ซาอุฯ เคืองไทยตั้ง พล.ต.ท.สมคิด ผช.ผบ.ตร.

ซาอุดีอาระเบีย ติ ไทย หลังแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักธุรกิจชาวซาอุฯ พร้อมขู่ ระวังกระทบสัมพันธ์การทูตให้เลวร้ายลง

สำนักข่าว AP รายงานตามแถลงการณ์ จากสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ในกรุงเทพฯ วานนี้ (3) ระบุว่า การที่ ไทย พิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของ นายโมฮัมเหม็ด อัลรู ไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อาจเป็นอันตรายต่อความพยายามที่จะคืนความสัมพันธ์ ที่เป็นปกติระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย ได้ลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย หลังเกิดเหตุฆาตกรรม สมาชิกทางการทูต 3 คน และการหายตัวไปของ นายโมฮัมเหม็ด อัลรู ไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2532 และ 2534 ที่ไม่คืบหน้า โดยมีการแสดงออก ซึ่งความสงสัยอาชญากรรม ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ ในปี 2532 จากกรณีการโจรกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ จากพระราชวังของเจ้าชายแห่งซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 2,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยหัวขโมยคนไทย ภายหลังจึงถูกจับกุมตัว และจำคุกหลังหนีกลับประเทศไทย ส่วนของกลางถูกส่งคืนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย และมีบางชิ้นที่ถูกปลอมขึ้น นำไปสู่ข้อสงสัยที่ว่า อาจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง และสมาชิกของผู้มีอำนาจ ยักยอกเอาไว้

อย่างไรก็ดี นายนาบิล เอช เอช อัชรี (Nabil H. H. Ashri) อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย ก็กล่าวขอบคุณสำหรับการดำเนินการ ที่บ่งบอกได้ว่า "ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์" นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ซาอุดีอาระเบีย คาดว่ากรณีจะถูกส่งไปยังศาลอาญากรุงเทพฯ ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจาก สำนักงานอัยการสูงสุด มีหลักฐานเพียงพอ

ขณะที่ ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ เทือสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยมีมติว่า พล.ต.ท.สมคิด ไม่มีความผิด ซึ่งในแถลงการณ์ ระบุคำเตือนไว้ว่า ทุกความพยายามที่เกิดขึ้น และความมานะของ ทั้ง 2 ประเทศ ในการแก้ไขปัญหาจะมีผลโดยตรงกับ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาค และอาจเป็นอันตรายอย่างแท้จริง