นักโภชนาการห่วง เนื้อสัตว์ 3 ชนิด "ทำลายไต" อวัยวะที่เงียบที่สุด ถึงไม่เค็มก็อันตราย

นักโภชนาการห่วง เนื้อสัตว์ 3 ชนิด "ทำลายไต" อวัยวะที่เงียบที่สุด ถึงไม่เค็มก็อันตราย

นักโภชนาการห่วง เนื้อสัตว์ 3 ชนิด "ทำลายไต" อวัยวะที่เงียบที่สุด ถึงไม่เค็มก็อันตราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักโภชนาการห่วง เนื้อสัตว์ 3 ชนิด "ทำลายไต" อวัยวะที่พังได้เงียบที่สุด หลายคนกินทุกวันเป็นปกติ  ถึงไม่เค็มก็อันตราย

การมีระดับกรดยูริกในร่างกายสูงเป็นเวลานาน ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดโรคเกาต์หรือภาวะกรดยูริกในเลือดสูงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพไตอย่างเงียบ ๆ ด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ หง ไท่สง ชี้ว่า อาหารที่หลายคนกินเป็นประจำ เช่น เนื้อแดง กุ้ง ปู หอย และเครื่องในสัตว์ ต่างเป็นอาหารที่มี พิวรีนสูง ซึ่งเมื่อร่างกายย่อยแล้วจะกลายเป็นกรดยูริก ไม่ได้หมายความว่าห้ามกินโดยสิ้นเชิง แต่ควรจำกัดปริมาณอย่างจริงจัง “ถ้ากินทุกวัน ระวังไตพังโดยไม่รู้ตัว”

เกาต์แค่ปลายเหตุ สิ่งที่น่ากลัวคือ "ไตพังแบบเงียบ ๆ"

หง ไท่สง โพสต์บนเฟซบุ๊กระบุว่า โรคเกาต์เป็นเพียงอาการที่เห็นได้ชัด แต่สิ่งที่ควรกลัวจริง ๆ คือการที่ไตต้องทำงานหนักมากขึ้นจากอาหารที่เรากินเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว

เขาเตือนว่า หลายคนไปพบแพทย์เมื่อค่าต่าง ๆ ในเลือดผิดปกติ เช่น

  • ค่าครีเอตินิน (Creatinine) สูงขึ้น

  • ระดับกรดยูริกเกิน

  • ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ

ซึ่งเมื่อถึงขั้นนี้แล้ว อาจสายเกินไปสำหรับการป้องกัน

3 กลุ่มอาหารที่มีพิวรีนสูง ควรจำกัดอย่างจริงจัง

  1. เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ แม้จะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่ก็มีไขมันอิ่มตัวและพิวรีนสูง กินมากเกินไปทำให้ไตทำงานหนักขึ้น และอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้อย่างเงียบ ๆ

  2. อาหารทะเล โดยเฉพาะ กุ้ง ปู หอย แม้จะอร่อยและได้รับความนิยม แต่ล้วนมีพิวรีนสูง หลังจากย่อยจะกลายเป็นกรดยูริกสะสมในร่างกาย หากบริโภคบ่อยอาจทำให้เกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูง และส่งผลระยะยาวต่อไต

  3. เครื่องในสัตว์ เช่น ตับหมู หัวใจไก่ กึ๋นไก่ เป็นที่นิยมในอาหารประเภท "ตุ๋น" หรือ "ลวกจิ้ม" โดยเฉพาะในอาหารสไตล์ไต้หวัน แต่เครื่องในจัดเป็นอาหารที่มีพิวรีนเข้มข้นมากที่สุด และเป็น เขตอันตรายสำหรับผู้ที่มีปัญหาไต

เครื่องในสัตว์

 ไม่จำเป็นต้องงด แต่ต้อง “จำกัดและเลือก”

  • ควรกินอาหาร 3 กลุ่มนี้ไม่เกิน 1–2 ครั้งต่อสัปดาห์

  • ควบคุมปริมาณให้พอเหมาะ

  • ทุกมื้อควรเพิ่มผักอย่างน้อย 1 ถ้วย

  • ใช้วิธีการปรุงอาหารที่ไขมันต่ำ เช่น ต้ม นึ่ง แทนการทอด

  • เลือกข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต มันเทศ และธัญพืชไม่ขัดสีเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตหลัก

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มหวานและเครื่องดื่มแปรรูป

ข้อคิดจากนักโภชนาการ

“ไตคืออวัยวะที่เงียบที่สุด มันไม่ส่งเสียงเมื่อกำลังถูกทำลาย อย่ารอให้เกิดโรคเกาต์หรือภาวะไตเสื่อมก่อนค่อยเปลี่ยนพฤติกรรม อาหารทุกคำที่เรากินคือการลงทุนในสุขภาพตัวเอง — กินให้ถูก สำคัญกว่ากินเพื่อบำรุง”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล