บิลมายอดไม่พุ่ง 5 วิธี "เปิดแอร์ให้ประหยัด" ทริคลดค่าไฟฤดูร้อน แบบไม่ต้องพยายามเยอะ!
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
มาแล้วจ้า! บิลมายอดไม่พุ่ง 5 วิธี "เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ" ลดค่าไฟไม่บานปลายช่วงหน้าร้อน แบบเห็นผลจริงๆ
ในช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้ หลายคนคงหนีไม่พ้นการเปิดแอร์ แต่รู้ไหมว่าเพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็กน้อย ก็ช่วยเซฟค่าไฟได้แบบเห็นผล ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ INN ได้มีการแนะนำ 5 เคล็ดลับเปิดแอร์แบบฉลาดใช้ ฉลาดจ่าย ที่คุณสามารถทำได้ทันที
- เลี่ยงการเปิดแอร์ในพื้นที่เปิดโล่ง การเปิดแอร์ในห้องที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น เช่น ห้องนั่งเล่นที่ไม่มีประตูกั้น หรือคอนโดแบบลอฟต์ อาจทำให้แอร์ทำงานหนัก เพราะความเย็นกระจายไปหมด แนะนำให้กั้นพื้นที่ด้วยฉากหรือประตูบานเลื่อน แอร์จะได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพและเย็นเร็วขึ้น
- เปิดหน้าต่างระบายอากาศก่อนเปิดแอร์ ก่อนเปิดแอร์ ลองเปิดหน้าต่างให้ลมถ่ายเท ไล่อากาศร้อนและกลิ่นอับออกจากห้องสัก 10–15 นาที จะช่วยให้แอร์เย็นเร็วขึ้น และไม่ต้องเร่งทำความเย็นมากนัก อย่าลืมปิดม่านเพื่อลดความร้อนจากแสงแดดด้วยนะ
- เปิดแอร์คู่กับพัดลม การตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ประมาณ 26–27 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมเป่า จะช่วยให้รู้สึกเย็นเทียบเท่าแอร์ที่ตั้งต่ำกว่า 24 องศา แถมยังประหยัดไฟมากกว่า เพราะคอมเพรสเซอร์ของแอร์ไม่ต้องทำงานหนักนั่นเอง
- เปิดเท่าที่จำเป็น อย่าเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน ลองปรับเวลาให้เหมาะสม เช่น เปิดช่วงบ่ายหรือเย็นที่อากาศร้อนจัด แล้วปิดช่วงหัวค่ำก่อนนอน หรือสลับเปิด-ปิดร่วมกับพัดลมก็ช่วยได้ และอย่าลืมปิดแอร์ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนอย่างเตารีด กระติกน้ำร้อน หรือหม้อทอดไร้น้ำมันจะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องใช้เหล่านี้ในห้องที่เปิดแอร์ เพื่อไม่ให้เพิ่มภาระแอร์และค่าไฟ
แล้วควรเปิดแอร์ไว้ที่กี่องศาดี?
ค่าไฟจะไม่พุ่ง ถ้าคุณตั้งแอร์ไว้ที่ 25–28 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ร่างกายยังรู้สึกเย็นสบาย หากเปิดพัดลมร่วมด้วย ยิ่งช่วยให้เย็นเร็วและประหยัดไฟมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ควรล้างแอร์ทุก 6 เดือน และเลือกแอร์ที่มีค่า BTU เหมาะกับขนาดห้อง ก็ช่วยให้การใช้แอร์ทั้งประหยัดและยืดอายุการใช้งานได้
- หลายคนก็เพิ่งรู้! กฟภ.เฉลยแล้ว บิลค่าไฟใส่ "ดอกจัน" แทนยอดเงินชำระ หมายความว่าอะไร?
- รู้ไว้ดีกว่า! ข้าวสุกแล้วต้อง "ถอดปลั๊ก" หม้อหุงข้าวหรือไม่ ปรากฏว่าหลายคนทำผิดมาตลอด