คลิปหลุดอาบน้ำ อ้างเป็น ‘สีกาเก็น’ ว่อนเน็ต! เตือนอย่าส่งต่อ เสี่ยงคุกสูงสุด 5 ปี

กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อล่าสุดเกิดกระแสคลิปหลุดอาบน้ำที่อ้างว่าเป็นของ “สีกาเก็น” หญิงสาวที่เกี่ยวข้องกับคดีฉาวของ ทิดแย้ม หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดียักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์บาคาร่า

เปิดเส้นทางคดีฉาว “ทิดแย้ม - สีกาเก็น”

จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ระบุว่า ทิดแย้มรู้จักกับสีกาเก็นตั้งแต่เธอเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง ก่อนที่ภายหลังจะกลายมาเป็น “นายหน้าสาวเว็บพนัน” ที่จัดการธุรกรรมพนันให้ทิดแย้ม โดยมีการขอยืมเงินหลายครั้ง และในระยะเวลา 1 ปี อดีตเจ้าอาวาสรายนี้ได้โอนเงินรวมกว่า 100 ล้านบาทให้เธอ

ที่น่าตกใจคือ มีรายงานว่า ทิดแย้มกับหญิงสาวคนดังกล่าวมีการสื่อสารกันผ่านวิดีโอคอลอยู่บ่อยครั้ง และพบว่ามีการส่ง “คลิปอาบน้ำ” ไปให้ทิดแย้มดูด้วย โดยเจ้าหน้าที่พบคลิปดังกล่าวในโทรศัพท์มือถือของอดีตเจ้าอาวาส

คลิปหลุดว่อนเน็ต ตำรวจเตือนหนัก มีความผิดตามกฎหมาย

ล่าสุดในโลกออนไลน์เริ่มมีการแชร์คลิปโป๊เปลือยของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ “สีกาเก็น” โดยในคลิป เธอกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ และมีพฤติกรรมเล่นกล้องอย่างชัดเจน พร้อมมีข้อความระบุว่าเป็น “คลิปที่พบในมือถือของทิดแย้ม”

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนว่า การเผยแพร่ ส่งต่อ หรือแชร์คลิปดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง โดยมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ดังนี้:

• นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลลามกอนาจาร ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
• เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลลามก โดยรู้ว่าเป็นความผิด

แชร์คลิปโป๊แลกเงิน เสี่ยงโทษหนักเพิ่มอีก

หากมีการเก็บค่าสมาชิกเพื่อเข้าชมคลิป หรือมีผู้ผลิตและเผยแพร่คลิปโดยได้รับผลประโยชน์จากการค้าขาย ถือว่ามีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 (1) ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เตือนประชาชน อย่าแชร์ อย่าส่งต่อ

เจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่า ไม่ว่าจะมีเจตนาเพียงส่งต่อเพื่อ “แจ้งข่าว” หรือ “เล่าเรื่อง” หากคลิปมีลักษณะลามกอนาจาร การเผยแพร่ต่อถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายโดยสมบูรณ์ ขอให้หยุดการแชร์ทันที และลบทิ้งโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ตกเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

การเคารพสิทธิส่วนบุคคลและการใช้งานสื่อออนไลน์อย่างมีสตินั้นสำคัญอย่างยิ่ง อย่าปล่อยให้ความอยากรู้อยากเห็น พาเราเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย