จับเพิ่ม! สมุนสันติ ร่วมฆ่า 2 สามีภรรยาที่ไต้หวัน

จับเพิ่ม! สมุนสันติ ร่วมฆ่า 2 สามีภรรยาที่ไต้หวัน

จับเพิ่ม! สมุนสันติ ร่วมฆ่า 2 สามีภรรยาที่ไต้หวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตร.แถลงรวบอีก 1 ผู้ต้องหา สมุน “สันติ” ร่วมฆ่า 2 สามีภรรยาที่ไต้หวัน เบื้องต้นรับสารภาพ แต่ปัดลงมือฆ่า ด้านญาติผู้เสียชีวิตไม่เชื่อพัวพันยาเสพติด

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงถึงความคืบหน้า คดีฆาตกรรมอำพราง 2 สามีภรรยา ที่ไต้หวัน ภายหลัง นายสันติอายุ 35 ปี ผู้ต้องหา มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผลต่อที่กองปราบปราบ และถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ก่อนส่งไปควบคุมต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าใช้ท่อนไม้ตีศีรษะของทั้งสองจนถึงแก่ความตาย จากนั้นทั้ง 3 คนได้เดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกัน โดยได้จองตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้าแล้ว

ภายหลังออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีก 2 ราย เป็นลูกน้องนายสันติ จากการตรวจสอบพบว่า คือ นายสามารถ อายุ 33 ปี และนายธนวัฒน์ อายุ 32 ปี ทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง

โดยล่าสุดในวันนี้ 19 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ได้นำกำลังลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ต.ดงมูลอ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เบื้องต้นในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกับนายสันติ และพวกอีก 1 คน ก่อเหตุใช้ท่อนเหล็กตี สองสามีภรรยาจนเสียชีวิต หลังจากนั้นจึงนำศพขึ้นรถเก๋งไปทิ้ง ก่อนจะหลบหนีกลับมาในราชอาณาจักร และมากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และถูกจับกุมในเวลาต่อมา แต่ไม่ใช่คนลงมือฆ่า ซึ่งนายธนวัฒน์ ได้บอกแล้วว่าใครเป็นคนลงมือ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย

พล.ต.ท.จิรภพ ยังกล่าวถึงการแบ่งหน้าที่ของทั้ง 3 คนว่า นายสันติเป็นคนว่าจ้างให้นายธนวัฒน์และนายสามารถ ร่วมก่อเหตุ โดยจะให้ค่าจ้างจำนวน 500,000 บาท แต่มัดจำก่อน 20,000 บาท หลังจากก่อเหตุวันที่ 8 มิ.ย. นายสันติเดินทางกลับประเทศไทยวันที่ 9 ก่อนที่จะให้ผู้ต้องหาอีก 2 ราย เดินทางกลับในวันที่ 11 มิ.ย. แล้วไปกบดาน

สำหรับปมฆาตกรรม พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า ตอนนนี้พุ่งประเด็นไปเรื่องของความขัดแย้งระหว่างนายสันติกับผู้เสียชีวิตเป็นหลัก ส่วนเหตุผลนั้นยังไม่ขอเปิดเผย ส่วนผู้ก่อเหตุอีกหนึ่งราย ที่ยังหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

เมื่อถามว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว จะมีการส่งตำรวจไปที่ไต้หวันหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการและจัดทีมไว้แล้ว เบื้องต้นมีตำรวจ 6 คน ที่จะเดินทางไปสางคดีที่ไต้หวัน ส่วนการดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรม ยืนยันว่าดำเนินคดีที่ประเทศไทย ส่วนในข้อหาอื่นๆเช่นการอำพรางศพ ต้อง ดำเนินคดีที่ไต้หวัน ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้ต้องจะมีการพัวพันกับยาเสพติดหรือไม่นั้น ต้องสอบขยายผลต่อไปอย่างละเอียด

ขณะเดียวกัน นายตี๋ ญาติของผู้เสียชีวิต ได้เข้ามอบกระเช้าเพื่อขอบคุณทางตำรวจ ก่อนจะเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงการดำเนินคดีว่าอยากให้ดำเนินคดีในไทยหรือไต้หวัน ว่าให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เชื่อว่ากฎหมายบ้านเราศักดิ์สิทธิ์ ส่วนผู้ต้องหาอ้างว่าน้องสาวของตนเกี่ยวพันกับสิ่งผิดกฎหมายหรือธรุกิจมืดหรือไม่ นายตี๋ ระบุว่า ส่วนตัวไม่ปักใจเชื่อ เพราะน้องสาวของตนนั้นเป็นคนขยัน เป็นคนที่เก็บหอมรอมริบ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ทำมาหากิน ไม่จำเป็นน้องทำแบบนี้เพราะมองว่ารายได้มีเยอะพอสมควรแล้ว

สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจในการสอบสวน ทางอัยการสูงสุดมีการตั้งทีมแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ นอง ผบก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจมีหน้าที่ในการสอบสวน เมื่อมีความคืบหน้าแล้วก็จะนำเรียนต่ออัยการสูงสุด ตอนนี้ยังไม่ได้รายงานไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook