ประสงค์ แจง 3 เงื่อนไขทหาร ปฏิวัติ

ประสงค์ แจง 3 เงื่อนไขทหาร ปฏิวัติ

ประสงค์ แจง 3 เงื่อนไขทหาร ปฏิวัติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประสงค์ เผย 3 เงื่อนไขทหารปฏิวัติ รับประกันยากไม่เกิด เผย เหตุชี้ขาดรัฐบาลป้องกันจลาจล-เผาเมืองไม่ได้ ระบุ "ทักษิณ" ต้องรับโทษก่อน ค่อยเจรจากับกลุ่มหนุนที่ถูกปลุกปั่นให้เข้าใจผิด อัดรัฐบาลไม่เป็นมวย สะเปะสะปะ จับผู้หนีคดีมาลงโทษไม่ได้ เอาใจช่วย " กษิต "ทำถูกต้อง แต่คนไม่เข้าใจ

(28ธ.ค.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันว่า เป็นห่วงสถานการณ์ เพราะบ้านเมืองไม่ปกติ ซึ่งความไม่ปกติครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมีคนๆ หนึ่งพยายามดำเนินการทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย หรือความถูกต้องชอบธรรมใดๆทั้งสิ้นในการกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ไม่ใช่มาติดคุก แต่จะกลับมาอย่างมีอำนาจ และ มีชัยชนะทุกอย่าง แม้กระทั่งทรัพย์สิน หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่สูญเสียไปจะต้องกลับคืนมาหมด ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือประชาชน ได้รับทราบ ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง ไม่ทั่วถึง ถูกยุยง ปลุกปั่นทุกวัน

" ส่วนทหารนั้นจิตสำนึกที่สำคัญคือ การนึกถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้ให้มาก บรรดาข้าราชการเก่าๆ ข้าราชการการเมือง และ ข้าราชการประจำ ควรทำตามหน้าที่ตามที่พระองค์ท่านทรงรับสั่ง และแก้ไขปัญหาต่างๆ ทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นให้ได้ คิดว่าเหตุการณ์ต่างๆ คงทุเลาลง สิ่งที่น่าห่วงที่สำคัญอีกประการ คือการจัดการบริหารของฝ่ายรัฐบาล ยังดำเนินการไม่เข้าเป้า ไม่ถูกทิศทาง ไม่ทราบว่า เพราะอะไร ใจของผมอยากให้บ้านเมืองสงบ แต่ก่อนจะสงบก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น " น.ต.ประสงค์ กล่าว

เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับเข้ามารับโทษบ้านเมืองจะสงบหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุด ปัญหาหลักหมดไประดับหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันปัญหารองลงมาเกิดจากผู้สนับสนุน ผู้ที่รับใช้คนๆ นี้ ซึ่งจะต้องมีวิธีการที่จะทำความเข้าใจหรือจัดการในสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้องโดยใช้ตัวบทกฎหมาย ซึ่งแบ่งเป็นสองระยะ

เมื่อถามว่า เหมือนมีเงื่อนไข พ.ต.ท. ทักษิณ ขอเจรจา น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ต้องถามว่าจะเจรจาอะไร ถ้าจะเจรจากับคนที่ติดคุกติดตาราง เป็นนักโทษ และก็หนีคดีอีกหลายคดี จะไปเจรจาเรื่องอะไร จะต้องทำตามกฎหมายให้ได้ก่อน เมื่อทำตามกฎหมายให้ได้แล้ว ตรงนั้นคือการเจรจาระหว่างผู้สนับสนุน การเกิดขึ้นตอนนั้นเป็นการเกิดขึ้นเพื่อลดความเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน แต่เงื่อนไขสำคัญที่สุด คือจะไปเจรจากับคนที่ถูกพิพากษาแล้ว ไม่มีที่ใดในโลกทำ และทำอย่างนั้นไม่ได้ด้วย คนที่มีหน้าที่เขาคงปิดประตูการเจรจากับนักโทษ นอกจากให้กลับมาติดตารางก่อน ส่วนที่มองว่ายังไม่มีใครจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาลงโทษได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของรัฐบาลว่า เป็นมวย หรือไม่ เท่าที่เห็นก็ยังสะเปะสะปะอยู่ ถ้าทำให้เป็นคงไม่เหลือบ่ากว่าแรง

เมื่อถามว่า หากมีการนองเลือด จะมีเหตุผลในการปฏิวัติหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า การปฏิวัติสำหรับบ้านเมืองของเราทั้งหมด ต้องนำมาศึกษาว่าทำไมถึงมีเหตุปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้น

" เหตุผลที่หนึ่ง คือ แย่งอำนาจกันเองระหว่างผู้คุมกำลัง เหตุผลที่สองเกิดจากการยุยงส่งเสริมของฝ่ายการเมืองที่เอาทหารมาเป็นพวก เหตุผลที่สาม เกิดจากการทุจริตคอรัปชั่นของฝ่ายบริหาร คือ รัฐบาล ซึ่งทั้งสามประการเป็นบทเรียนสำคัญในการมองสถานการณ์ปัจจุบัน เหตุผลอีกอย่าง คือ ฝ่ายบริหารไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาอะไรได้ กับความจลาจลวุ่นวายปั่นป่วน เผาบ้านเผาเมือง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน " น.ต.ประสงค์ กล่าว

เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่ทหารจะออกมาปฏิวัติหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ตนอยู่ในวงการเมือง การทหาร วงการข่าวมาพอสมควร ตนไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนว่าจะไม่มี แต่หมายความว่าจะมีหรือไม่มีอยู่ที่เงื่อนไขที่ได้บอกไป

ในฐานะอดีต รมว.ต่างประเทศ ยังมองว่า การทำหน้าที่ของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศคนปัจจุบันในการติดตามตัว พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ใช่เป็นการไล่ล่า เป็นการทำตามหน้าที่ ในการหาที่อยู่ของคนที่หมายจับ หรือ หนีตาราง เป็นนักโทษที่ทางราชการต้องการ เพราะฉะนั้น กระทรวงการต่างประเทศ มีเจ้าหน้าที่สถานทูตทุกประเทศ เขาก็จะร่วมมือกับอัยการในการติดตามเพื่อขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตนเห็นว่า นายกษิต ถูกมอง หรือ ถูกกระทำ ที่ไม่เป็นธรรม จากฝ่ายที่ไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และ ตัวรมว.ต่างประเทศ สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่วิกฤติ และมีปัญหาหลักเช่นนี้ นายกษิต ทำหน้าที่รมว.ต่างประเทศได้ถูกต้องแล้ว

เมื่อถามว่า มองการทำงานของ นาย อภิสิทธิ์ อย่างไรบ้าง นต.ประสงค์ กล่าวว่า โพลล์ที่ออกมาคนไทยยังยอมรับ นาย อภิสิทธิ์ เป็นคนดี คนซื่อ และประวัติการทำงานในทางเสียหายก็ไม่มี แต่นายกฯอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ประกอบไปด้วยพรรคพวกหลายคนที่สังคมไม่ยอม และหลายคนไม่ทำงานตรงตามหน้าที่ของตัว ความรู้ความสามารถไม่ตรงกับงาน ในส่วนของทีมงานเศรษฐกิจ พาณิชย์ อุตสาหกรรม เกษตรฯ ดูพื้นฐานประสบการณ์ไม่ตรงกับงาน ผลงานไม่ค่อยเห็น อีกทั้ง รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ เอกภาพในรัฐบาลก็ไม่มี ถ้าหากมีการปรับ ครม. ก็จะทำให้ความรู้สึกของประชาชนในบ้านเมืองดีขึ้น และรอดูผล ดีกว่าจะเดินต่อไปอย่างนี้จะลำบาก อย่างไรก็ตาม 1 ปีที่ผ่านมา ขอพูดตรงๆ ว่า ยังมีการหาผลประโยชน์ หาเงินหาทอง จากโครงการเก่า และ ใหม่ หรือแม้กระทั่งโครงการของรัฐบาลเองที่ควรจะต้องให้ปลอดจากการทุจริตก็ยังมีปัญหาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนพอเพียง หรือไทยเข้มแข็ง

เมื่อถามถึง ในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ผ่านความเห็นชอบ รธน.ปี 50 มองอย่างไรกับการเรียกร้องให้แก้ไขใน 5-6 ประเด็น นต.ประสงค์ กล่าวว่า รธน. ได้เขียนไว้ชัดเจนเลยว่าแก้ไขได้ แต่การแก้ไขนั้นจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ผลประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง และ รธน.ยังเปิดโอกาสให้แก้ไขได้ทุกเวลา แต่ รธน.ปี 2540 ได้บัญญัติไว้ว่าแก้ไขได้ หลังจาก 5 ปีของการใช้ได้ผ่านพ้นไป สำหรับการเสนอแก้ไขให้การเลือกตั้งเป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียวนั้น อย่างที่บอกว่า ถ้าแก้ไขเพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่มีปัญหา แต่หากการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะแล้ว เป็นการขัดผลประโยชน์ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ เพราะฉะนั้นมีความผิด แก้ไขไม่ได้ อย่างที่เสนอให้แก้ไข 5-6 ประเด็นที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่ผลประโยชน์ของนักการเมือง และพรรคการเมืองทั้งสิ้น เท่าที่ติดตามดู ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ส่วนประเด็นประชามติ ขอให้ข้อคิดว่า รธน.ปี 50 ผ่านการลงประชามติของประชาชน 14 ล้านคนเศษ เกือบ 15 ล้านคน ก็เท่ากับว่าประชาชนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองเห็นชอบด้วย ถ้าแก้ไขเรื่องใดอย่างน้อยต้องถามประชาชนก่อน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook