สนธินำ พธม. บุกสภาค้านJBC-ตร.เข้ม

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ เปิดเผยถึงการนำมวลชน มาคัดค้านการลงมติของสมาชิกรัฐสภา เพื่อรับรองบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา หรือ JBC ในวันนี้ เพื่อแสดงเจตนารมย์ ในการร่วมคัดค้าน เนื่องจาก มติดังกล่าวยืนยันได้ชัดเจนว่า จะส่งผลให้ไทย เริ่มเสียดินแดนตั้งแต่ปีหน้า ทั้งนี้ กัมพูชา จะนำเรื่องดังกล่าวไปขยายผลต่อ ส่งผลให้ไทยต้องเสียดินแดนเพิ่มเติมจากเดิม 46 ตารางกิโลเมตร และหากรัฐบาล ผ่านมติเห็นชอบเมื่อไร ก็จะกลับมาชุมนุมอีกครั้ง อย่างแน่นอน ในเดือนธันวาคม

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่วกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ผ่าน เอ็มบี แชนแนล โดยระบุว่า ท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯ วันนี้ เพื่อคัดค้านการประชุมสภา เพื่อพิจารณารับรองบันทึกการประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา หรือ JBC เพราะเท่ากับเป็นการยินยอมเสียดินแดนให้กัมพูชา โดย กลุ่มพันธมิตรฯ จะไม่ยินยอม โดยจะมีการเคลื่อนไหวต่อไปอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ทราบว่า จะเป็นไปในรูปแบบใด โดยจะประกาศให้ทราบภายใน 1 ช.ม. หลังทราบผล ขณะเดียวกัน ก็ไม่เชื่อคำพูดของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กรณีออกมาระบุว่า ไทยจะไม่เสียดินแดน แต่ยืนยัน พันธมิตรฯ กับ นายกษิต ไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่คนเราเมื่อมีอำนาจก็อาจมีเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่ พันธมิตรฯ ไม่ได้หวังอำนาจ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมวันนี้ จะพยามทำตามกฎหมาย เพราะยังอยู่ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยืนยัน จะไม่มีการปิดล้อมรัฐสภา หรือ ปีนรั้วเข้าไป หากพบมีคนทำเช่นนั้น ตำรวจ สามารถจับกุมได้ทันที เพราะถือว่า เป็นพวก มือที่ 3

ด้าน นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะหยิบยกเรื่อง JBC เข้าพิจารณาหรือไม่ เพราะต้องฟังเสียงจากทุกฝ่าย รวมถึง กลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย แต่รัฐบาลเองควรมีการพูดคุยเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกัน

ล่าสุดเหล่าแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงชัย ทยอยผลัดเปลี่ยนกันขึ้นรถกระจายเสียง เพื่อปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล ที่ทำให้ไทยอาจเสียดินแดนให้กับ กัมพูชา ร่วมอุดมการณ์การโบกธงชาติและชูป้าย ระบุข้อความคัดค้าน MOU 43 โดยมีการตีมือตบเพื่อแสดงความชอบใจเป็นระยะ ในขณะที่ พ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวยืนยันว่า ได้เจรจากับแกนนำกลุ่มแล้ว ถึงกรอบข้อกำหนด ซึ่งคาดว่า การชุมนุมในวันนี้จะไม่ยืดเยื้อ ทั้งนี้ในส่วนของการดูแลความปลอดภัย ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 5 กองร้อย จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ,3, 9 และกองอารักขาควบคุมฝูงชน อีกทั้ง หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินก็ได้เตรียมกำลังอีกจำนวน 5 กองร้อย จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ,4 ,5 , 6 และ 8 เข้าควบ
คุมสถานการณ์ได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังมีมวลชนทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทะลักลงมาบนผิวจราจร ส่งผลให้ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาสการจราจรติดขัด จึงฝากให้ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว