"ตุ๊ก ชนกวนันท์" เปิดใจหย่า 12 ปี รับเคยคิดขายบ้านเอาเงินส่งลูกเรียน

"ตุ๊ก ชนกวนันท์" เปิดใจหย่า 12 ปี รับเคยคิดขายบ้านเอาเงินส่งลูกเรียน

"ตุ๊ก ชนกวนันท์" เปิดใจหย่า 12 ปี รับเคยคิดขายบ้านเอาเงินส่งลูกเรียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตุ๊ก ชนกวนันท์ เปิดใจหย่า 12 ปี แต่ยังโสด เพราะตายด้าน? รับเคยคิดขายบ้าน เอาเงินส่งลูกเรียน

เปิดชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง ตุ๊ก ชนกวนันท์ ชีวิตหลังหย่า 12 ปี ทำไมตอนนี้ยังโสด พร้อมควงลูกๆ น้องแพรว-น้องภูมิ เผยวิธีเลี้ยงลูกช่วงเข้าสู่วัยรุ่น เรื่องอะไรทำให้แม่ตุ๊กตื้นตันจนน้ำตาไหล จริงหรือไม่ หากไม่ไหวเรื่องเงินอาจต้องขายบ้านเอาเงินส่งลูกเรียน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ลูก 16 กับ 13 โตเร็วมากๆ ลูกๆ ได้รางวัลกันเยอะมาก?

ตุ๊ก : เป็นเด็กทำกิจกรรมช้าเหมือนกัน แพรวทำกิจกรรมตอน 11 เรียนบัลเล่ต์ตอน 11 เรียนกับเด็ก 8-9 ขวบ เกรด 1 ก็ค่อยๆ มา แต่รางวัลเวลาเราแข่งอะไร ค่อนข้างได้รางวัลกันหลายท่านแหละ ไม่ใช่ว่าเราได้คนเดียว มีทั้งรางวัลของน้องแพรวและน้องภูมิ อย่างว่ายน้ำ ไอซ์สเก็ต เราภูมิใจที่เหมือนเขาเห็นทางตัวเอง รู้ว่าชอบอะไรแล้วมาขอ ให้ไม่ได้ก็ตื๊อ บางอย่างก็ให้เลย บางอย่างเขาตื๊อ อย่างบัลเล่ต์เห็นใจสุด เพราะเขาเริ่มตอน 11 ตัวแข็ง ก็ตะกายของเขาไปได้ จนถึงเกรด 6 แล้วรีบไม่ได้ด้วยนะ ร่างกายมันโกงไม่ได้ เราต้องรอจริงๆ จนตอนนี้เพื่อนที่เรียนในห้องอายุเท่ากันแล้ว จากที่เรียนกับเด็กน้อย 

ได้ถ้วยรางวัลครั้งแรกจากอะไร?

ตุ๊ก : ขี่ม้า แต่ปีนึงมีการแข่งขันเยอะ มีทุกเดือน ต้องมีเดือนที่เป็นของเราบ้าง อันที่ไม่ได้ก็เยอะ

น้องแพรว : แข่งประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ตอนนั้นอายุ 13

ตุ๊ก : พอไปเรียนจริงมีรายละเอียดเยอะ มีกระโดด มีขี่ม้าแบบสวยงาม เป๊ะ เป็นระเบียบ สวยงามข้ามเครื่อง 10 เครื่อง ซึ่งมันก็ยากต้องเรียน 

น้องแพรว : ต้องมีเวลาด้วย 

น้องแพรวอายุ 16 เป็นโค้ชแล้ว เป็นโค้ชอะไร?

น้องแพรว : ฟิกเกอร์ ไอซ์สเก็ตค่ะ 

ได้เงินก้อนแรกจากการเป็นโค้ชมาแล้ว?

น้องแพรว : ได้ค่ะ แต่ไม่ค่อยเยอะหรือเปล่า (หัวเราะ)

ตุ๊ก : นักเรียนมีสองคนถ้วน 

รู้สึกยังไงทำงานได้เงินก้อนแรก?

น้องแพรว : นี่เป็นเงินที่เราทำขึ้นมาเอง รู้สึกดีใจค่ะ ได้เงินมาก็ให้ค่าขนมน้องด้วย 

ตุ๊ก : เขาเพิ่งมีโทรศัพท์ ก็ใส่แอปฯ ธนาคาร ให้ลองโอนเลยมั้ยวันจันทร์จะเปิดเทอม แม่โอนให้เลยแล้วกันเงินรายอาทิตย์ น้องภูมิบอกแม่ไม่ต้องโอน พี่แพรวบอกว่าจะโอนให้หนู มีทวงด้วย (หัวเราะ)

ทำไมไม่เก็บเงินก้อนแรกเอาไว้?

น้องแพรว : บ้านเราไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ก็อยากช่วย อยากรับผิดชอบในส่วนหนู และช่วยแม่นิดนึงในส่วนของน้องด้วย 

พอรู้น้องภูมิรู้สึกยังไง?

น้องภูมิ : ดีใจ ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะให้ พอเขาให้ก็ไม่ได้ปฏิเสธ (หัวเราะ) 

ไม่ใช่แค่น้องแพรว น้องภูมิก็ทำให้แม่ปลื้มปริ่มใจ?

ตุ๊ก : ปีนี้เป็นเรื่องราวการเปลี่ยนโรงเรียน พี่สาวไปเรียนก่อน รับส่งสองโรงเรียนอยู่ประมาณ 3 ปี ก็โอ้โห กระอักนิดนึง เขาก็สนใจและชอบ มีโอเพ่นเฮ้าส์ ที่สาธิต ม.ธรรมศาสตร์ จริงๆ เป็นหลักสูตรที่ใหม่มาก แพรวเป็นปีที่ 5 ภูมิเป็นปีที่ 8 เขาไปดูโอเพ่นเฮ้าส์แล้วเขาชอบ เขามีวิธีสอบเข้าที่ไม่เหมือนที่ใด จะวัดความเป็นมนุษย์ในตัวเด็ก วัดแอดติจูด วัดนิสัย การเข้าสังคม เขาก็ทำคะแนนได้ค่อนข้างดี เลยเข้าใจ เพราะลูกจะแข่งเยอะ มีถ้วยมีอะไร นักข่าวจะสัมภาษณ์บ่อย เราก็ภูมิใจและยินดีด้วยนะ แต่เราไม่ได้อินเพราะเราไม่ใช่สายกีฬา เราเป็นเด็กเนิร์ด พอเรื่องนี้เรารู้สึกว่า นี่แหละที่เราสร้างเขามาทั้งชีวิต ที่เราพยายามเลี้ยงเขามาทั้งชีวิต แล้วเขาเป็นเด็กที่โอเค โรงเรียนยอมรับว่าเป็นเด็กที่น่ารัก ก็ดีใจ 

เห็นว่าร้องไห้เลย?

ตุ๊ก  : ร้องไห้ตั้งแต่เช้ายันเย็น ร้องไม่เลิกอยู่คนเดียวแล้วโทรไปหาอากง อาม่า โทรบอกน้องเลขาที่เคยคลุกคลีกับน้อง 

อยากเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่เข้าใจโลก อยู่อย่างมีความสุข ซึ่งสิ่งนี้วัดด้วยถ้วยรางวัลไม่ได้ ถ้วยรางวัลก็เป็นอีกแบบนึง แต่ระยะยาวๆ แล้ว อันนี้สำคัญมาก พี่ตุ๊กก็เป็นห่วงมาก?

ตุ๊ก : เป็นห่วงมาก เพราะสุดท้ายแล้วเขาจะอยู่เองโดยไม่มีเรา เราอาจหลงลูกคิดว่าเขาโอเค แต่พอมีคนช่วยบอกว่าโอเค ก็เหมือนช่วยคอนเฟิร์มว่าเราคิดไม่ผิด 

น้องภูมิล่ะ รู้มั้ยคุณแม่ร้องไห้?

น้องภูมิ : ไม่รู้ แม่ไม่ได้บอก  

รู้มั้ยแม่ร้องไห้เพราะภูมิใจในตัวเรา?

น้องภูมิ : รู้ครับ 

ตุ๊ก : วันที่ทราบ เป็นวันที่เขาเรียนหนังสืออยู่ เป็นคนคิดมาก ก็ปรึกษาพี่โรส วริสรา ลูกโตเท่ากันทั้งคนโต คนเล็ก สอบเข้าด้วยกัน ก็ถามว่าจะบอกลูกได้แค่ไหนกลัวนางเหลิง แต่นางก็ควรได้รู้ว่าสิ่งที่นางทำอยู่มันดีมันน่ารัก เขาก็ช่วยไกด์ว่าถ้าเราบอกเขาอย่างจริงใจ หรือชมอย่างจริงใจมันก็โอเค เราภูมิใจเขาจริงๆ เขาก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกแล้ว 

เวลาคนบอกเรื่องนี้กับเรา ว่าเราสอบได้คะแนนดีมากๆ ภูมิบอกคุณแม่ยังไง?

น้องภูมิ : แม่บอกว่าสอบได้คะแนนดี ก็ดีใจ (หัวเราะ)  

แม่ได้บอกมั้ยว่าตอนไปสอบต้องเตรียมตัวอะไรมั้ย?

น้องภูมิ : แม่ไม่ได้บอกให้เตรียมตัว

ตุ๊ก : คนถามเยอะเหมือนกัน ก็จะบอก่วาไม่ต้องถาม ที่นี่เปลี่ยนวิธีสอบทุกปี อย่างปีภูมิเป็นปีแรกที่เด็กต้องเขียน Portfolio ด้วยมือเขียน ไม่ใช่พิมพ์ ก็จะช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย มี 5 คำถามก็เขียนไปในความเข้าใจในคำตอบ แล้ววันที่ไปโรงเรียนวัดเป็นกระบวนการเดี่ยว กระบวนการกลุ่มเขาก็จะมีอะไรให้เด็กทำ เขาก็จะดู ประมาณนี้ ดูวิธีเข้าสังคม

น้องภูมิภูมิใจในตัวเองมั้ย?

น้องภูมิ : นิดนึง

ถือว่าได้รางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับคุณแม่แล้ว กีฬาเขาก็ได้เหมือนกัน ฮอกกี้?

ตุ๊ก : คิดถึงตัวเอง วิ่งก็หกล้มแล้ว เป็นคนตัวสูง ผู้ปกครองจะมีการแข่งแชร์บอลที่โรงเรียน เขาบอกว่าความสูงเสียชาติเกิดมาก (หัวเราะ) เหมือนความสูงไม่ได้ช่วยอะไร ไม่มีทักษะกีฬาเลย อันนี้น่าจะได้จากคุณพ่อ 

 ทำไมชอบเล่นฮอกกี้?

น้องภูมิ : มันสนุก ก็ยากเท่าๆ กันทุกอย่าง แต่ชอบอันนี้มากที่สุด เคยได้รางวัล มีแข่งหลายเทอนาเมนต์ แล้วแต่เทอนาเมนต์ว่าได้ที่เท่าไหร่ ก็จะมีเป็นถ้วยเป็นเหรียญ ได้หลายอย่าง  

ตุ๊ก : ได้เหรียญกีฬาเยาวชนแห่งชาติปีล่าสุด ราชบุรีเกมส์

เด็กๆ มีความฝันเหมือนกัน ภูมิอยากเป็นอะไร?

น้องภูมิ : อยากเป็นนักกีฬาฮอกกี้เหมือนกัน

น้องแพรวล่ะ?

น้องแพรว : อยากเป็นนักกีฬาฮอกกี้เหมือนกัน 

ตุ๊ก : ปีที่แล้วมีเยาวชนทีมชาติ ปีนี้ก็เริ่มคัดทีมชาติกันแล้วด้วยอายุ เริ่มเข้าสู่การคัดปีนี้ 

พี่ตุ๊กดันเต็มที่?

ตุ๊ก : เราก็ซัปพอร์ตเนอะ เมื่อก่อนก็ประมาณคนขับรถ (หัวเราะ) คนจ่ายตังค์ แต่จ่ริงๆ แล้วหลายอย่าง การซัปพอร์ตจิตใจ มันก็ยากนะ ต้องสร้างพลังในการสู้ด้วย จริงๆ แล้วก็เป็นหน้าที่โค้ชไม่ใช่หน้าที่ผู้ปกครองหรอก ผู้ปกครองมีหน้าที่ซัปพอร์ต จะดูว่าเขายังคงเฮลท์ตี้อยู่หรือเปล่า  

น้องภูมิ : อยากไปเล่นฮอกกี้ที่ต่างประเทศ อยากไปแคนาดา 

ตุ๊ก : ก็ต้องดูไปก่อน ยังไงเขาคงไม่ได้ไปตอนนี้ การไปก็คงไม่ได้เป็นค่าใช้จ่ายที่น้อย ต้องดูว่าถ้าไม่ไหวก็อาจไม่ได้ไปนะ ไปหรือไม่ไปก็ไม่ได้แปลว่าทั้งหมด มีหลายทางให้ทำ ก็ดูปีต่อปี ไม่ถึงกับฟันธง คิดว่าถ้ารู้สึกว่าสบายใจให้เขาไปคงสัก 16 เป็นต้นไป โตกว่านี้ ถ้าเรื่องรับผิดชอบตัวเองก็ไม่ห่วงนะ สไตล์เขา แต่เหมือนพัฒนาการความอบอุ่น คิดว่าอยู่ด้วยกันอีกแป๊บก็น่าจะดี เพราะส่วนใหญ่เพื่อนเขาที่เริ่มไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่เขาก็ต้องไปอยู่ที่โน่นด้วย มันแพง 

ตอนนี้สิ่งที่ติดหรือกังวลคืออะไร?

ตุ๊ก : เคยเหมือนดูหมอเล่นๆ กับเพื่อน เขามีเซ้นส์ เปิดไพ่เขาบอกว่าวันๆ คิดแต่เรื่องเงินเหรอ (หัวเราะ) จริงๆ วัยเราไม่มีเรื่องความรักอะไรแล้ว เพื่อนก็ไม่ได้เครียดอะไรขนาดนั้น ทุกคนก็ปล่อยวาง ถ้าเรามีกำลัง หรือสตางค์ซัปพอร์ตตามความฝันของเขาแบบเหลือๆ ถ้ากองอยู่ก็ไม่มีอะไรเลย ตื่นเช้ามาอาบน้ำกินข้าวส่งลูก แต่เข้าใจว่าชีวิตมนุษย์ก็คงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เราก็ต้องดูเอา แต่เราไม่ถึงขั้นไม่มีกิน มันก็ดีแล้ว เราก็วางแผนว่าเรามีเท่านี้ เราวางแผนอะไรที่สำคัญ และใช้อะไรได้บ้าง บางอย่างไม่ได้ดั่งใจเขาหมดทุกอย่าง 

ทางออกสุดท้ายคืออะไร?

ตุ๊ก : ก็ในหลายๆ ทางที่เขาทำ อย่างขี่ม้าก็หยุดไปแล้ว เหตุผลหลักที่หยุดก็คือเรื่องค่าใช้จ่าย มันแพงจริงๆ แต่ละเดือน ฉะนั้นก็ให้ขี่สัก 2 ปีนะ หนูขี่เป็นแล้วถ้ามีโอกาสก็มาขี่ใหม่ หรือหนูโตไปทำงานได้ก็มาขี่เอง กับบางอย่างต้องหยุด อย่างฟิกเกอร์ แม่จะหืดขึ้นคอให้ถึงเลเวล 7 ให้ จริงๆ ต้องหยุดตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ หมุนให้มันทันและให้เขาอยู่ได้ถึงเลเวล 7 จะคุยกับโค้ชเขาก่อนเลย เขาก็จะทราบดีว่าคุยกันได้ บางอย่างไม่ไหวเราก็อาจหยุด 

ถ้าจะไปขนาดนั้นอาจต้องขายบ้าน?

ตุ๊ก : ก็เป็นอีกอย่างนึงที่คิดว่าถ้าไม่หยุดเราก็ต้องหาเงินมาเพิ่ม ทีนี้บ้านเราพอมีมูลค่า แล้วเราอยู่เล็กลง เพราะเราอยู่สามคนเอง ทำความสะอาดมันก็เหนื่อย เราต้องมีผู้ช่วยมีคุณแม่บ้าน อยู่บ้านไซส์เล็กลงได้อยู่แล้ว แต่ว่าเป็นวัตถุไง ถ้าจะเปลี่ยนต้องมีขั้นตอน ไม่เหมือนทองที่เดินไปขายได้เลย ถ้าอันนั้นเปลี่ยนไซส์แล้วเหลือสตางค์เอาไปใช้จ่ายได้ ก็เป็นความคิดแรกๆ เหมือนกัน

ลูกๆ รู้มั้ยเรื่องนี้?

น้องแพรว : แม่เคยถามว่าถ้าย้ายบ้านจะโอเคมั้ย หนูก็โอเค

ตุ๊ก :   มันก็มีมูลค่าให้เราเปลี่ยนเป็นสตางค์มาใช้จ่าย อยู่หลังเล็กลงได้ 

น้องภูมิ : เราก็ต้องช่วยแม่เรื่องเงิน และเรื่องเรียน 

แสดงว่าพวกหนูก็ต้องตั้งใจเต็มที่ ไม่งั้นแม่ไม่ขายบ้าน เป็นสิ่งสุดท้ายเลยนะเรื่องขายบ้าน?

ตุ๊ก : เรื่องอื่นมันเทิร์นง่ายกว่า อันนี้ผ่านการคุยกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ถามเขาเบาๆ ว่าอยากอยู่ที่นี่หรืออะไร คำแรกจะตอบว่าอยากอยู่ที่นี่ก่อน แต่ก็ต้องคุยเหตุผลให้เขาเข้าใจ เพราะเด็กเขาจะตอบด้วยองค์ความคิดเขาแค่ตอนนั้น 

ตอนนี้ไม่ว่าตรงไหนขอแค่ให้นอนติดกับแม่ เพราะตอนนี้นอนกองอยู่กับแม่ ไม่แยกนอนเลย?

น้องแพรว : หนูอยากแยกบางวัน แต่ทุกวันก็อยากนอนกับแม่  

น้องภูมิ : นอนมาตลอด ก็ขี้เกียจเปลี่ยน 

ไม่มีใครอยากแยกตัว?

ตุ๊ก : ไม่มีการพูดเกิดขึ้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรในหัว แต่ตัวเราก็ไม่สะกิด เราไม่อยากได้ยินคำนั้น เราอยู่ด้วยกันก็โอเคแล้ว เหงา 

วันที่แยกห้องนอนเพราะอะไร?

น้องแพรว : บางทีทำการบ้านดึกๆ ถ้านาฬิกาปลุกหลายรอบแล้วหนูไม่ยอมตื่น ก็จะเสียงดัง (หัวเราะ)

ตุ๊ก : แล้วปลุกทุกวัน 3 ปีแล้วนะ นางยังตั้งปลุกทุกวันจนถึงวันนี้ แล้วไม่ได้ยิน ตั้งตีสี่ ตีสี่ไม่ตื่น 05.30 05.55  06.15 อะไรแบบนี้ แล้วนี่ได้ยินตลอด แม่ก็ปลุกเป็นด่าแทน ทำไมไม่ตื่น ฉันตื่น (หัวเราะ) ฉันตื่นทุกวันเลย เขาตื่นด้วยเรา ก็งงว่าตั้งทำไม 

ได้ยินเสียงแม่บ่นแล้วลุกเลย?

น้องแพรว : แม่บอกว่าถ้าไม่ลุกวันหลังก็ไม่ต้องตั้งแล้ว แต่ช่วงหลังได้ยินแล้ว 

ตุ๊ก : เมื่อไหร่ เมื่อเช้าฉันก็ปลุก เมื่อเช้าตื่นมาทำไมตีห้า 

น้องแพรว : ตื่นมาหนีบผม (หัวเราะ) 

น้องภูมิตื่นมั้ย?

ตุ๊ก : คนนี้เขาเร็ว ไม่ได้แต่งตัวอะไรเยอะ สิบนาทีก็ออกจากบ้านได้ ไม่งอแง แต่เขาไม่ได้ยินนาฬิกา ก็งงว่าตั้งทำไม ในเมื่อไม่มีศักยภาพที่จะได้ยิน (หัวเราะ) 

เลี้ยงลูกให้เป็นตัวเอง?

ตุ๊ก : เรามีกรอบใหญ่ๆ แค่ผิดชอบชั่วดี และไม่ยุ่ง ไม่ยุ่งคือเป็นเรื่องเขาด้วยหนึ่ง และสนุกกับการเฝ้าดูว่าเอ็งจะไปทางไหน จะใช้วิธีไหนแต่ละอย่าง ทั้งเรื่องเรียนด้วย และทั้งหมด เป็นแม่ที่ดุ แต่เรื่องสไตล์ เรื่องการเลือก การใช้ชีวิตไม่แตะถ้ายังไม่เกิน ไม่เดือดร้อนคนอื่น ไม่เดือดร้อนสิ่งแวดล้อม ไม่ยุ่ง อยากดูด้วยว่าเขาจะใช้วิธีอะไร ไปแนวไหน เพราะมันได้ล้านวิธีเลย อย่างช่วงนึงเขาอยากต่อขนตา แต่ต่อแล้วก็ไม่ชอบเหมือนกัน อยากลองก็ลอง 

แม่ดุมั้ย?

น้องภูมิ : เคยดุ บางทีก็ใจดี บางทีเก็บของไม่เรียบร้อย 

น้องแพรว : จะพูดเหมือนกันเลย (หัวเราะ)

 ตุ๊ก : มีเรื่องเดียว แล้วตีกันได้ทุกวัน 

 น้องแพรว : บางทีหนูพูดรัวๆ ฟังไม่รู้เรื่อง แม่พูดเร็วแต่แม่พูดชัด แต่หนูไม่รู้เรื่อง 

 ตุ๊ก : (หัวเราะ) ก็เลยบ่นว่าพูดให้รู้เรื่องหน่อย ทะเลาะกันเยอะนะ แต่เรื่องมีแค่นี้ จนบางทีคิดว่าตัวเองเป็นบ้า ก็ไปปรึกษาเพื่อนที่โรงเรียนทุกวัน เพื่อนก็บอกว่าแกไปหาหมอมั้ย (หัวเราะ) จะเอาอะไรอีก เขาก็พูดให้สติเราแหละ เพื่อนมองบน มองล่าง ส่ายหัว 

เลี้ยงลูกสบายๆ ชิลๆ ให้ลูกตัดสินใจเอง รอดูผลว่าเขาจะแก้ยังไง?

ตุ๊ก : บางเด็กชอบอะไรก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยลอง ถูกป้อนข้อมูล แต่เข้าใจว่าที่คิดให้ ส่วนใหญ่มาจากความห่วงและความกลัวแหละ เขาอาบน้ำร้อนมาก่อนไม่อยากให้พลาดเหมือนเขา แต่บางทีการพลาดหรือการหกล้ม การเสียหลัก ก็เป็นบทเรียนที่ดี เด็กที่ทำจานแตกก็จะได้รู้ว่าถือยังไงไม่ให้แตกในรอบต่อไป เขาก็จะได้ไอเดีย

หย่ามา 12 ปี ทำไมยังครองโสด?

ตุ๊ก : ไม่ได้บูลลี่เนอะ (หัวเราะ) จริงๆ ถ้าพูดจริงๆ ไม่แอ๊บ มีเคยคุย เคยอะไร แต่ไม่ได้ไปต่อหรือไปไกล แต่ถ้าเอาเป๊ะๆ ตั้งแต่ 39 มาคล้ายๆ เหมือนตายด้าน เพื่อนบอกว่าไม่น่าตายด้านหรอก แต่ไม่เจอใครที่ทำให้หัวใจเราเต้น 

น้องแพรว : หนูทำให้หัวใจแม่เต้น

ตุ๊ก : เธอทำให้ฉันใจสั่น มือสั่น (หัวเราะ)

ไม่อยากให้แม่มีแฟน?

น้องแพรว :   ไม่อยากนิดนึง

น้องภูมิ : มีได้ แล้วแต่แม่  

น้องแพรว : ตอนนั้นยังบอกไม่อยากอยู่เลย  

ตุ๊ก : อาจทำให้เขานึกภาพไม่ออกว่าเป็นยังไง แต่ก็นั่นแหละอย่างที่บอกมา เจอผู้ใหญ่ท่านนึง ท่านกรุณามาก เจอสองคนนี้แบงก์พันตลอด แล้วจะรัก บอกว่าแข็งแรงๆ นะ แต่อันนึงเขาพูดตามประสาผู้ใหญ่แหละ บอกว่าจำไว้นะ ลูกจะมีความสุขกว่าถ้าเธอไม่มีใคร ก็โรคจิต เหมือนสะกดจิตไปเลย ก็ยิ่งทำให้เรายิ่งปิด 

ได้เจออดีตสามีมั้ย?

ตุ๊ก : เรื่อยๆ ตามเวลาที่เขาว่าง ส่วนใหญ่ถ้าเจอก็มาหาลูกแหละ ส่วนตัวเขาไม่ได้มาจีบอะไรนะคะ ก็ไม่ได้เจอกัน (หัวเราะ) ถ้าเจอเขาก็อาจมาหาลูกแหละตามเวลาที่เขาว่าง แต่หลังๆ งานอาจเป็นต่างจังหวัดก็เหมือนห่างหน่อย ก็แล้วแต่ช่วง

ความสัมพันธ์กับอดีตสามี?

ตุ๊ก : ก็เป็นปกติเหมือนช่วงหย่าใหม่ๆ เป็นคุณพ่อคุณแม่ของลูก 

แบ่งกันมั้ยถ้าพ่อมาให้ลูกไปเที่ยวด้วย?

ตุ๊ก : ตอนเล็กๆ มีให้ลูกไปนอนอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ตามสัญญาหย่า ก็มีบ้าง แต่ถ้าเจอกันก็ได้ทุกวัน 24 ชม. แต่ช่วงหลังเด็กโตขึ้นเรื่อยๆ มีความชัดเจนของชีวิตขึ้นเรื่อยๆ เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ รู้มากขึ้นเรื่อยๆ มีความฝันมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่เขาตามความฝันเขา เราก็ตามความฝันเขา เป็นคนขับรถให้เขา ต้องขับรถไปส่ง จ่ายสตางค์ดูแล ไปตามชีวิตที่เขาเลือกแล้ว แล้เขาจริงจังไง เขาไม่ใช่นักกีฬาสันทนาการ เขาเป็นนักกีฬาอาชีพ 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ ของ "ตุ๊ก ชนกวนันท์" เปิดใจหย่า 12 ปี รับเคยคิดขายบ้านเอาเงินส่งลูกเรียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook