คนไทยชอบกินมาก! "ผักสีขาว" ชนิดนี้ แต่ไม่รู้เลยว่ามี "ขุมโปรตีน" ช่วยต้านมะเร็ง

คนไทยชอบกินมาก! "ผักสีขาว" ชนิดนี้ แต่ไม่รู้เลยว่ามี "ขุมโปรตีน" ช่วยต้านมะเร็ง

คนไทยชอบกินมาก! "ผักสีขาว" ชนิดนี้ แต่ไม่รู้เลยว่ามี "ขุมโปรตีน" ช่วยต้านมะเร็ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนไทยนิยมกินผักสีขาวนวลนี้ แต่ไม่รู้เลยว่ามี "ขุมโปรตีน" ช่วยต้านมะเร็ง แถมเป็นสมบัติล้ำค่าเพื่อ "ชีวิตรัก"

ถั่วงอก เป็นผักงอกที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ราคาเพียงไม่กี่บาทต่อถุง แต่กลับอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามอย่างคาดไม่ถึง

เมล็ดพืชหลายชนิดเมื่อนำมาเพาะอาจเกิดสารพิษได้ แต่ ถั่วงอก เป็นข้อยกเว้น ผักงอกที่มีรสชาติหวานกรอบนี้ได้มาจากการเพาะเมล็ดถั่ว โดยส่วนใหญ่คือถั่วเขียว น้อยคนจะรู้ว่า ถั่วงอกเพียงไม่กี่บาทนั้นเต็มไปด้วยขุมทรัพย์ทางโภชนาการ

ในถั่วงอก 100 กรัม มีโปรตีนจากพืชที่ดูดซึมง่ายประมาณ 5.3 กรัม พร้อมด้วยวิตามิน C, K, วิตามินกลุ่ม B, โฟเลต, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานีส และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย องค์ประกอบที่อุดมไปด้วยโปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินนี้เอง ที่ทำให้ถั่วงอกเป็นแหล่งพลังงานที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งนำมาซึ่งประโยชน์พิเศษต่อร่างกายและความงาม

Markus Winkler

9 ประโยชน์อันโดดเด่นของถั่วงอก

1. ลดความเสี่ยงมะเร็ง

ถั่วงอกคือ "คลัง" ของสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ กรดฟีนอลิก, ฟลาโวนอยด์, กรดคาเฟอิก, กรดซินนามิก ฯลฯ ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าถั่วที่ยังไม่เพาะงอกหลายเท่า สารเหล่านี้ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและป้องกันความเสียหายของเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังและมะเร็งหลายชนิด

นอกจากนี้ คลอโรฟิลล์ในถั่วงอกยังช่วยสลายสารไนไตรต์อะมีน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งทางเดินอาหาร โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ และไอโซฟลาโวนในถั่วงอกยังช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงด้วย

2. เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศชายและหญิง

ถั่วงอกอุดมด้วยวิตามิน C, E รวมถึงโอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งช่วย ปรับปรุงคุณภาพของอสุจิ และ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต จึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ สำหรับผู้หญิง ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ในถั่วงอกจะทำงานคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เพิ่มความต้องการทางเพศ และช่วยเรื่องภาวะเจริญพันธุ์

ด้วยเหตุนี้ ผักชนิดนี้จึงถูกยกให้เป็น "ผู้ช่วย" สำหรับชีวิตคู่มาอย่างยาวนาน

3. ปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

ซาโปนิน (Saponin) ในถั่วงอกช่วย ลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และป้องกันหลอดเลือดแดงแข็งตัว ขณะเดียวกัน วิตามิน C และไฟโตเอสโตรเจนยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดความดันโลหิต ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง

4. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ถั่วงอกถือเป็นอาหารที่ปลอดภัย ด้วยความที่อุดมไปด้วยใยอาหาร คาร์โบไฮเดรตต่ำ และมีไนอาซินพร้อมวิตามิน B1 จึงมีส่วนช่วยในการ ควบคุมอินซูลินและระดับน้ำตาลในเลือด หลังมื้ออาหารได้ เอนไซม์ในถั่วงอกยังช่วยควบคุมการขนส่งกลูโคสในเลือด ช่วยให้ระดับพลังงานคงที่โดยไม่เกิดน้ำตาลพุ่งสูงฉับพลัน

5. ดีต่อกระดูกและข้อต่อ

แมกนีเซียม สังกะสี และแมงกานีสในถั่วงอก เมื่อรวมกับวิตามิน C และ D จะช่วยรักษาความแข็งแรงของกระดูก การรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ โดยเฉพาะในสตรีวัยหมดประจำเดือนและผู้สูงอายุ

6. ปรับปรุงระบบย่อยอาหาร

เอนไซม์ย่อยอาหารตามธรรมชาติและใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำในถั่วงอก ช่วย กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ลดอาการท้องอืด และช่วยให้การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น การรักษาสมดุลของกรดในกระเพาะอาหารยังช่วยลดความเสี่ยงของอาการอักเสบหรือความผิดปกติของลำไส้

7. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ถั่วงอกมีวิตามิน C, สังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง สารเหล่านี้มีบทบาทในการกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว และ เพิ่มความต้านทานของร่างกาย ต่อการบุกรุกของแบคทีเรียและไวรัส การรับประทานถั่วงอกในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายไม่เหนื่อยง่าย และลดความเสี่ยงของไข้หวัดหรือโรคติดเชื้อทั่วไป

8. ช่วยลดน้ำหนักและบำรุงผิว

ถั่วงอกมีใยอาหารสูงและมีแคลอรีต่ำ ทำให้รู้สึกอิ่มนานและจำกัดความอยากอาหาร นอกจากนี้ วิตามิน E, C และสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี ลดริ้วรอย และต่อต้านรังสียูวี ซิลิกา ในถั่วงอกยังช่วยขับสารพิษออกจากผิว ลดสิว และรักษาความชุ่มชื้นของผิว

9. บำรุงเส้นผมให้แข็งแรง

ถั่วงอกให้สังกะสี, ธาตุเหล็ก, ทองแดง, โพแทสเซียม และวิตามินกลุ่ม B ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ บำรุงรากผม, กระตุ้นการงอกของผม, และลดการหลุดร่วง การรับประทานถั่วงอกในอาหารจะช่วยให้เส้นผมเงางามและแข็งแรงตั้งแต่โคนจรดปลาย

Connor McManus

ข้อควรระวังในการรับประทานถั่วงอก

  • ปริมาณที่เหมาะสม: ควรกินถั่วงอกสดประมาณ 80-100 กรัมต่อวัน ไม่ควรกินมากเกินไปเพราะอาจทำให้ท้องอืดหรือท้องเสียได้

  • ไม่ควรกินตอนท้องว่าง: แม้จะสามารถกินถั่วงอกดิบได้ แต่ควรจำกัดปริมาณ และเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ รวมถึงล้างให้สะอาดมาก ๆ

  • ผู้ที่มีอาการท้องเย็นหรือระบบย่อยอาหารอ่อนแอ: ผู้ที่มีกระเพาะอาหารอ่อนแอ, ท้องเย็นง่าย, ท้องเสีย, หรือมีอาการมือเท้าเย็น ควรลดหรือหลีกเลี่ยงการบริโภค สตรีมีครรภ์ และผู้ที่กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยารักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค

  • สังเกตถั่วงอกผิดปกติ: ระวังถั่วงอกที่ไม่มีราก เพราะอาจมีสารพิษในกระบวนการผลิต และไม่ควรรับประทานถั่วงอกที่มีสีหรือกลิ่นแปลก ๆ

  • วิธีการปรุงอาหาร: ควรปรุงอาหารง่าย ๆ และ ไม่ควรต้มนานเกินไป เพราะจะทำให้วิตามินสูญเสียไปมาก ถั่วงอกไม่ควรกินคู่กับตับสัตว์, น้ำผึ้ง และหัวปลี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล