ดราม่าสินสอด 99,999 อลเวงไม่หยุด ตัวละครใหม่โผล่แฉเจ้าบ่าว เคยอนาจารสาวทอม
ดราม่าสินสอด 99,999 ยังอลเวงไม่หยุด ตัวละครใหม่โผล่แฉเจ้าบ่าว เคยอนาจารสาวทอม ตำรวจบอกหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิด
จากกรณี เหตุการณ์ตะลุมบอนกลางงานแต่งงาน ที่ จ.เลย ที่ครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวเตรียมงานไว้เสร็จสรรพแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาฤกษ์ เจ้าบ่าวมาช้ากว่าเวลาหลายชั่วโมง แถมเมื่อยกขันหมากมา จำนวนเงินสินสอดไม่ตรงที่ตกลงกันไว้ที่ 99,999 บาท เจ้าบ่าวนำเงินมาเพียง 10,000 บาท อีกทั้งช่วงที่ต้องผ่านประตูเงินประตูทอง ก็ยังยื่นซองเปล่าที่ไม่มีเงิน ทำให้ฝ่ายครอบครัวเจ้าสาวไม่พอใจอย่างมาก จนมีปากเสียงกัน ลุกลามบานปลายถึงขั้นถึงขั้นลงมือทำร้ายกัน
- ชุลมุนกลางงานแต่ง สินสอด 99,999 บาท เจ้าบ่าวเอามาแค่ 1 หมื่น ญาติตีกันเละ
- เปิดใจเจ้าบ่าวหมื่นเดียว ยกขันหมากไปช้าเพราะสินสอดไม่ครบ วอนฝั่งเจ้าสาวฟังเหตุผล
มาวันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้า หลังมีนางอ้อย อายุ 49 ปี แม่ของ นางสาวน้ำฝน (สาวทอม) วัย 27 ปี ร้องขอความเป็นธรรมว่า นายนิวัฒน์ชัย หรือ ตูมตาม อายุ 31 ปี (เจ้าบ่าว) มีประวัติพฤติกรรมอนาจารข่มขืนลูกสาวของตนเอง มีการแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า และผู้เสียหายถูกบ่ายเบี่ยงการรับผิดชอบจากครอบครัวตูมตามมาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง ต.น้ำสวย อ.เมืองเลย บ้านของผู้เสียหาย พบกับนางอ้อย (นามสมมติ) แม่ผู้เสียหาย เปิดใจว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 64 ตูมตามได้มากับเพื่อนผู้ชายอีก 3 คน มานั่งกินเหล้าขาวกับลูกสาว และเพื่อนของลูกสาว 2 คน ซึ้งลูกสาวตนเอง และเพื่อนลูกสาว (เป็นทอม) จึงมานั่งเล่น นั่งกินเหล้าขาวกัน จนถึงเวลา 2 ทุ่ม ตกเที่ยงคืนตนเองจัดเตรียมเพื่อจะไปกรีดยาง ได้เดินตามหาลูกสาวให้ไปนอน พอมาดูที่ม้านั่งข้างบ้านจุดที่นั่งกินเหล้า ไม่เจอลูกสาวและเพื่อนคนอื่นๆ เจอเพียงแค่เพื่อนของตูมตามนั่งอยู่คนเดียว จึงถามหาว่าลูกสาว เพื่อนตูมตามบอกน่าจะออกไปซื้อของกันข้างนอก ตนเองเอะใจเพราะโทรศัพท์ของลูกสาวตั้งอยู่
ไม่นานตนเองได้ยินเสียงผู้ชายร้องอยู่บริเวณป่ากล้วยหลังบ้าน จึงเดินไปดูใช้ไฟฉายคาดศีรษะส่องหาไปตามเสียงร้อง พบว่าตูมตามกับลูกสาวอยู่ด้วยกันในสภาพเปลือยกายทั้งคู่แล้ว ตูมตามยังบอกว่า “อย่าส่องไฟ อย่าส่องไฟ” ตนเองจึงรีบเรียกญาติๆ ออกมาจากบ้าน พร้อมกับเรียกตูมตามและลูกสาวให้ออกมาพูดคุยกัน
ซึ่งขณะที่พูดคุยกันทางลูกสาวอยู่ในสภาพที่เมาหนักมาก พูดจาอะไรไม่ได้เลย ส่วนตูมตามได้แต่ปฏิเสธทุกการกระทำ กล่าวอ้างว่าไม่ได้ข่มขืนลูกสาว เพราะลูกสาวเป็นทอม มีนิสัยเป็นผู้ชาย จะไปข่มขืนกันได้อย่างไร ไม่มีทางอย่างแน่นอน ซึ่งตนเองรู้สึกเสียดายมากที่ไม่ได้ถ่ายเก็บหลักฐานไว้
ต่อมาตนเองและครอบครัว ได้ให้ทางผู้ใหญ่กำนันไปพูดคุยกับครอบครัวของตูมที่บ้านทันที เพื่อให้ออกมารับผิดชอบในสิ่งกระทำ ขณะที่พูดคุยกันทางแม่ของตูมตามบอกว่าจะเคลียร์และรับผิดชอบให้ทุกอย่าง จะจ่ายเงินค่าเสียหายให้ 25,000 บาท แต่จะขอจ่ายทีละครั้ง ต้นเดือนตุลาคม 1 ครั้ง กลางเดือนตุลาคมอีก 1 ครั้ง เพราะลูกชายคนสุดท้องที่ทำงานอยู่ญี่ปุ่นจะส่งมาให้ จนสุดท้ายก็ไม่ตรงกันตามที่นัดหมาย
ผ่านไป 3-4 เดือน ตนเองโทรศัพท์ไปถามเรื่องค่าเสียหายที่พูดคุยกัน ปรากฏว่าแม่ของตูมตามบอกว่า “ไม่มีจะจ่ายแล้ว ถ้าอยากจะฟ้องก็ไปฟ้องเอา” ตนเองรู้สึกแปลกใจกับคำพูดคุยของคนเป็นแม่ด้วยกันมาก ว่าทำไมถึงไร้การรับผิดชอบแบบนี้ บ่ายเบี่ยงไปแบบง่าย ๆ ตอนนี้ตนเองไม่ขอเงินคืน แต่อยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ตนเองแจ้งความไปที่ สภ.นาดินดำ คดียังไม่คืบหน้า ทำให้ตนเองรู้สึกว่าเกิดเรื่องเรื่องแบบนี้ขึ้นทำไมยังปล่อยให้ลอยนวลได้
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ร.ต.อ.นิรภัฎ อยู่งาน รอง (สว.สอบสวน) สภ.นาดินดำ จ.เลย เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เรื่องที่ทางครอบครัวของผู้เสียหายได้แจ้งความ เมื่อการสอบปากคำผู้เสียหาย และเพื่อนผู้เสียหายแล้ว ต้องยุติทางคดีลง เพราะไม่มีหลักฐานเหตุการณ์เกิดขึ้น และไม่มีพยานในความผิดที่เกิดขึ้น ทางคดีจึงไม่มีน้ำหนักมากพอ