ชาวนาผงะ สูบน้ำเข้านาเจอรถกระบะ-โครงกระดูก รู้แล้วว่าใคร หายไปกว่า 1 ปี 5 เดือน

ชาวบ้านไปสูบน้ำเข้านา แทบช็อกเจอท้ายรถกระบะโผล่ในสระ แจ้งตำรวจตรวจสอบพบศพเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุด รู้แล้วว่าเป็นใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ส.ค.) ร.ต.อ.อนันต์ สีเสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านทุ่งทน ต.สะเดา อ.นางรอง ว่าพบรถยนต์กระบะจมอยู่ใต้น้ำ ในสระน้ำหนองตาไก้ ต. สะเดา อ. นางรอง จึงประสานกู้ภัยสยามร่วมใจปู่อินทร์บุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ยาวประมาณ 160 เมตร กว้าง 80 เมตร ลึกประมาณ 10 เมตร อยู่ตรงข้าม อบต.สะเดา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เอารถมาลากรถกระบะคันดังกล่าวขึ้นมาเป็น พบเป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิ แบบตอนเดียว สีขาว หมายเลขทะเบียน 1799 สุรินทร์ มีโคลนเต็มกระบะหลังรถ

บริเวณที่นั่งคนขับพบโครงกระดูกมนุษย์สภาพไม่มีชิ้นเนื้อหลงเหลืออยู่ และคาดเข็มขัดนิรภัย คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 1 ปี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำทะเบียนรถไปตรวจสอบทางสำนักงานขนส่ง พบว่ารถคันดังกล่าวมีชื่อของ นายพิเชษฐ์ อายุ 47 ปี เป็นผู้ครอบครองรถ และเป็นคนที่ญาติได้แจ้งหายไปเมื่อประมาณ 1 ปี กับ 5 เดือน คือแจ้งไว้ตั้งแต่ เมื่อเดือน มี.ค. 65 ที่ สภ.จอมพระ จ.สุรินทร์

ต่อมาเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ารถได้ใส่เกียร์ค้างไว้ที่เกียร์ 1 และเมื่อตรวจสอบประวัติของนายพิเชษฐ์ พบว่าเป็นคนชอบตกปลาไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ค่อยเข้าบ้าน ลักษณะค่ำไหนนอนนั่น และยังเป็นคนชอบดื่มสุรา เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการตายในครั้งนี้ได้

ด้าน นายประจักษ์ อายุ 55 ปี เล่าว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดฝนทิ้งช่วงทำให้นาข้าวที่หว่านไว้แล้วขาดน้ำ ชาวบ้านที่มีที่นาติดกับสระน้ำแห่งนี้จึงพากันเอาเครื่องสูบน้ำมาสูบเพื่อเติมน้ำเข้านาประมาณ 5-6 เครื่องสูบน้ำ ซึ่งสูบมาได้ประมาณ 5 วันแล้ว

โดยวันนี้ (15 ส.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. หลังจากน้ำเริ่มแห้งลงต้นสังเกตเห็นวัสดุ อยู่ใต้น้ำคล้ายๆ กับรถกระบะ เมื่อเอาไม้ไปเขี่ยดูจึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นรถกระบะ ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว