Urban Studies Lab เผยคนไทยแบกค่าที่อยู่อาศัยเกินตัว พร้อมผลักดันกลไกแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ห้อง ACUA Co-Working Space ชั้น 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Urban Studies Lab ศูนย์วิจัยอิสระด้านเมืองและการพัฒนาชุมชน จัดเวทีสรุปงาน “ขับเคลื่อนฐานข้อมูล และนโยบายที่อยู่อาศัย” เพื่อนำเสนอข้อมูลและข้อเสนอเชิงนโยบายต่อสถานการณ์ปัญหาที่อยู่อาศัยในเมืองไทย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ นักวิจัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาเมืองเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
งานวิจัยสะท้อนให้เห็นว่า ครัวเรือนบางกลุ่มมีภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยเฉลี่ยสูงกว่า 30–40% ของรายได้ครัวเรือน และเมื่อรวมกับค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้นจากการที่ที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาต้องอยู่ไกลศูนย์กลางเมือง ทำให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ ต้องเผชิญภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินสมดุลชีวิต
การสำรวจใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ และสงขลา พบแนวโน้มคล้ายกัน คือ Demand ของที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาและใกล้แหล่งงานมีสูง แต่ Supply มีจำกัด ขณะที่โครงสร้างข้อมูลที่อยู่อาศัยจากภาครัฐยังไม่เชื่อมโยงเป็นระบบเดียว
เพื่อตอบสนองต่อปัญหานี้ Urban Studies Lab ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยในสามมิติ ทั้งการสร้างเครื่องมือวัดผลกระทบในระดับย่าน เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์จริง การพัฒนากลไกและระบบสนับสนุนให้คนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น และการกำหนดยุทธศาสตร์เมืองในระยะยาวเพื่อให้เกิดระบบที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง นักวิจัยชี้ว่า หากไม่มีฐานข้อมูลที่แข็งแรงและเชื่อมโยงเป็นระบบ การกำหนดนโยบายก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด
โดยหนึ่งในไฮต์ไลท์สำคัญคือการเปิดตัว Thai Housing Data Portal (https://thai-housing-portal.vercel.app/) ฐานข้อมูลกลางด้านที่อยู่อาศัยของประเทศ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาข้อมูลเปิดด้านที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (การเคหะแห่งชาติ, DGA, บพท. และมูลนิธิสถาบันศึกษาเมือง) เพื่อรวบรวมข้อมูลจาก NSO, data.go.th และ REIC โดยใช้ระบบ CKAN เพื่อจัดเก็บและเชื่อมโยงข้อมูลแบบเปิด ข้อมูลที่นำเสนอครอบคลุม 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ ลักษณะที่อยู่อาศัย ลักษณะครัวเรือน ข้อมูลประชากร เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานโดยรอบ และสิ่งแวดล้อมรอบที่อยู่อาศัย ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ Housing Profile สำหรับรายงานสถานการณ์ที่อยู่อาศัยรายจังหวัด, Housing Stock ที่ช่วยเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย First Jobber และแรงงานสร้างสรรค์ กับโครงการที่พักที่เหมาะสม และ ระบบนำเข้าข้อมูล สำหรับการอัปเดตข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีความต่อเนื่องและน่าเชื่อถือ

อีกแพลตฟอร์มที่ได้รับความสนใจคือ Urban Sleeping Lab (https://urbansleepinglab.com/home) ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาค่าที่พักอาศัยสูงและการเดินทางไกลของคนวัยทำงานในเมือง โดยใช้ Matching System ที่อิงข้อมูล GIS เพื่อแนะนำที่พักแบบ Co-living ที่เหมาะสมกับทั้งงบประมาณและไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันได้ทดลองกับอาคารตัวอย่างกว่า 50 แห่งในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อสร้างฐานข้อมูลอาคารเก่าและอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถปรับปรุงเป็นที่พักผสมผสานใหม่ได้ ระบบนี้ยังออกแบบให้จัดอันดับตัวเลือกที่พักตามความต้องการ และจับคู่ที่พักอาศัยให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ทั้งด้านราคา สิ่งอำนวยความสะดวก และระยะทาง โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การเป็น “คนเมือง” ไม่ได้หมายถึงการต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกินกำลังอีกต่อไป
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
การประชุมได้รับเกียรติจากผู้แทนหลายภาคส่วน เช่น ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ, รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.), ผู้แทนสภาพัฒน์ ตลอดจนคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและนักวิจัยอิสระ ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเชิงนโยบาย โดย ดร.พงษ์พิศิษฐ์ หุยากรณ์ จาก Urban Studies Lab กล่าวย้ำว่า “หากไม่มีฐานข้อมูลที่แข็งแรงและเชื่อมโยงเป็นระบบ การออกนโยบายด้านที่อยู่อาศัยก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด” และกล่าวเสริม โดย รศ.ดร.บุษรา โพวาทอง จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาเคหะการ กล่าวเสริม “การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องระยะยาว ต้องอาศัยการทำงานที่จริงจังและสม่ำเสมอในสามด้านหลัก หนึ่ง การระบุประเด็นปัญหาที่สำคัญที่สุดเพื่อผลักดันเมือง ไม่ใช่ทำทุกเรื่องพร้อมกัน สอง การใช้ประโยชน์จากกลไกที่มีอยู่แทนการสร้างใหม่ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ และสาม การบูรณาการเข้าไปในแผนเทศบาลและหน่วยงานหลัก เพื่อให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีได้อย่างแท้จริง”
เป้าหมายของการจัดเวทีครั้งนี้คือการสร้าง Awareness ต่อสถานการณ์ที่อยู่อาศัย, เปิดพื้นที่ให้เกิดการ แลกเปลี่ยนเชิงนโยบาย, และเชิญชวนภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาใช้ แพลตฟอร์มข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อร่วมกันออกแบบอนาคตของระบบที่อยู่อาศัยไทย ท้ายที่สุด การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ใช่เพียงเรื่องของการสร้างบ้านเพิ่ม แต่คือการสร้างกลไกข้อมูล ระบบ และยุทธศาสตร์เมือง ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วน เพื่อทำให้เมืองไทยเป็น “เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” อย่างแท้จริง
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี
