.jpg?ip/crop/w670h402/q80/jpg)
ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2022 กระแสข่าวเกี่ยวกับ “สงครามโลกครั้งที่ 3” ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด มีการจัดอันดับประเทศที่ถือว่า “อันตรายที่สุด” หากเกิดสงครามใหญ่ระดับโลกขึ้นจริง
สหรัฐอเมริกาในฐานะมหาอำนาจทางทหารและสมาชิกหลักขององค์การนาโต (NATO) จะกลายเป็นเป้าหมายสำคัญลำดับแรกหากเกิดสงครามโลกขึ้น โดยเมืองใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ วอชิงตัน ดีซี ลอสแอนเจลิส และนิวยอร์ก
เว็บไซต์ด้านความปลอดภัยฉุกเฉิน Mira Safety ระบุว่า หากรัสเซียเปิดฉากโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ จุดยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น ศูนย์อาวุธนิวเคลียร์และเมืองสำคัญจะเป็นเป้าหมายหลัก โดยต่อมาจรวดอาจพุ่งเป้าไปยังเมืองขนาดใหญ่ เช่น ชิคาโก ฮิวสตัน ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และนิวยอร์กซิตี
Pixabay
รัสเซียถูกจัดให้เป็นประเทศเสี่ยงลำดับ 2 เนื่องจากถือเป็น “มหาอำนาจนิวเคลียร์” และอาจเป็นตัวการสำคัญของการปะทุของสงครามโลกครั้งใหม่ โดยกรุงมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เสี่ยงถูกโจมตีมากที่สุด
จีนถูกมองว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่ควรอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 3 เนื่องจากมีความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องไต้หวัน ซึ่งอาจกลายเป็นชนวนสำคัญของความขัดแย้งระดับโลก
ยูเครนอยู่ในอันดับ 4 ของประเทศเสี่ยงที่สุด โดยเยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และโปแลนด์ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 5 ร่วมกัน เนื่องจากเป็นสมาชิกนาโต และอยู่ใกล้แนวรบยุโรปตะวันออก
นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสก์ เคยกล่าวเตือนเมื่อเดือนที่ผ่านมาไว้ว่า “ผมไม่อาจบอกว่าเรากำลังอยู่บนขอบของสงคราม แต่เส้นแบ่งความปลอดภัยได้ถูกข้ามไปแล้ว และตอนนี้สถานการณ์อันตรายยิ่งกว่าที่เคย”
ภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงไต้หวันและเกาหลีเหนือ ต่างถูกจัดอยู่ใน 10 อันดับพื้นที่เสี่ยงเช่นกัน เพราะเป็นภูมิภาคที่มีการเผชิญหน้าทางการทหารและความตึงเครียดสะสมมายาวนาน
ในทางกลับกัน หากสงครามโลกครั้งที่ 3 ปะทุขึ้น ประเทศที่ได้รับการมองว่าปลอดภัยที่สุดคือ สวิตเซอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์ และ อาร์เจนตินา เนื่องจากตั้งอยู่ไกลจากแนวรบหลัก มีเสถียรภาพทางการเมืองสูง และมักรักษาความเป็นกลางในสงครามระหว่างประเทศ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :UNILAD