ดื่มชาเขียวมีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งปอด

ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยไต้หวัน เสนอผลการวิจัยกับประชากรกลุ่มตัวอย่างกว่า 500 คนพบหลักฐานที่หนักแน่นขึ้นว่าชาเขียวมีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งปอดในคนที่สูบและไม่สูบบุหรี่

ผู้วิจัยทำการทดลองกับคนที่สูบและไม่สูบบุหรี่ ให้ดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละ 1 ถ้วย พบว่า ความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประสิทธิภาพในการป้องกันยิ่งเพิ่มขึ้นในคนที่มียีนบางชนิดในร่างกาย

นายแพทย์ไอ-ชิน ลิน จากมหาวิทยาลัยการแพทย์ชาน พบว่า ในกลุ่มผู้สูบและไม่สูบบุหรี่นั้น ผู้ที่ไม่ดื่มชาเขียวจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดสูงกว่าคนที่ดื่มชาเขียวอย่าง น้อยวันละถ้วย ถึง 5 เท่า และสำหรับกลุ่มผู้สูบบุหรี่และไม่ดื่มชาเขียว จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดสูงกว่าคนสูบบุหรี่แต่ดื่มชาเขียว กว่า 12 เท่า

นอกจากนี้ นักวิจัยได้วิเคราะห์ดีเอ็นเอของประชากรกลุ่มตัวอย่าง พบว่ามียีนบางตัวที่ดูเหมือนจะมีบทบาทในการลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง โดยคนที่สูบและไม่สูบบุหรี่ที่ดื่มชาเขียวและมียีนชื่อ "ไอจีเอฟ-1" ในร่างกายจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดน้อยกว่าคนที่ไม่มียีนชนิดนี้

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยมะเร็งจากสหราชอาณาจักร กล่าวว่าผลการวิจัยนี้ไม่ควรนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสูบบุหรี่ต่อไป เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้ปอดเต็มไปด้วยสารเคมีประมาณ 80 ชนิดที่ก่อมะเร็ง การดื่มชาเขียวไม่สามารถชดเชยได้ และวิธีการดีที่สุดที่จะลดความเสี่ยงมะเร็งปอด คือเลิกสูบบุหรี่

ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วเอเชีย อัตราการเป็นมะเร็งของประชากรในภูมิภาคนี้ต่ำกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆของโลก จึงนำไปสู่ข้อสมมติฐานว่ามีความสัมพันธ์บางประการระหว่างชาเขียวกับโรคมะเร็ง การศึกษาในห้องทดลองพบว่าสารสกัดจากชาเขียว ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "โพลิฟินอลส์" สามารถหยุดยั้งเซลส์มะเร็งไม่ให้เติบโตได้ อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาในตัวมนุษย์กลับได้ผลลัพธ์ที่ยังไม่ชัดเจน บางครั้งก็เห็นผลในเชิงป้องกันแต่บางครั้งก็ไม่ใช่