หนุ่มโพสต์ตามหาคู่หมั้นหอบสินสอดหนี โซเชียลตามจนเจอ คดีพลิกทัวร์ลงฝ่ายชายเต็มๆ

อะอ้าว.. หนุ่มโพสต์ตามหา “คู่หมั้น” หอบสินสอดหนี พลังโซเชียลตามจนเจอ แต่กลายเป็นหนังคนละม้วน รถทัวร์เลี้ยวกลับมาลงที่ฝ่ายชายเต็มๆ

ชายจากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน วอนชาวเน็ตช่วยตามหาคู่หมั้นที่หอบสินสอดหนีไป โดยบอกว่าปีนี้เขาอายุ 33 ปี คู่หมั้นอายุ 37 ปี ทั้งสองพบกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก และค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกต่อกัน คู่หมั้นของเขามีลูกสองคนแล้วแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เพราะมองว่าสิ่งที่สำคัญคือความรักระหว่างสองคน

 หลังจากรู้จักกันได้ระยะหนึ่งทั้งสองก็ตัดสินใจแต่งงานกัน เขายังให้สินสอดแก่แฟนสาวล่วงหน้าเป็นจำนวน 20,000 หยวน (ประมาณ 9.8 หมื่นบาท) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แม้แต่ครอบครัวของเขาก็เตรียมพร้อมปรับปรุงบ้านเสร็จแล้ว รอแค่วันแต่งงานที่จะมาถึงเท่านั้น เขาคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นตามแผนที่วางไว้ แต่ 10 วันก่อนงานแต่งงาน จู่ๆ คู่หมั้นของเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เธอยังบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเขากด้วย และทิ้งเหตุผลของการกระทำทั้งหมดไว้เพียงสั้นๆ ว่า "เธอรู้ตัวว่าไม่ได้ชอบเขาอีกแล้ว"  

ชายหนุ่มยังบอกด้วยว่า เขาไว้ใจแฟนสาวมากจริงๆ อย่างไรก็ดี แม้ว่าพวกเขากำลังจะแต่งงานกัน แต่เขาก็ไม่เคยพบพ่อแม่ของเธอเลยสักครั้ง เขาลองถามเรื่องนี้ออกไปหลายครั้ง แต่ทุกครั้งแฟนก็หาข้ออ้างบ่ายเบี่ยง เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถติดต่อเธอได้ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก "โพสต์" เพื่อขอความช่วยเหลือจากชุมชนออนไลน์  

อย่างไรก็ตาม เมื่อชาวเน็ตยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง และสืบทราบเบาะแสของสาวผู้หลบหนีงานแต่ง สุดท้ายเมื่อพบตัวกลับได้รับคำอธิบายราวกับหนังคนละม้วน เธอยืนยันว่าไม่ได้หอบสินสอดหนีตามที่ถูกกล่าวหา แต่เพราะเธอแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้แค่อยากหาผู้ชายดีๆ ที่พร้อมยอมรับลูก 2 คนของเธอไปอยู่ด้วย แต่เธอกลับพบว่า "ว่าที่เจ้าบ่าว" เป็นคนเกียจคร้าน ไม่มีเงินติดกระเป๋า ไม่มีงานทำ เงินทั้งหมดที่เขาได้รับมาคือการยืมจากคนอื่น หรือไม่ก็เงินที่ได้จากการพนันออนไลน์  

นอกจากนี้เธอยังเสริมว่า เธออยากจะเลิกลากับเขามานานมากแล้ว แต่ถูกครอบครัวของเขาขัดขวางมาตลอด ส่วนประเด็นเรื่องสินสอดทองหมั้น เธอบอกว่าเขาให้เงินมา 20,000 หยวนจริงๆ แต่เขาก็เอาเงิน 15,000 หยวนไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าบ้าน และเธอได้จ่ายส่วนที่เหลืออีก 5,000 หยวนให้กับครอบครัวของเขาคืนไปแล้วก่อนหน้า

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตที่คอยช่วยเหลือชายหนุ่มมาตลอดต่างพากันเดือดดาล หลายคนวิจารณ์รุนแรงถึงว่าที่เจ้าบ่าวที่พยายามเกาะผู้หญิง และเมื่อไม่สำเร็จก็ยังพยายามเปิดโปงให้เธอรู้สึกอับอาย โดยการโพสต์ข้อความเพื่อ "ชี้นำ" ความคิดเห็นสาธารณะ