คุมตัวสาวทอมฆ่าปาดคอ "เจ๊แดง" เจ้าของร้านชำ อ้างป้องกันตัวเพราะจะโดนแทงก่อน

คุมตัวสาวทอมฆ่าปาดคอ "เจ๊แดง" เจ้าของร้านชำ อ้างป้องกันตัวเพราะจะโดนแทงก่อน

คุมตัวสาวทอมฆ่าปาดคอ "เจ๊แดง" เจ้าของร้านชำ อ้างป้องกันตัวเพราะจะโดนแทงก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุมตัวสาวทอมฆ่าปาดคอ "เจ๊แดง" เจ้าของร้านชำ อ้างป้องกันตัวเพราะจะโดนแทงก่อน ไม่บอกชุดที่ใส่วันเกิดเหตุอยู่ไหน แต่มีดทิ้งแม่น้ำไปแล้ว

(7 ก.ค.65) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บำรุงสวัสดิ์ ผกก สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬว่า เมื่อคืนนี้ได้ควบคุมตัว น.ส.น้อยหน่า อายุ 24 ปีสาวทอมคนสนิทเจ๊แดงผู้ตาย มาสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยในคืนเกิดเหตุเพราะเป็น 1 ใน 3 คนที่นั่งดื่มกินบนม้าหินอ่อนข้างบ้านและใกล้หน้าต่างที่เจ๊แดงนอนพักอยู่บนโซฟา

น้อยหน่าได้เล่าเหตุการณ์ก่อนมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นว่า หลังจากที่นั่งดื่มกินด้วยกันกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งหมด ตนเองได้ขอยืมรถจักรยานยนต์เจ๊แดงออกไปธุระ ขณะนั้นเวลาประมาณ 21:30 น และได้กลับมาอีกทีประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พอกลับมาที่บ้านเจ๊แดง ไม่พบเพื่อนอีก 2 คนที่นั่งกินด้วยกันจึงได้เข้าไปในบ้านเจ๊แดงเพื่อคืนลูกกุญแจรถ ถูกผู้ตายต่อว่าจึงเกิดการโต้เถียงทะเลาะเกิดขึ้น โดยผู้ตายโมโหได้คว้ามีดแหลมจะมาแทงตนจึงได้เกิดการต่อสู้แย่งมีดกันขึ้น

เมื่อแย่งมีดกลับคืนมาได้จึงผลักล้มลงไปนอนบนโซฟา แล้วได้ใช้มีดปาดคอตายดังกล่าว จากนั้นก็ได้ขึ้นไปชั้นบนบ้านเพื่อค้นหาทรัพย์สินของมีค่า และก็ได้ลงมาถอดแหวนของผู้ตายไป 1 วงส่วนอีกวงถอดไม่ได้แล้วก็ปีนออกหน้าต่างไป จากนั้นได้ปั่นจักรยานนำมีดปลายแหลมไปทิ้งลงแม่น้ำฮี้ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร

และเมื่อวานนี้ได้นำเอาแหวนของผู้ตายมาโยนทิ้งไว้ข้างโซฟาที่พบศพเจ๊แดง ก็ทำให้เป็นที่สงสัยและผิดสังเกตของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากวันที่เกิดเหตุที่พบศพเจ๊แดงนั้นทุกคนก็ได้ตรวจค้นหาทรัพย์สินทุกอย่างในที่เกิดเหตุและใกล้เคียงแล้วว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่ตกหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ไม่พบแหวนวงดังกล่าว ซึ่งมาพบเอาเมื่อวานนี้เองเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก จึงคาดว่ามีคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้เป็นคนนำแหวนวงนี้มาทิ้งเอาไว้ ซึ่งไม่น่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยรายที่ถูกควบคุมตัวมาก่อนหน้านี้ แล้วเป้าหมายจึงเปลี่ยนเป็นมาหากลุ่มผู้นั่งดื่ม 3 คน ก่อนพบศพเจ๊แดงนั่นเอง

ส่วนวันนี้ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ เหนือโพธิ์ทอง พนักงานสอบสวน จะได้นำหลักฐานที่ทาง พฐ.บึงกาฬมาตรวจหา DNA ซึ่งมีแหวน 1 วง แล้วก็เส้นผมนำเข้าไป พฐ.ภาค 4 เพื่อเปรียบเทียบกับ DNA ของผู้ต้องสงสัยตามหลักนิติวิทยาศาสตร์

แหวนที่เพิ่งพบในที่เกิดเหตุ

ขณะนี้ชุดสืบสวน ตร.ภ.4 กำลังสอบ น.ส.น้อยหน่า เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากที่อ้างว่าวันเกิดเหตุได้ใส่เสื้อสีแดงกางเกงขาสั้น เพื่อนำมาประกอบเป็นพยานหลักฐานในคดี ส่วนมีดปลายแหลมที่ใช้เชือดคอนั้นตำรวจก็จะใช้นักประดาน้ำมาช่วยงมหามีดที่สาวทอมอ้างทิ้งลงไปในลำห้วยฮี้ ซึ่งขณะนี้มีน้ำไหลหลากมากเนื่องจากเป็นหน้าฝนน้ำก็ไหลลึกจึงเป็นอุปสรรคในการค้นหา แต่อย่างไรหากผลตรวจของทางนิติศาสตร์ออกมาตรงกับผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้ว ก็จะไม่มีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่า ขณะนี้ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับสาวทอมรายนี้แต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะไปขออนุญาตศาลออกหมายจับ เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

หลังจากที่ชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดบึงกาฬและภูธรภาค 4 ได้ควบคุมตัวสาวทอมนางสาวน้อยหน่าคนสนิทเจ๊แดงผู้ตายมาสอบสวนเนื่องจากในคืนวันที่เกิดเหตุสาวทอมกับเพื่อนอีก 2 คนรวมเป็น 3 คนนั่งดื่มกินอยู่ที่ข้างบ้านของผู้ตาย เนื่องจากพบพิรุธจากรอยเท้าเปื้อนเลือดขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 และแหวนที่ว่าหายไปมีคนนำมาคืนทิ้งไว้ในพื้นบ้านข้างโซฟาพบศพเจ๊แดงเมื่อวานนี้ จึงได้ควบคุมตัวสาวทอมซึ่งเป็นผู้ที่ต้องสงสัยมาสอบสวน เบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพ ว่าหลังจากนำกุญแจรถมาคืนเจ๊แดงได้เกิดการทะเลาะโต้เถียงกันขึ้น ทำให้เจ๊แดงโมโหจึงได้คว้ามีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบมาเพื่อจะทำร้ายตนได้แย่งมีดคืน แล้วก็ใช้ปาดคอเจ๊แดงจนเสียชีวิตดังกล่าวซึ่งเป็นการป้องกันตัว

ล่าสุด บ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่พยายามหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อจะมามัดตัวสาวทอม และเพื่อขออนุญาตศาลออกหมายจับ แล้วพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหาฆ่าคนตาย แต่สาวทอมไม่ยอมปริปากว่านำเสื้อสีแดงที่ใส่วันนั้นและกางเกงขาสั้นเปื้อนเลือดไปทิ้งที่ไหน แต่ยอมบอกแค่ว่ามีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุได้โยนทิ้งลงแม่น้ำฮี้แล้ว จึงได้ช่วยกันไปค้นหาและได้ประสานนักประดาน้ำเพื่อลงงมหา แต่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ เนื่องจากมีฝนตก และน้ำลึกกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก จึงยังไม่สามารถลงงมหามีดของกลางดังกล่าวได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook