ผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค น้ำตาคลอซึ้งน้ำใจคนไทย คาดเสียหายกว่า 70 ล้าน

ผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค น้ำตาคลอซึ้งน้ำใจคนไทย คาดเสียหายกว่า 70 ล้าน

ผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค น้ำตาคลอซึ้งน้ำใจคนไทย คาดเสียหายกว่า 70 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค น้ำตาคลอซึ้งน้ำใจคนไทย คาดเสียหายมากกว่า 70 ล้าน ยังไม่ชี้สาเหตุต้นเพลิง เตรียมเปิดบริการ 12 ก.ย.นี้

จากที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างรุนแรง ภายในสถานที่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชื่อดังระดับแนวหน้าของประเทศไทย “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ถนนสุขุมวิท ขาเข้า อ.สัตหีบ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี คาดเสียหายเกือบร้อยล้านบาท

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ( 9 ก.ย.66 ) ที่ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นางสาว สุมาพร ผู้จัดการทั่วไปตลาดน้ำ 4 ภาค พร้อมด้วยทีมฝ่ายกฏหมาย ออกมาแถลงข่าวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นายพิสิษฐ์ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง เข้าร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ด้วย

นางสาว สุมาพร กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และ กระทันหัน โดยไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น โดยเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน หลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว โดยปกติตลาดจะเปิดทำการตั้งแต่ เวลา 09.00 น. – 19.00 น. จากนั้นกลุ่มพ่อค้าแม้ค้าก็จะทยอยเดินออกจากพื้นที่ ไม่เกินเวลา 19.30 น. ส่วนเหตุเพลิงไหม้ เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. ของคืนวันที่ 7 ก.ย.

โดยพนักงานรักษาความปลอดภัย ระหว่างเดินตรวจสอบความเรียบร้อย ๆหลังตลาดปิดทำการ ก็ปรากฎว่า ไม่พบกลุ่มควัน และ แสงเพลิงเกิดขึ้นบริเวณโซนภาคเหนือ จึงรับนำถังดับ เพลิงมาดับไฟ พร้อมทั้งวิทยุเรียกกำลังเสริม 4-5 คน เข้ามาช่วยกันดับไฟ โดยมีการนำถังดับเพลิง 6 ถังระดมฉีดสกัดกั้นเพลิง ซึ่งจุดเกิดเหตุ เป็นพื้นที่แคบๆ แต่ในช่วงเวลานั้น มีไฟตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อย และ มีกระแสลมแรงมาก ประกอบกับ พื้นที่ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา สร้างขึ้นจากไม้ ถือเป็นเชื้อเพลิงอย่าง จึงทำให้พนักงานไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด จึงรีบรายงานผู้บริหาร โทรศัพท์ไปแจ้งดับเพลิงและตำรวจดังกล่าว

นางสาว สุมาพร กล่าวในน้ำเสียงสั่นเครือ และ น้ำตาคลอ ภายในใต้ความสูญเสีย ได้เห็นมิตรแท้มากมาย โดยตลาดน้ำได้รับความช่วยเหลือ จากทีมดับเพลิงในพื้นที่เมืองพัทยา และ พื้นที่ใกล้เคียง มูลนิธิและสมาคม เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที และ ผู้บริหารของจังหวัดชลบุรี ก็ยังเดินทางมารวมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ภายหลังเกิดเหตุเพียง 30 นาทีเท่านั้น โดยยอมรับทีมดับเพลิง จ.ชลบุรี มีการทำงานเป็นอาชีพ ใช้เวลาควบคุม 3 ชั่วโมงก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยพบว่า มีพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 30 เปอร์เซ็นต์ จากพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโซนภาคเหนือ จึงขอขอบพระคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้

ส่วนความเสียหายในเบื้องต้น พบว่ากลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ประมาณ 60 ร้านค้า โดยสินค้าที่ขายและสต๊อกไว้ ก็ไฟเผาเสียหายทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้ ทางผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค จะลงมาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ โดยให้จะให้ผู้ประกอบการไปลงทะเบียน และ บันทึกรายการทรัพย์สินที่รับความเสียหายในครั้งนี้ โดยทางตลาดน้ำมีการทำประกันภัยโครงสร้าง ถึงจะไม่มากมาย แต่ก็จะดูแลอย่างเต็มที่แน่นอน

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ เนื่องจากต้องรอผลพิสูจน์ จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองตำรวจวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน และวิศวกรโยธา ที่ได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและประมวลสาเหตุแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ และอยู่ในระหว่างการสอบสวนสาเหตุ ทางบริษัท ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) จำกัด จึงยังไม่สามารถแจ้งระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ในเวลานี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายจากการถูกไฟไหม้ในครั้งนี้ โดยยังไม่รวมของกลุ่มผู้ประกอบการ อยู่ที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ส่วนไม้ที่นำมา สร้างเป็นโครงสร้าง เป็นไม้เก่าแก่ อายุเกือบ 100 บาท เป็นไม้นานาพันธุ์ จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จากการประเมินความเสียหายของพื้นที่ พบว่าพื้นที่เสียหายไปประมาณ 30% ของพื้นที่ทั้งหมดของตลาดน้ำฯ ซึ่งเป็นส่วนของโซนภาคเหนือ โดยทีมบริหารฯ ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) มีมติให้ปิดพื้นที่ดังกล่าวอย่างถาวรเพื่อรอการรื้อถอน และห้ามบุคคลภายนอกรวมถึงนักท่องเที่ยวเข้าในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้น

เนื่องจาก ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ยังมีพื้นที่ส่วนที่เราวางแผนพร้อมจะเปิดให้บริการในเดือน ตุลาคม นี้อยู่ก่อนแล้ว คือพื้นที่ส่วนเฟส 2 ติดถนนเลียบทางรถไฟ ทางผู้บริหารจึงมีมติให้เปิดใช้บริการก่อนกำหนด โดยเปิดพื้นที่นี้เพื่อให้ผู้ประกอบรายย่อยได้ประกอบกิจการได้ก่อน โดยพื้นที่เปิดให้ใช้บริการคือ ตั้งแต่ประตูทางเข้าติดถนนสุขุมวิทด้านร้านกาแฟอเมซอน ยาวไปจนติดถนนเลียบทางรถไฟ โดยได้กำหนดเส้นทางเดินชมและเส้นทางนั่งเรือชมตลาดให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการได้อย่างปกติ ภายในวันที่ 11 กันยายน 2566 และเปิดให้บริการปกติ ในวันที่ 12 กันยายน 2566 นี้ พร้อมทั้งจะแรงฟื้นฟูตลาดน้ำ 4 ภาค กลับมาเป็นแลนด์มาร์ค ของการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้โดยเร็ว และ จะมีการถอนผลเรียน เหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ โดยจะมีการวางแผน ศึกษา ติดตั้งระบบความปลอดภัยทุกรูปแบบ เพื่อไม่เหตุเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก และ จะยกระดับความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และ จะพัฒนาตลาดน้ำ 4 ภาค ให้อยู่คู่กับเมืองพัทยาตลอดไป

ด้าน นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า เหตุในครั้งนี้ ถือว่าสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้อย่างรวดเร็ว และ ถือเป็นความโชคดี เนื่องจากใต้จุดที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นบ่อน้ำ นักดับเพลิง จึงสามารถนำเครื่องดับเพลิงแบบห้าม เข้าไปใกล้จุดเกิดเพลิงไหม้ และ ควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด จึงทำให้ตลาด 4 ภาค ได้รับความเสียหาย เพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนมูลค่าความเสียหายก็ตามที่ทางผู้บริหารแจ้งไว้ อยู่ที่ราว 60-70 ล้านบาท ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงต้องรอผลสรุป จากผู้เชี่ยวชาญ และ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ทำรายงานสรุปมาที่ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ส่วนการตรวจสอบโครงสร้าง มีการให้ วิศวกรโยธา เข้ามาตรวจสอบ พบว่า จุดเกิดเหตุ เกิดขึ้นบริเวณเกาะกลางน้ำ และ ไม่มีผลกระทบกับโครงสร้าง จึงทำให้ตลาดน้ำ 4 ภาค เร่งกับมาเปิดให้บริการได้ตา ปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมาการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook