อย่ารอให้ "งูเข้าบ้าน" เช็กจุดเสี่ยงเหล่านี้ ทั้งบ้าน และ คอนโด ถ้าไม่อยากเจองูโผล่

อย่ารอให้ "งูเข้าบ้าน" เช็กจุดเสี่ยงเหล่านี้ ทั้งบ้าน และ คอนโด ถ้าไม่อยากเจองูโผล่

อย่ารอให้ "งูเข้าบ้าน" เช็กจุดเสี่ยงเหล่านี้ ทั้งบ้าน และ คอนโด ถ้าไม่อยากเจองูโผล่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

งูเข้าบ้านมาจากทางไหน? สำรวจจุดเสี่ยงที่ต้องปิดตาย ก่อนเจอแขกไม่ได้รับเชิญ

ปัญหา งูเข้าบ้าน ถือเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นข่าวเจองูในชักโครก โผล่จากฝ้าเพดาน หรือเลื้อยเข้ามาในห้องนอน การเข้าใจว่าสัตว์เลื้อยคลานเหล่านี้เข้ามาจากช่องทางใด คือกุญแจสำคัญในการป้องกันและสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคนในครอบครัว

สาเหตุหลักที่งูมักเข้ามาในบริเวณบ้านคือการตามหาอาหาร เช่น หนู กบ หรือสัตว์เล็กอื่นๆ รวมถึงการหาที่หลบซ่อนที่แห้งและอบอุ่น โดยเฉพาะบ้านที่มีสภาพแวดล้อมรก มีมุมอับ หรือมีแหล่งอาหารชุกชุม จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น บทความนี้จะพาไปสำรวจช่องทางต่างๆ ที่งูสามารถใช้เป็นทางผ่านเข้ามาในบ้านแต่ละประเภท พร้อมแนวทางป้องกันที่ได้ผล

บ้านเดี่ยว: จุดเสี่ยงรอบตัวที่ต้องระวัง

บ้านเดี่ยว โดยเฉพาะบ้านที่สร้างมานานและมีบริเวณสวนกว้างขวาง มักมีช่องโหว่ที่คาดไม่ถึงหลายจุด ซึ่งเป็นช่องทางให้งูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ง่าย

ช่องทางหลักที่งูใช้เข้าบ้านเดี่ยว

  • ท่อระบายน้ำและชักโครก: ปัญหางูโผล่ในชักโครกมักเกิดจากระบบบ่อพักสิ่งปฏิกูลที่ชำรุดเสียหาย ทำให้งูที่อาศัยอยู่ในท่อสามารถเลื้อยเข้ามาตามระบบท่อจนมาโผล่ที่คอห่านได้ โดยเฉพาะห้องน้ำชั้นล่างจะมีความเสี่ยงสูง

  • รอยร้าวและโพรงใต้บ้าน: บ้านเก่าอาจมีรอยแตกหรือรอยทรุดบริเวณฐานบ้าน กำแพง หรือมีโพรงใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นช่องว่างขนาดใหญ่พอให้งูเลื้อยผ่านเข้ามาเพื่อหาที่หลบภัยหรือวางไข่ได้
  • หลังคาและฝ้าเพดาน: งูบางชนิดสามารถปีนต้นไม้ที่อยู่ใกล้ตัวบ้านเพื่อเข้าสู่บริเวณหลังคาได้ หากมีช่องว่างใต้กระเบื้องหลังคาหรือช่องลมที่ไม่มีตาข่ายปิดกั้น งูก็สามารถเข้าไปอาศัยทำรังบนฝ้าเพดานได้
  • ประตูและหน้าต่าง: ช่องว่างเล็กๆ ใต้ประตู หรือหน้าต่างที่ปิดไม่สนิท หรือไม่มีมุ้งลวด ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่งูสามารถเลื้อยเข้ามาได้เช่นกัน

ทาวน์โฮมและทาวน์เฮาส์: พื้นที่จำกัดแต่ยังเสี่ยง

แม้ทาวน์โฮมจะมีพื้นที่ติดกับเพื่อนบ้าน แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงไม่ต่างจากบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะบริเวณชั้นล่างและส่วนต่อเติมด้านหลังบ้านที่มักเป็นจุดบอดในการป้องกัน

ช่องทางหลักที่งูใช้เข้าทาวน์โฮม

  • ระบบท่อน้ำทิ้ง: เช่นเดียวกับบ้านเดี่ยว ระบบท่อระบายน้ำทิ้งทั้งจากห้องครัวและห้องน้ำ คือเส้นทางหลักที่งูใช้เข้ามาได้ โดยเฉพาะหากฝาท่อระบายน้ำสาธารณะในโครงการไม่แข็งแรงพอ
  • ช่องว่างระหว่างตัวบ้าน: บ้านทาวน์โฮมบางโครงการอาจมีช่องว่างเล็กๆ บริเวณรอยต่อของผนัง หรือช่องสำหรับเดินท่อต่างๆ ซึ่งหากไม่ได้ปิดอย่างมิดชิด ก็อาจกลายเป็นทางเข้าของงูได้
  • กันสาดและหลังส่วนต่อเติม: งูสามารถใช้กันสาดหรือโครงสร้างส่วนต่อเติมปีนขึ้นไปยังชั้นสอง หรือหาช่องโหว่บริเวณหลังคาเพื่อเข้าไปในตัวบ้านได้

คอนโดมิเนียมและอาคารสูง: อยู่ชั้นสูงก็ไม่ปลอดภัย 100%

หลายคนอาจคิดว่าการอาศัยอยู่บนอาคารสูงจะปลอดภัยจากปัญหา งูเข้าบ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้วมีหลายกรณีที่พบงูได้แม้จะอยู่บนชั้นสูงๆ ก็ตาม ซึ่งสร้างความประหลาดใจและหวาดกลัวให้แก่ผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก

ช่องทางที่งูอาจขึ้นคอนโดได้

  • ท่อระบายน้ำแนวดิ่ง: งูสามารถเลื้อยขึ้นมาตามท่อระบายน้ำในแนวดิ่งของอาคารได้ โดยเฉพาะท่อระบายน้ำทิ้งจากห้องน้ำหรือระเบียง และอาจโผล่เข้ามาทางท่อระบายน้ำที่พื้น (Floor Drain) หรือช่องชาร์ป (ท่อประปาและสายไฟ) ได้
  • ช่องแอร์และท่อแอร์: หากมีช่องว่างบริเวณที่ท่อแอร์เชื่อมต่อกับผนังด้านนอกอาคาร งูตัวเล็กอาจเลื้อยผ่านเข้ามาได้
  • ติดมากับสิ่งของ: งูอาจติดมากับสิ่งของที่ขนย้ายขึ้นมาบนอาคาร หรืออาจมีผู้ที่เลี้ยงงูเป็นสัตว์เลี้ยงทำหลุดออกมาจากห้องพักก็เป็นไปได้

แนวทางป้องกันงูเข้าบ้านสำหรับทุกที่อยู่อาศัย

การป้องกันที่ดีที่สุดคือการกำจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของงูและปิดช่องทางที่อาจเป็นทางเข้าให้หมดสิ้น เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างความปลอดภัยในระยะยาว

  • อุดรอยร้าวและช่องโหว่: สำรวจรอบตัวบ้านและภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ หากพบรอยแตก รู หรือโพรง ให้รีบอุดด้วยปูนหรือวัสดุที่แข็งแรง
  • ติดตั้งตาข่าย: ควรติดตั้งตาข่ายหรือตะแกรงที่มีความถี่เหมาะสมบริเวณปลายท่อระบายน้ำ ช่องลมใต้หลังคา และช่องระบายอากาศต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลื้อยคลานเข้าไปได้
  • ดูแลความสะอาดรอบบ้าน: ตัดหญ้าและต้นไม้ไม่ให้รก จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ เพื่อไม่ให้มีมุมอับหรือที่ซ่อนตัวของงูและสัตว์ที่เป็นอาหารของงู
  • กำจัดแหล่งอาหาร: ควบคุมประชากรหนูและสัตว์ฟันแทะในบริเวณบ้าน เพราะหนูเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารสำคัญของงู
  • ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประตูและหน้าต่างทุกบานปิดสนิทดีเสมอ และควรติดตั้งมุ้งลวดเพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

สรุปแล้ว ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในบ้านประเภทใด การหมั่นตรวจสอบและปิดช่องโหว่ต่างๆ รอบบ้าน คือสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันปัญหา งูเข้าบ้าน การดูแลสภาพแวดล้อมให้สะอาดและไม่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของงู จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้บ้านของคุณเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว

แหล่งอ้างอิง

  1. แสนสิริ
  2. AP Thai
  3. Insurverse
  4. Propso
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล