อภิสิทธิ์ บี้มานิตทบทวนก่อนชี้ขาดเอง

อภิสิทธิ์ บี้มานิตทบทวนก่อนชี้ขาดเอง

อภิสิทธิ์ บี้มานิตทบทวนก่อนชี้ขาดเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชวรัตน์ รอดูเหตุผล อภิสิทธิ์ ไม่อนุมัติใบลา มานิต ลั่นก้าวก่ายพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ รับ ภท.ยึดแนวกฎเหล็ก 9 ข้อปฎิบัติ เผยไร้สัญญาณปรับ ครม. นิพิฏฐ์ ยัน ล้านเปอร์เซ็นต์ไม่คิดย้ายพรรค

(7ม.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อนุมัติใบลา 30 วัน ของนายมานิต นพอมรบดี รม ช.สาธารณสุขว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ว่า นายกฯ ไม่อนุมัติให้ลา ถือเป็นการหักหน้านายมานิตหรือไม่นั้น มองว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องของนายกฯ ที่จะใช้สิทธิอนุมัติ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้การตัดสินใจดังกล่าว มองว่า ไม่เป็นการก้าวก่ายพรรคร่วมรัฐบาล เพราะพรรคภูมิใจไทยได้มีมติเรื่องนี้ไปแล้ว เพียงแต่ใช้อำนาจในการเป็นนายกฯ เข้ามามีคำสั่งกับนายมานิตในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่ว่า จะเป็นจะเป็นการย้าย หรือปลด นายกฯ มีสิทธิ์ที่จะทำได้ ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรตนยังไม่ทราบ แต่ภายในของพรรคภูมิใจไทย นายกฯเข้ามาก้าวก่ายไม่ได้

เมื่อถามว่า การที่นายกฯไม่อนุมัติให้นายมานิต ลาพักร้อน 30 วัน แต่ไม่ให้ลา เป็นการส่งสัญญาณว่า นายมานิต ควรจะปฏิบัติตามแบบนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยมีความเห็นอย่างไร นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องดูว่าที่นายกฯไม่ให้ลา มีเหตุผลอย่างไร หรือจะต้องให้นายกต้องพูดออกโทรทัศน์ว่า ทำไมต้อง 30 วัน ทั้งนี้ที่นายมานิตได้ยื่นลาพักราชการ เพราะมีเหตุผลที่จะให้ฝ่ายตรวจสอบมีอิสรภาพในการตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะไม่ก้าวก่ายหรือเข้าไปแทรกแซงในการตรวจสอบ

เมื่อถามว่า กฏเหล็ก 9 ข้อ ของรัฐบาล จะนำมาใช้กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็ดี ทางพรรคก็ยังนำมาปฏิบัติตามอยู่ เมื่อถามว่า นายชวรัตน์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า กฏเหล็กไม่ใช่กฏหมายที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม นายชวรัตน์ กล่าวว่า เป็นการเข้าใจผิด เพียงพูดว่า กฏเหล็กไม่ใช่กฏหมาย พูดเท่านี้ แต่มีการนำไปเติมแต่ง ในความหมายที่แท้จริง คือกฎเหล็กไม่ได้นำมาใช้ได้กับทุกคน คนที่นำมาใช้ คือคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของนายกรัฐมนตรี เช่นคณะรัฐมนตรี น่าจะต้องปฏิบัติตามนั้น เพราะว่าท่านเป็นคนออก แต่อย่างผู้สื่อข่าว นี่ไม่ต้องปฏิบัติตามกฏเหล็ก 9 ข้อ ส่วนที่ว่า นายมานิต จะอยู่ในข่ายต้องห้ามของกฎเหล็ก 9 ข้อหรือไม่นั้น อยู่ที่คณะกรรมการตรวจสอบว่า นายวิทยา และนายมานิต มีความผิดหรือไม่ ยังไม่รู้ว่า เขาสรุปอย่างไร ในที่นี้ถือว่า นายมานิตยังบริสุทธิ์ นายมานิตก็ต่อสู้ไปตามครรลอง นายมานิตต้องการแสดงความบริสุทธิ์ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า ในกรณีเดียวกันที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีข่าวอื้อฉาวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จากนั้นก็ไม่มีการย้ายหรือมีใครมาดำรงตำแหน่งแทน ถือเป็นมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องให้นายกฯชี้แจง

เมื่อ ถามว่า หากนายกฯ ปรับ ครม. โดยที่ไม่แจ้งทางพรรคภูมิใจไทยก่อน จะทำอย่างไร นายชวรัตน์ กล่าวว่า ถ้าจะทำอย่างนี้นายกฯต้องมาคุยกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ส่วนที่มีข่าวว่า ว่านายกฯ จะปรับ ครม.เร็วๆ นี้ ตนยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากนายกฯ

เมื่อถามว่า ท่าทีของพรรคภูมิใจไทยพอใจท่าทีของนายกฯ หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็ยอมรับได้ ในฐานะที่ท่านเป็นนาย ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งท่าน ในบริเวณที่ท่านรับผิดชอบ แต่ถ้าในบริเวณของพรรคภูมิใจไทย ท่านคงไม่เข้ามาก้าวก่าย ซึ่งขณะนี้นายกฯ ยังอยู่ในบริเวณที่ท่านรับผิดชอบอยู่

เมื่อถามว่า ดูเหมือนการที่พรรคประชาธิปัตย์สลับให้นายวิทยา ไปเป็นประธานวิปรัฐบาลจะไม่เป็นการลงโทษ ขณะเดียวกลับมากดดันรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องดูก่อน อย่าตีตนไปก่อนไข้ ส่วนกรณีนายมานิต จะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้

ไม่รู้รูปทักษิณ-ฮุนเซน"ว่อนพื้นที่เลือกตั้งซ่อมปราจีน

นายชวรัตน์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีการแจกใบปลิว ที่เป็นภาพถ่ายระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับ สมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ที่ จ.ปราจีนบุรี ว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าวนี้

อภิสิทธิ์บี้มานิตทบทวนก่อนใช้อำนาจตัดสิน

ด้าน นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ยะลา กรณีการยื่นใบลาพักร้อน 30 วันของนายมานิตว่า ยังไม่เห็นใบลา เห็นแต่ข่าวที่ออกมา เพราะนายมานิตมายื่นใบลาหลังจากที่ตนเดินทางออกจากทำเนียบฯเมื่อวานนี้ (6 ม.ค.) เพื่อไปเข้าร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จึงยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้านายมานิตต้องการพิสูจน์ความบริสุทธ์ และต้องการใช้เวลาชี้แจง จะเป็น ป.ป.ช หรือหน่วยงานอื่น ตนไม่คิดว่าเวลา 30 วันจะพอ เพราะจากประสบการณ์จากหลายคดีจะเห็นว่าจะต้องใช้เวลายาวนานมาก ขณะเดียวกันการลา 30 วัน มีความไม่แน่นอนว่าจะกลับมาทำงานเมื่อไหร่หรือไม่ ไม่น่าจะเป็นผลดีกับการบริหาร ฉะนั้น ตนยืนยันว่าจะให้นายมานิตทบทวนในส่วนนี้ และในต้นสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปรับ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ ฉะนั้นอยากให้นายมานิตได้ตัดสินใจเสียก่อน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการที่นายชวรัตน์ ระบุกฎเหล็ก 9 ข้อ ไม่ใช่กฎหมายว่า ก็ไม่ได้เป็นกฎหมาย แต่คำว่า "กฎเหล็ก" นั้น ความจริงตนไม่เคยใช้คำนี้ แต่ใช้คำว่า "กติกา" เป็นกติกาในการทำงานร่วมกันในรัฐบาลชุดนี้ ชัดเจนตั้งแต่การประชุมครม.ครั้งแรก และเหตุผลที่ต้องมีสิ่งเหล่านี้ก็เพราะว่าตนยืนยันว่า ถึงเวลาที่การเมืองจะต้องยกมาตรฐานให้สูงกว่าการปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น

เมื่อถามว่านายกฯต้องการให้นายมานิตลาออกจากตำแหน่งเหมือนกรณีนายวิทยา แก้วภราดัย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆแล้วจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจากการตัดสินใจของนายวิทยา คิดว่า รมช.สาธารณสุขก็น่าจะพิจารณาไปในทางเดียวกัน และเมื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็สามารถกลับมาได้ ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าลาออกไปแล้ว จะไม่มีโอกาสกลับมาทำงาน แต่ในระหว่างนี้น่าจะเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำงานบริหารราชการแผ่นดินได้เต็ม ที่ และไม่ได้เป็นการตัดโอกาส

เมื่อถามว่า หากนายมานิตไม่ปฏิบัติตามจะมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า "เป็นหน้าที่ของผมที่จะดำเนินการให้รักษามาตรฐานนี้เอาไว้"

"นิพิฏฐ์"ยัน"ล้านเปอร์เซ็นต์"ไม่คิดย้ายพรรค

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวน้อยใจและจะยุติบทบาททางการเมือง ว่า ไม่เป็นความจริง ไม่ได้รู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี กรณีที่พรรคมีมติเลือกนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และประธานวิปรัฐบาล เป็น รมว.ศึกษาธิการ ตนยังโทรศัพท์ไปแสดงความยินดี 3-4 ครั้งแต่ติดต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจส่งเอสเอ็มเอสไป แต่ที่มีข่าวดังกล่าวเป็นเพราะมีสื่อมาถามว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ ซึ่งได้ยืนยันไปว่าไม่คิดจะเปลี่ยนพรรคล้านเปอร์เซ็นต์ และตราบใดที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ยังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ตนก็จะยังอยู่กับพรรค เพราะถือว่านายชวนเป็นเทพเจ้าทางการเมืองของตน แต่ถ้าไม่มีนายชวนอาจยุติบทบาทเลยก็ได้ แต่ตนไม่ได้บอกว่าจะเลิกเล่นการเมืองในสมัยหน้า

"สาทิตย์" ปัดปชป.ไม่มีควันหลงปรับครม.

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินกระแสข่าวดังกล่าว เพราะเท่าที่รับฟังจากเพื่อน ส.ส. เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ทุกคนเห็นว่ากระบวนการคัดเลือกของพรรคเป็นกระบวนการที่ทุกคนเห็นชอบด้วย และเป็นไปตามข้อบังคับพรรคซึ่งมติเป็นเอกฉันท์ แต่ละคนยอมรับกระบวนการการคัดเลือกตัวบุคคล รวมทั้งนายนิพิฎฐ์ก็มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับหลายๆ คน ซึ่งนายนิพิฎฐ์บอกว่าถ้าเป็นคนภายในพรรคเข้ามาเขาก็เห็นชอบด้วย โดยในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก็คุยกันว่าการเลือกตัวบุคคลไปทำหน้าที่ ไปเป็นรัฐมนตรีต้องคำนึงถึงความรู้ ความสามารถและความเหมาะสม แต่ไม่ได้แปลว่า คนอื่นๆ จะทำไม่ได้ ทั้ง 5 คนที่เป็นแคนดิเดต นายกฯยืนยันแล้วว่า สามารถทำหน้าที่ได้ทุกคน เพียงแต่โอกาสจะเป็นของใครเท่านั้นเอง เชื่อว่าจะไม่มีควันหลงอะไร ทุกคนมีภารกิจที่ต้องรออยู่ในวันข้างหน้า

"ผมยืนยันว่า คุณนิพิฎฐ์เป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ ตั้งใจทำงานเป็นอย่างดี และมีความสามารถ และเป็นที่ยอมรับ พร้อมที่จะเป็นฝ่ายบริหารได้ และท่านต้องมีโอกาสในการทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ซึ่งเพื่อนต้องยอมรับด้วย เช่นเดียวกัน แต่โอกาสวันนี้อาจยังไม่มี ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของพรรค ผมคิดว่าคุณนิพิฎฐ์เป็นคนหนึ่งที่เพื่อนในพรรคให้การยอมรับบทบาท" นายสาทิตย์ กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook