพี่ชายหรือกับเพื่อนๆ ที่สุดแล้วทุกคนจะเหนื่อยก่อนและไม่มีใครเล่นด้วย ก็เหลือแค่ บอม บอม (ชื่อหมา) ตัวเดียวที่เล่นด้วย เพราะมันรักฟุตบอลมาก ตามสไตล์หมาบราซิเลี่ยนแท้ๆ เลย มันเป็นบททดสอบที่ดีมากในการเลี้ยงบอลและฝึกทักษะต่างๆ และนั่นอาจจะเป็นที่มาของ อีลาสติโก้ ครั้งแรกด้วย"

สู่การหลอกที่สมบูรณ์แบบ?

ท่านี้เป็นท่าที่ทำได้ไม่ยาก มีนักเตะในยุคปัจจุบันหลายคนที่ใช้ท่า อีลาสติโก้ ในการเอาตัวรอด ทว่าการจะทำใช้ให้มันหลอกกองหลังแบบตายสนิทต้องอาศัยความเร็วและเทคนิคที่สูงมาก

 5

เวลาที่โรนัลดินโญ่ ใช้ท่า อีลาสติโก้ เท้าของเขารวดเร็วจนแทบมองไม่เห็นจังหวะการเกี่ยวบอลเปลี่ยนทิศทางเลย นอกจากนี้ โรนัลดินโญ่ ยังใช้ท่านี้ได้แทบทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นช่วงที่บอลหยุดนิ่ง ระหว่างที่ใช้ความเร็ว หรือแทบจะทันทีที่เพื่อนร่วมทีมส่งบอลมาให้ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรนัลดินโญ่ ในช่วงที่ยังเป็นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่ๆ ร่างกายยังปราดเปรียวและแข็งแรงนั้น เขาสามารถใช้ท่า อีลาสติโก้ ได้มีประสิทธิภาพมากกว่าช่วงเวลาที่เขาโด่งดังและยิ่งใหญ่กับ บาร์เซโลน่า เสียอีก เพราะเขาสามารถเปลี่ยนทางบอลได้ไกลจากพื้นทื่ที่กองหลังยืนบังอยู่ นอกจากนี้เขายังมีแรงและเร็วพอที่จะวิ่งไปเอาบอลจังหวะสองด้วย

อย่างไรก็ตาม จังหวะการเล่น อีลาสติโก้ ที่ใช้น้อยลงในยุคกับ บาร์เซโลน่า ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพในการเล่นด้านอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า บางครั้ง โรนัลดินโญ่ ใช้การโยกหลอกง่ายๆ ก็สามารถผ่านคู่แข่งได้แล้ว ยิ่งระบบการเล่นของ บาร์เซโลน่า ที่มีผู้เล่นวิ่งรอรับบอลแทบจะรอบของเขา ทำให้ โรนัลดินโญ่ สามารถมีทางเลือกในการเล่นได้มากมายโดยไม่จำเป็นต้องเอาท่า อีลาสติโก้ มาใช้อย่างเดียวเท่านั้น 

ถึงกระนั้น เราจะพบเห็นว่า โรนัลดินโญ่ มักจะเลือกใช้ท่า ฟลิป แฟลป ในสถานการณ์ 1-1 หรือเมื่ออยู่ในพื้นที่แคบๆ เช่นมุมธง หรืออยู่ชิดเส้น ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อ โรนัลดินโญ่ ในวันที่มีความฟิตมากพอได้หันหน้าเผชิญกับกองหลังคนไหน ก็เปรียบเสมือนฝันร้ายมาเยือนดีๆ นี่เอง

"เขาสามารถผสมผสานฟุตบอลที่น่าตื่นเต้นเข้ากับการเล่นที่มีประสิทธิภาพ เขาเป็นปรากฎการณ์ เขามีจิตวิญญาณในการเอาชนะ ในมุมมองของผมเขาคือผู้เล่นทีเก่งที่สุดในโลก" เคราร์ด โลเปซ อดีตนักเตะบาร์เซโลน่า กล่าวถึงสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ โรนัลดินโญ่

 

แม้ทุกทักษะของ โรนัลดินโญ่ นั้นเหมือนจะเป็นสิ่งที่เขาสามารถทำมันได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ โรนัลดินโญ่ ต้องทุ่มเทกับมันมากเป็นพิเศษจนทำให้เขาถูกเรียกว่านักเตะที่เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์อันดับ 1 ของโลก 

ดังนั้นหากกองหลังคนไหนพยายามที่จะป้องกันแต่ อีลาสติโก้ หรืออีกชื่อ ฟลิป แฟลป ของ โรนัลดินโญ่ อย่างเดียว พวกเขาจะพบว่า "เหยินน้อย" จะสามารถเลี้ยงผ่านไปได้ด้วยวิธีอื่นๆ เขามีทักษะซ่อนอยู่ในตัวมากมายและผ่านการใช้มันซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าจนร่างกายจดจำได้แม่นยำ เขายอมรับว่าบางครั้งเขาก็ไม่ทันได้คิดอะไร แต่ขาของเขาก็เคลื่อนที่ไปก่อนตามสัญชาตญาณแล้วด้วยซ้ำ

"เล่นอย่างอิสระเมื่อมีลูกฟุตบอลอยู่กับเท้า เล่นด้วยความสุข... แค่นั้นเอง มันคือเทคนิคที่หลายคนไม่เข้าใจ เมื่อคุณอยู่ในสนามแล้วคุณไม่ต้องคิดคำนวนอะไรทั้งนั้น จงปล่อยให้มันไหลไปตามธรรมชาติ เพราะก่อนที่คุณจะทันได้คิดอะไรเท้าของคุณมันนำหน้าไปก่อนสมองแล้ว" โรนัลดินโญ่ กล่าวถึงความลับที่ทำให้ไม่มีใครเดาใจเขาได้ง่ายๆ ว่าเขาจะไปทางไหน 

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ "ฟลิป แฟลป" : ไขรหัสท่าไม้ตายของ "โรนัลดินโญ่" ที่ยุคหนึ่งไม่มีใครหยุดได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook