อึ้ง คุณตาวัย 70 ถูกมิจฉาชีพใช้รูปสาวสวย ชวนลงทุนเหรียญคริปโต สูญเงิน 4.8 ล้าน

อึ้ง คุณตาวัย 70 ถูกมิจฉาชีพใช้รูปสาวสวย ชวนลงทุนเหรียญคริปโต สูญเงิน 4.8 ล้าน

อึ้ง คุณตาวัย 70 ถูกมิจฉาชีพใช้รูปสาวสวย ชวนลงทุนเหรียญคริปโต สูญเงิน 4.8 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณตาวัย 70 ปี เผยอุทาหรณ์ มิจฉาชีพใช้รูปนางแบบสาวสวย หลอกชวนลงทุนเหรียญคริปโต สูญเงินเก็บทั้งชีวิต 4.8 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี ได้ติดต่อกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอคำปรึกษาในคดีที่ถูกมิจฉาชีพนำรูปนางแบบสาวสวยมาสวมรอยในบัญชีเฟซบุ๊กและไลน์เพื่อหลอกให้โอนเงินไปเทรดเหรียญคริปโต จนสูญเงินเก็บที่มีทั้งชีวิตไปหมดกับการหลงเชื่อมิจฉาชีพรายนี้ เป็นเงินจำนวน 4,898,000 บาท โดยมีหลักฐานเป็นข้อความแชทการพูดคุยเรื่องการลงทุนและหลักฐานสลิปการโอนเงินเป็นหลักฐาน โดยได้เข้าแจ้งความดำเนินไว้แล้วที่ สภ.เมืองนนทบุรี

นายสมชาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ถูกหญิงสาวรายหนึ่งทักมาหาทางข้อความในเฟซบุ๊กโดยรูปโปรไฟล์เป็นรูปหญิงสาวหน้าตาเหมือนหน้าแบบลูกครึ่ง ก่อนหญิงสาวรายนี้จะขอเปลี่ยนการพูดคุยจากข้อความในเฟซบุ๊กมาเป็นไอดีไลน์แทน

จากนั้นมาหญิงสาวรายนี้ก็ทักไลน์มาหาตนเข้า กลางวัน เย็น รวมทั้งกลางคืนเพื่อชวนคุยเรื่องทั่วไป บางครั้งก็เริ่มเรียกตนว่าที่รักเป็นประจำ จนเริ่มสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง จากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็เริ่มชวนตนพูดคุยถึงเรื่องการงาน และการลงทุนเทรดเหรียญคริปโตเพื่อเก็งกำไร โดยอ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจหญิงในพื้นที่ จ.เชียงใหม่

นายสมชาย เผยอีกว่า จากนั้นหญิงสาวรายนี้ได้ให้ตนเข้าโหลดแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับการเทรดเหรียญจากแอปสโตร์มาติดตั้งในมือถือ โดยได้สอนให้ตนลงทุนหัดเทรดเหรียญ แต่มีข้อตกลงกันว่าถ้าได้กำไรจากการเทรดมาจะต้องนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง

ซึ่งเมื่อตนโหลดแอปฯ มาติดตั้งเรียบร้อย แล้วหญิงสาวรายนี้ได้ให้ตนติดตั้งแอปฯ เพิ่มอีกตัวหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นแอปฯ ที่ติดตั้งไว้เพื่อดูยอดเงินและกำไรในการเทรด ด้วยความที่ตนหลงเชื่อใจในวันที่ 3 ก.ค. จึงทดลองโอนเงินไปเล่นครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 18,000 บาท และได้กำไรกลับมา 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยอดเงินในแอปฯ ก็เพิ่มขึ้น

ตนเห็นว่าได้กำไรดี ประกอบกับหญิงสาวมาชักชวนให้ตนลงทุนซื้อเหรียญเพิ่ม ตนจึงได้โอนเงินไปซื้อเหรียญเพิ่มอีก เป็นเงินจำนวน 330,000 บาท ตามที่หญิงสาวชักชวน แต่เป็นชื่ออีกบัญชีหนึ่ง

ซึ่งเมื่อตนสอบถามหญิงสาวก็ให้เหตุผลว่าเขาเองมีเหรียญไม่พอ ต้องซื้อจากคนอื่นมาเพิ่มอีกทอดหนึ่ง จากนั้นยอดเงินในแอปฯ ที่ตนลงทุนไปก็มีกำไรเพิ่มขึ้นอีก ต่อมามีเงินโอนเข้าในบัญชีตนจำนวน 17,000 บาท ซึ่งหญิงสาวบอกว่าเป็นในส่วนของกำไรที่แบ่งกัน ก็ยิ่งทำให้ตนเชื่อใจเพิ่มขึ้น

จากนั้นหญิงสาวก็ได้โทรมาชักชวนให้ตนลงทุนเพิ่มอีก โดยอ้างว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังทำกำไรได้ดี ต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ และหากได้กำไรครบตามเป้าที่ตั้งเอาไว้แล้วก็จะถอนเงินทั้งหมดออกมาแบ่งกันคนละครึ่ง ทำให้หลงเชื่อโอนเงินเข้าไปซื้อเหรียญเพิ่มอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 150,000 บาท เป็นเงิน 300,000 บาท

นายสมชาย กล่าวว่า หลังจากตนลงทุนเพิ่มในครั้งหลังไปอีก 3 แสนบาท ปรากฎว่าได้กำไรกลับมาถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยยอดเงินในแอปฯ เพิ่มขึ้นไปถึง 14 ล้านบาท ตนเองจึงคิดว่าได้กำไรขนาดนี้แล้วควรจะหยุดเล่น แต่กลับถูกหญิงสาวรายนี้หว่านล้อมหลอกล่อให้ลงทุนเพิ่มอีก เนื่องจากยอดกำไรยังไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ ทำให้ตนชักเริ่มเอะใจ ไม่ลงทุนเพิ่ม

ตนหยุดเทรดไปหลายวัน แต่หญิงสาวรายนี้ก็พยายามทักแชทและไลน์มาคุยตลอดเวลา โดยพยายามโน้มน้าวให้ตนลงทุนอีกครั้ง เพื่อทำยอดกำไรให้ได้เพิ่มตามเป้าแล้วจะหยุดโอนเงินทันที จนกระทั่งวันที่ 6 ก.ค. ตนจึงได้โอนเงินเพิ่มเข้าไปอีกจำนวน 1 ล้านบาท และโอนเพิ่มอีกครั้งเป็นเงินจำนวน 550,000 บาท

ปรากฎยอดเงินในแอปฯ เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงินถึง 28 ล้านบาท ทำให้ตนต้องการถอนเงินออกและหยุดเล่น แต่หญิงสาวรายนี้ยังได้พยายามชักชวนตนให้นำเงินมาลงทุนต่อ โดยบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เหรียญกำลังมีกำไรสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ตนเห็นว่ายอดเงินและกำไรสูงมากแล้วจึงขอหยุด

แต่ถูกหญิงสาวอ้างว่าขอทำเป้าให้ถึง 50 ล้านแล้วจะหยุด ขอให้ตนลงทุนเพิ่มอีก ตนทนหญิงสาวรบเร้าไม่ไหวจึงตัดสินใจโอนเงินอีกครั้งในวันที่ 8 ก.ค. เป็นเงินจำนวน 1.2 ล้านบาท และวันที่ 13 ก.ค. จำนวน 1 ล้านบาท และวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายอีกจำนวน 5 แสนบาท รวมยอดโอน 9 ครั้งเป็นเงิน 4,898,000 บาท

นายสมชาย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นต่อมายอดเงินในแอปฯ ซึ่งตนมาคิดได้ในภายหลังว่าน่าจะเป็นแอปฯ ปลอมที่ถูดหลอกให้ติดตั้งมียอดเงินขึ้นไปถึง 50 ล้านบาท ตนจึงรีบแจ้งให้หญิงสาวหยุดเทรด และให้ถอนเงินออกมาแบ่งกันได้แล้ว

แต่หญิงสาวแจ้งกับตนมาว่า ทางแอปฯ จะอนุมัติให้ถอนเงินออกได้ครั้งละ 5 แสนเหรียญ คือประมาณ 14 ล้านบาท ตนจึงตอบตกลงแต่เมื่อดำเนินการถอนแอปฯ มีข้อความเแจ้งมาว่าให้ชำระภาษีเงินได้จากกำไรทั้งหมดก่อนจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ จึงจะสามารถถอนเงินออกมาได้

ซึ่งเมื่อตนนำยอดกำไรทั้งหมดมาคำนวนจ่ายภาษีดู ก็พบว่าจะต้องจ่ายค่าภาษีถึงจำนวน 8 ล้านบาท ถึงจะถอนเงินจำนวน 50 ล้านบาทออกมาได้ ตนจึงให้หญิงสาวแจ้งกับทางแอปฯ ไปว่าให้หักเงินภาษีออกจากยอดเงิน 50 ล้านแทนได้เลย

แต่หญิงสาวบอกว่าทำไม่ได้ ทางแอปฯ ไม่ยินยอมต้องหาเงินจำนวน 8 ล้านบาทมาจ่ายภาษีก่อนเท่านั้น ซึ่งตนก็หมดเงินเก็บที่มีทั้งหมดไปแล้ว แต่กลับถูกหญิงสาวรายนี้ให้ไปจำนองบ้านหรือกู้ยืมเงินนอกระบบมาจ่ายค่าภาษีที่ค้างอยู่ จึงทำให้ตนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการหลอกลงทุนเทรนด์เหรียญ จึงได้ลองหาข้อมูลในโซเชียลพบว่ามีกลโกงแบบนี้เป็นจำนวนมาก

จากนั้นเมื่อหญิงสาวรายนี้เห็นว่าตนคงไม่สามารถหาเงินอีกจำนวน 8 ล้านบาทมาได้ จึงบล็อกการติดต่อตนทุกช่องทาง ตนจึงได้ตัดสินใจไปเข้าแจ้งความในเบื้องต้น แต่คดีไม่คืบ จึงได้ติดต่อขอคำปรึกษาจากผู้สื่อข่าว เพื่อให้นำเรื่องราวของตนเป็นอุทาหรณ์เตือนใจนักลงทุนหน้าใหม่ทั้งหลายที่หวังจะหารายได้ทางนี้ รวมถึงภัยจากมิจฉาชีพในโลกโซเซียลที่แฝงตัวมาทำให้เชื่อใจหรือหลอกเอาทรัพย์สินด้วยกลวิธีต่างๆ

นอกจากนี้ ตนยังได้เตรียมเข้าปรึกษาทนาย เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความชำนาญในเรื่องนี้ ให้ตรวจสอบบัญชีที่ตนได้โอนเงินไปลงทุนซื้อเหรียญ เพื่อตามหาตัวหญิงสาวรายนี้ต่อไป ตนไม่คิดว่าเงินเก็บที่เก็บมาทั้งชีวิตเพื่อใช้ในช่วงปั้นปลายของชีวิต จะมาถูกมิจฉาชีพในคราบหญิงสาวหลอกให้ลงทุนไปจนหมดแบบนี้

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ อึ้ง คุณตาวัย 70 ถูกมิจฉาชีพใช้รูปสาวสวย ชวนลงทุนเหรียญคริปโต สูญเงิน 4.8 ล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook