นักกฎหมายชี้หาก พ.ต.ท.ทักษิณ “แปลงสัญชาติ” ย่อมเสียสัญชาติไทย

นักกฎหมายชี้หาก พ.ต.ท.ทักษิณ “แปลงสัญชาติ” ย่อมเสียสัญชาติไทย

นักกฎหมายชี้หาก พ.ต.ท.ทักษิณ “แปลงสัญชาติ” ย่อมเสียสัญชาติไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักวิชาการด้านกฎหมาย "สัญชาติ" ชี้หากใคร "แปลงสัญชาติ" ไปเป็นต่างด้าว ย่อมเสียสัญชาติไทยตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.สัญชาติฯ แต่กรณีของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า เป็นการ "แปลงสัญชาติ" หรือไม่

รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ "สำนักข่าวไทย" ถึงกรณีที่มีข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจเสียสัญชาติไทย เพราะไปเป็นพลเมืองของประเทศมอนเตเนโกร ว่า การที่บุคคลใดจะเสียสัญชาติไทย ต้องมีข้อเท็จจริงว่า ได้มีการแปลงสัญชาติไทยไปถือสัญชาติอื่นแล้ว

ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.สัญชาติ ที่ระบุว่า "ผู้มีสัญชาติไทยและได้แปลงสัญชาติเป็นคนต่างด้าว หรือสละสัญชาติไทย หรืออาจถูกถอนสัญชาติไทย ย่อมเสียสัญชาติไทย" และการเสียสัญชาติดังกล่าว จะมีผลต่อเมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 5 ของกฎหมายดังกล่าว และให้มีผลเฉพาะตัว

รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กล่าวว่า สำหรับปัจจุบันยังไม่สามารถตอบได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เสียสัญชาติไทยหรือไม่ เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพลเมืองของประเทศมอนเตเนโกรในลักษณะอย่างไร และต้องดูว่ากฎหมายประเทศมอนเตเนโกรในเรื่องการให้สัญชาติเป็นอย่างไร เพราะการมีหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตของประเทศใด ไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีสัญชาติของประเทศนั้น

"แต่หากมีข้อเท็จจริงที่ฟังได้ว่า สัญชาติประเทศมอนเตเรโกรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มา เป็นการ "แปลงสัญชาติ" ตามกฎหมายประเทศมอนเตเนโกร ก็ถือเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จะประกาศการเสียสัญชาติในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 22 และมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2508 ของไทย และจะส่งผลให้บุคคลที่แปลงสัญชาติกลายเป็นคนต่างด้าวสำหรับประเทศไทย" รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook