แพทย์เผยผู้หญิง 1 ใน 4 มีเนื้องอกในมดลูก ทำ 5 สิ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ซึ่งเราทำครบเลย

แพทย์เผยผู้หญิง 1 ใน 4 มีเนื้องอกในมดลูก ทำ 5 สิ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ซึ่งเราทำครบเลย

แพทย์เผยผู้หญิง 1 ใน 4 มีเนื้องอกในมดลูก ทำ 5 สิ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ซึ่งเราทำครบเลย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เนื้องอกในมดลูกเป็นโรคทางนรีเวชที่พบบ่อยมาก จาง หยูชิน สูตินรีแพทย์และนรีแพทย์ของไต้หวัน เผยข้อมูลสถิติที่น่าสนใจว่า 25% ของผู้หญิงทั้งหมด จะพบเนื้องอกในมดลูก และหากเป็นหญิงอายุมากกว่า 40 ปี เปอร์เซ็นต์ของคนที่พบเนื้องอกในมดลูก จะเพิ่มเป็น 50% เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เนื้องอกที่เติบโตในมดลูก กว่า 99.5% จะเป็นเนื้องอกที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการผิดปกติอะไร

ตามสถิติแล้ว ผู้หญิงที่มีภาวะโรคอ้วน, ผู้หญิงที่ดื่มคาเฟอีนมากกว่า 500 มก. ต่อวัน และผู้หญิงที่ชอบกินเนื้อทอด-ย่าง เนื้อสัตว์แปรรูป( เช่น ไส้กรอกต่างๆ) มีโอกาสเกิดเนื้องอกในมดลูกสูงกว่าคนทั่วไป

จาง อวี่ฉิน แพทย์ประจำแผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาของโรงพยาบาล Cathay Hospital ในซินจู๋ เผยว่า เนื้องอกในมดลูกส่วนใหญ่ไม่เป็นพิษเป็นภัยและไม่ค่อยก่อให้เกิดอาการ มีเพียงประมาณ 30% ของคนที่มีอาการเจ็บป่วยจากเนื้องอกในมดลูก เป็นผลมาจากเนื้องอกมีขนาดใหญ่โต หรือเนื้องอกโตในตำแหน่งที่ทำให้เกิดโรค 

อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ประจำเดือนมามากผิดปกติ ปวดประจำเดือน เวียนศีรษะ โลหิตจาง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ปวดหลังส่วนล่าง และเจ็บปวดจากการมีเพศสัมพันธ์

โดยพื้นฐานแล้ว เนื้องอกขนาดต่ำกว่า 5 ซม. จะไม่มีอาการใดๆ เลย ดังนั้นหลายๆ คนจึงตรวจพบเนื้องอกโดยบังเอิญ จากการตรวจสุขภาพประจำปี ถ้าไม่ได้ตรวจก็คงไม่รู้ว่าเรามีเนื้องอกอยู่

เนื้องอกในมดลูกเกิดจากอะไร

สาเหตุของการเกิดก้อนเนื้อ ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่คาดว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้แนะนำให้ปฏิบัติตาม 5 มาตรการ ในการป้องกันเนื้องอกในมดลูก

1. กินเนื้อสัตว์ย่าง-ทอดให้น้อยลง

2. นอนดึกให้น้อยลง และดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง เพื่อปกป้องการทำงานของตับ

3. ดื่มกาแฟให้น้อยลง

4. ออกกำลังกายให้มากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงโรคอ้วน

5. กินผักให้มากขึ้น และลดเนื้อสัตว์แปรรูปและเนื้อแดง

สำหรับคนที่ตรวจพบเนื้องอกในมดลูกแล้ว หากไม่มีอาการป่วยใดๆ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากมีอาการที่ส่งผลต่อชีวิตของคุณ ก็สามารถรักษาด้วยการกินยา และติดตามผลเป็นประจำ หากมีความจำเป็นในการตั้งครรภ์ หรือมีอาการที่กินยาแล้วไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ก็อาจจะต้องพิจารณาเข้ารับการผ่าตัด

คนที่เจอแล้วแต่ไม่มีอาการ ก็ไม่ต้องวิตกกังวลเกินไป ขอแค่ไปพบแพทย์ติดตามอาการสม่ำเสมอ กินอาหารเพื่อสุขภาพ ถ้าเนื้องอกไม่ใหญ่ขึ้น ก็ไม่มีอะไรให้กังวลเกินไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook