ฟันเพิ่ม! พรบ.อุ้มหาย "อดีตผู้การชลฯ" พร้อมพวก 21 ราย คดีเป้รักผู้การเท่าไหร่

ฟันเพิ่ม! พรบ.อุ้มหาย "อดีตผู้การชลฯ" พร้อมพวก 21 ราย คดีเป้รักผู้การเท่าไหร่

ฟันเพิ่ม! พรบ.อุ้มหาย "อดีตผู้การชลฯ" พร้อมพวก 21 ราย คดีเป้รักผู้การเท่าไหร่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัยการ-ตร. มีมติเเจ้งข้อหาอดีตผู้การชลบุรีกับพวกผิด พรบ.อุ้มหายฯเพิ่มอีกข้อหา คดีเป้ 140 ล้าน ออกหมายเรียกรับทราบข้อหา 12-13 ก.พ.นี้ ที่ภาค 1

วันนี้ ( 25 ม.ค. 67) ที่ห้องประชุมตึกกองบังคับการกฎหมายเเละคดี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 คณะพนักงานสอบสวนในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท นำโดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน

จากกรณีมีผู้เสียหาย 6 ราย แจ้งความที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมพวกรวม 10 คน เรียกรับเงินกว่า 140 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่มาของวลีเด็ดว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่…เป้เขียนมา” ซึ่ง พล.ต.ต.กัมพล ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยการประชุมใช้เวลาตั้งเเต่ 09.00 น.-15.00 น เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง ภายหลังการประชุม นายวัชรินทร์ พร้อมด้วยพล.ต.ท.อัคราเดช ได้ให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชน

พล.ต.ท.อัคราเดช วันนี้เราใช้เวลาประชุมตั้งแต่เช้าเพื่อความละเอียดรอบคอบและรัดกุมมากที่สุดซึ่งการสอบพยานทั้งหมดซึ่งสอบไปแล้ว 130 กว่าปาก การพิจารณาในการที่จะดำเนินคดีคนใดบ้างซึ่งตรงนี้ก็ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะมีผู้เเจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 22 รายโดย พล.ต.ต.กัมพล อดีตผบก.ภ.จว.ชลบุรีก็โดนเเจ้งข้อหาพรบ. ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯด้วย

ทางด้าน นายวัชรินทร์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน กล่าวว่าวันนี้จากการประชุมชุดของอัยการที่เป็นชุดที่พิจารณาร่วมกันได้ใช้ความละเอียดมากตั้งเเต่ 09.00 น. จนได้บทสรุปความผิดในคดี พรบ. ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พรบ.อุ้มหายฯโดยมีการเเจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจทั้งสิ้น 17 นายและมีพลเรือนที่ไม่ได้เป็นตำรวจอีก4นาย เเละครั้งนี้มีมติให้เเจ้งข้อหารายใหม่เพิ่มอีก1ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง1 รายใหม่นี้เป็นคดีอันเป็นเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เเต่ไม่มี พรบ.อุ้มหายฯ ทั้งสิ้น 22 ราย

ในส่วนพล.ต.ต.กัมพล อดีตผบก.ภ.จว.ชลบุรี กับพวกรวม21 เดิมพนักงานสอบสวนชุดเดิมได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไว้ ก็คือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา149ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ เเละความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และข้อหาอื่นๆที่มีรายละเอียดปลีกย่อย แต่วันนี้มีการพิจารณาว่าเข้าตาม พรบ. ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯซึ่งข้อหาในส่วนนี้ชุดพนักงานสอบสวนมีการพิจารณาเมื่อพนักงานอัยการเข้ามากำกับและตรวจสอบการสอบสวนซึ่งเป็นไปตามมาตรา 31 ในส่วนที่มีพลเรือนโดนข้อหานี้ด้วยเพราะในพรบ.ฉบับนี้ข้อสำคัญคือไม่ว่าจะเป็นพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ สามารถถูกดำเนินคดีเพราะมีการกระทำที่ร่วมกันกระทำความผิดได้บทนิยามถือไว้เลยว่า แม้ไม่ใช่เจ้าพนักงานแต่เจ้าพนักงานให้ทำหน้าที่หรือให้ช่วยเหลือก็ถือว่าได้มีการกระทำความผิด ตรงนี้ไม่ได้เป็นการสนับสนุนแต่เป็นการร่วมกันกระทำผิด

ส่วนจะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นส่งอัยการปราบปรามทุจริตฯได้เมื่อไหร่นั้นขั้นตอนจะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมก่อน เราต้องทำหนังสือออกหมายเรียกไปให้ผู้ต้องหาดังกล่าวทั้ง 22 ราย มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 12 -13 ก.พ. 2567 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการกฎหมายเเละคดีตำรวจภูธรภาค 1

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook