เหล่าทัพ ร่วมงานเกียรติยศจักรดาว หวั่น เสธ.แดง โผล่

เหล่าทัพ ร่วมงานเกียรติยศจักรดาว หวั่น เสธ.แดง โผล่

เหล่าทัพ ร่วมงานเกียรติยศจักรดาว หวั่น เสธ.แดง โผล่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"อนุพงษ์ - ประยุทธ์" ยกเลิกถกบอร์ดช่อง 5 อ้างติดภารกิจด่วน สถาปนา ร.ร.เตรียมทหาร สุดคึก "บิ๊กป้อม" นำผบ.เหล่าทัพ ร่วมงานเกียรติยศจักรดาว หวั่น "เสธ.แดง"โผล่ป่วนขอเพิ่มกำลัง ศรภ.- สห.อารักขาเข้ม เพื่อน เสธ.แดง ประชุมบอยคอตเพราะรับพฤติกรรมไม่ได้ ระบุ หาก เสธ.แดงกลับตัวกลับใจเพื่อนก็ให้อภัยได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 ม.ค. ที่ ททบ.5 พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่งมีกำหนดจะต้องเดินทางมาร่วมประชุมบอร์ด ททบ.5 ประจำเดือนมกราคม แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่า พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม โดยแจ้งว่าติดภารกิจด่วน รวมถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ.ก็ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้เข้ามายัง บก.ทบ.ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากที่เดินทางไปร่วมงานวันสถาปนา ททบ.5 ครอบรอบ 52 ปี ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือเรื่องการปฏิวัติหึ่งมาตลอดทั้งวัน และที่สร้างความหวาดวิตกเมื่อรถหุ้มเกราะได้จอดบริเวณถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อรอการนำไปซ่อมแซม รวมทั้งการลอบยิงลูกระเบิด เอ็ม.79 ถล่มบก.ทบ.เมื่อกลางดึกวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาที่ขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้

ในวันที่ 27 ม.ค. ซึ่งจะเป็นวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ครบรอบ 50 ปี หรือ "วันจักรดาว" โดยเชิญ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธาน นอกจากนี้ยังมี ผบ.เหล่าทัพ ประกอบด้วย พล.อ. อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เข้าร่วมงานจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานวันสถาปนา รร.เตรียมทหารปีนี้ พล.ต. รักบุญ มนต์สัตตา ผบ.รร.เตรียมทหาร ได้ขอกำลังทหารจาก ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) มาดูแลรักษาความปลดดภัยภายในงาน เพราะภายในงานจะมีบรรดาศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันที่อยู่ในตำแหน่งเข้าร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ทาง ผบ.รร.เตรียมทหาร เกรงว่า พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. ซึ่งเป็นศิษย์เก่า ตท.11 จะเดินทางมาร่วมงานด้วย และป่วนในงานที่มีผู้หลักผู้ใหญ่เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก จนอาจทำให้เกิดความวุ่นวาย จึงได้ขอกำลังเบื้องต้นจาก ศรภ. และสารวัตรทหารบก เข้ามาดูแลความเรียบร้อยเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 11 (ตท.11) นำโดย พล.อ. วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ. เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) และ พล.ต. วิฑูรย์ ดิษยบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ภายหลังถูกสั่งพักราชการ เพื่อขอให้หยุดการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อจะได้กลับเข้ารับราชการต่อนั้น จนกระทั่งพล.ต.ขัตติยะ ออกมาปฎิเสธที่จะปฎิบัติตามเพื่อนร่วมรุ่นแนะนำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.อ. เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ผบ.นทพ.พร้อมเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคนได้นัดหารือกันอีกครั้งที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ถึงกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ อีกครั้งก่อจะมีมติของเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 11 (ตท.11) เป็นเอกฉันท์ทั้งหมด 5 ข้อดังนี้คือ 1. รุ่นจะไม่เข้าไปสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ดำเนินการอันเกี่ยวเนื่องกับการเมือง การดำเนินการทางการเมืองของสมาชิกคนหนึ่งคนใดภายใน

2. รุ่นถือเป็นไม่ความคิดเห็นส่วนตัวบุคคล เพราะแต่ละคนอาจมีความเห็นแตกต่างกัน แต่จะยอมให้ใช้รุ่นเป็นฐานในการสนับสนุนความเห็นของบุคคลผู้นั้น แต่หากใครจะสนับสนุนผู้ใด ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวของคนผู้นั้น 3. รุ่นจะดูแลความเดือดร้อนของสมาชิกและครอบครัวหากได้รับการร้องขอ 4.รุ่นสนับสนุนแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข และ 5.รุ่นจะยึดถือ และปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมทหารอย่างเคร่งครัด

แหล่งข่าวเพื่อน ตท.11 กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อนร่วมรุ่นจะไม่สนับสนุนเพื่อนที่ชื่อ พล.ต.ขัตติยะ ต่อไป การที่ พล.ต.ขัตติยะ เคลื่อนไหว หรือทำอะไรก็แล้วแต่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพื่อน ตท.11 ทั้งนี้ถ้า พล.ต.ขัตติยะ เป็นเพื่อน ตท.11 ก็จะต้องยึดถือระเบียบข้อกฎหมายของทหารเป็นหลักอย่าได้ทำตัวปืนเกลียวผู้บังคับบัญชาอย่างที่เป็นอยู่

"เพื่อน ตท.11 เห็นพฤติกรรมของ พล.ต.ขัตติยะ รับไม่ได้ เพราะนับวันพฤติกรรมของ พล.ต.ขัตติยะ ยิ่งก้าวร้าวผู้บังคับบัญชาทุกวัน โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นเพื่อน ตท.11 จึงได้ร่วมประชุมหารือกัน โดยมีเพื่อน ตท.11 ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ กว่า 300 คน และลงเป็นมติเอกฉันท์ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ขัตติยะอีก" แหล่งข่าวเพื่อน ตท.11 ระบุ

แหล่งข่าวคนเดิม บอกอีกว่า การเคลื่อนไหวของ พล.ต.ขัตติยะ ครั้งนี้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนร่วม พล.ต.ขัตติยะ ไม่ได้คิดถึงเพื่อนร่วมรุ่น ไม่ได้คิดถึงผู้บังคับบัญชา ไม่ได้คิดถึงและเคารพสถาบันกองทัพ ที่จะต้องรู้จักพี่จักน้อง อย่างไรก็ตาม ถ้า พล.ต.ขัตติยะ กลับตัวกลับใจเพื่อน ๆ ก็พร้อมให้อภัยกันทุกคน พล.ต.ขัตติยะ ยอมรับผิด และปฏิบัติตัวในสิ่งที่อยู่ในกรอบของทหารที่ถูกต้อง เพื่อน ๆ ก็ให้อภัยกันอยู่แล้ว แต่ถ้า พล.ต.ขัตติยะ ยังไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองผิดเพื่อน ๆ ก็คงไม่รับกันไม่ได้

โฆษกทบ. ชี้ปฎิวัติไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะ จนเป็นเหตุทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ว่า ยอมรับว่าทางกองทัพได้เคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะรุ่น วี.150 จริงซึ่งเป็นรถในสังกัดของ กองพลทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ได้ส่งไปปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 22 คัน จากทั้งหมดที่อยู่ในสังกัดกองทัพบกจำนวน 113 คัน โดยลำเลียงผ่านมายังเส้นทางรถไฟตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนำมาซ่อมแซมที่โรงซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ปทุมธานี ทั้งนี้เพื่อเตรียมที่จะส่งไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในประเทศซูดาน โดยจะมีกำหนดการซ่อมแล้วเสร็จและส่งไปประเทศซูดานในช่วงเดือน พ.ค.2553

เมื่อถามว่า ทำไมต้องเอามาซ่อมในช่วงเวลานี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า กองทัพดำเนินการไปตามแผนปฏิบัติการตามปกติ ไม่ได้คิดถึงกระแสทางด้านการเมืองแต่อย่างใด ทำไปตามหลักการ ดูประสิทธิภาพสรรพาวุธต่างๆ เนื่องจากรถหุ้มเกราะดังกล่าวมีอายุการใช้งานมาตั้งแต่ปี 2521 ดังนั้น ก่อนที่จะมีการส่งไปปฏิบัติการยังต่างประเทศต้องดูแลซ่อมแซมก่อน อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่กองทัพเคลื่อนย้ายนั้นได้แจ้งประชาชนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้อาจจะมีการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึงอย่างไรก็ตามต้องขอโทษพี่น้อง ประชาชนด้วย

พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติ ว่า ทุกวันนี้ทหารไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย มีแต่แวดวงการเมือง อดีตนายทหารบางคนเป็นคนพูด ยืนยันว่ากองทัพไม่เคยพูดและไม่ทำตามกระแสที่ออกมาเนื่องจากทหารมีบทเรียนพอ สมควรในครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งการพูดถึงเรื่องการปฏิวัติในขณะนี้ล้าไปแล้ว ไม่เข้ากับสมัยปัจจุบัน ดังนั้นการปฏิวัติไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

ด้าน พ.ท. อินทนนท์ รัตนกาฬ ผบ.กองปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วย "ฉก.90" กรมรบพิเศษที่ 3 จ.ลพบุรี ซึ่งเป็น อดีตนายทหารคนสนิท พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องการนัดประชุมลับของที่ พล ร.2 รอ.จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่นาย สุชาติ ลายน้ำเงิน ออกมากล่าวนั้น

"น่าเป็นเรื่องตลก และไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีนายทหารนัดประชุมลับเพื่อหารือเรื่องปฏิวัติ ซึ่งมองว่า กระแสดังกล่าวกำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ โดยที่คนออกมาพูดไม่รู้จริง รวมทั้งที่พูดว่านายทหารคนสนิทพลเอก ส. ที่เข้าประชุมด้วยนั้นเป็นใคร แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน เพราะส่วนตัวไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับพล.อ.สุรยุทธ์" พ.ท.อินทนนท์ กล่าว

พ.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการกองพลรบพิเศษที่ 1 อดีต หน.รปภ. และฝ่ายเสธ. พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. กล่าวว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมปฏิวัติ ตามที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ มีนายทหารคนสนิทของ พล.อ. "ส." เรียกประชุมทหารหน่วยรบที่ พล.ร.2 รอ.. เพื่อเตรียมการบางอย่าง

"ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เดินทางไป จ.ปราจีนบุรี และผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้มีการเรียกให้ไปประชุมเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหว แต่การปล่อยข่าวเช่นนี้เพื่อหวังสร้างกระแส โดยมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีกับกองทัพ การโยงครั้งนี้เพื่อทำให้กองทัพไม่มีความเป็นเอกภาพ หากลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดจะเห็นว่าใครคือ ตัวการปล่อยข่าว"พ.อ.ชัยชนะกล่าว และว่าข่าวปฏิวัติโดยมีลูกน้องของ พล.อ.สนธิ จะไปร่วมด้วย ไม่เป็นความจริง ส่วนกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่า กลุ่ม ฉก.90 กองร้อยปฏิบัติการพิเศษ จะมีส่วนร่วมทำปฏิวัติด้วยนั้น พ.อ.ชัยชนะ ระบุว่า ตนเคยดูแลงานด้านนี้มาก่อน ว่า ทำไม่ได้ และ สังคมขณะนี้ไม่ยอมรับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook