ปริญญ์ โผล่รับทราบข้อหาอนาจารที่เชียงใหม่ ทนายเผยจ่อเช็กบิลคนให้การเท็จ

ปริญญ์ โผล่รับทราบข้อหาอนาจารที่เชียงใหม่ ทนายเผยจ่อเช็กบิลคนให้การเท็จ

ปริญญ์ โผล่รับทราบข้อหาอนาจารที่เชียงใหม่ ทนายเผยจ่อเช็กบิลคนให้การเท็จ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ปริญญ์" เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีอนาจารสาวที่เชียงใหม่ ผู้เสียหายอ้างชวนสัมมนาก่อนลวงเข้าห้องลวนลาม ตำรวจยันมีพยานหลักฐานเชื่อก่อเหตุจริง พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะทนายเผยเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมเอาผิดคนให้การเท็จ

วันนี้ (3 พ.ค.) เวลา 09.30 น. นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับทีมทนายความ เดินทางไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกหญิงสาววัย 25 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีโดยตรงกับ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาอนาจาร เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2564

ทั้งนี้ การเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ มีลูกชายของนายปริญญ์มารอให้กำลังใจที่โรงพักด้วย ซึ่งนายปริญญ์มีสีหน้าเรียบเฉย ลงจากรถและขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนทันที

พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คดีนี้แม้จะเกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ปีที่แล้ว แต่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุซึ่งเป็นโรงแรมกึ่งรีสอร์ทแห่งหนึ่งในตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จนเชื่อว่ามีมูลในการก่อเหตุจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาทำอนาจารผู้อื่นต่อหน้าธารกำนัล

หลังแจ้งขอกล่าวหาแล้วพนักงานสอบสวนจะขออำนาจศาลออกหมายขังและคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมก่อคดีลักษณะนี้ในหลายพื้นที่ ซึ่งการให้ประกันตัวเป็นอำนาจของศาล คดีนี้ไม่หนักใจอะไร เนื่องจากเป็นการทำคดีตามกระบวนการ ส่วนผู้เสียหายยังใช้ชีวิตตามปกติมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตลอด ซึ่งทางตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้หากมีการร้องขอ

ก่อนหน้านี้ เหยื่อสาววัย 25 ปี ร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายปริญญ์ ที่เคยก่อเหตุลวนลามเธอเมื่อต้นปี 2564 โดยบอกว่าเมื่อสองปีก่อน เธอรู้จักกับผู้ก่อเหตุในงานสัมมนาที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาทักทายพูดคุยด้วย ซึ่งด้วยโปรไฟล์ผู้ก่อเหตุเป็นคนมีชื่อเสียงเธอจึงพูดคุยด้วยและแลกเบอร์โทรศัพท์ พร้อมกับมีไลน์คุยกัน

ต่อมาเมื่อต้นปี 2564 ผู้ก่อเหตุโทรมาหาบอกว่าจะมีการสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจและเงินสกุลดิจิทัลที่เชียงใหม่ ซึ่งเธอมีความสนใจจึงตอบตกลงและนัดกับผู้ก่อเหตุเจอกันที่โรงแรมที่จะจัดงาน แต่เมื่อไปถึงที่โรงแรมกลับไม่พบว่ามีการจัดงาน เธอจึงโวยวายและพูดเสียงดังซึ่งผู้ก่อเหตุก็พยายามทำท่าทางให้เธอเบาเสียงลง และทำทีโทรหาคนจัดงานเพื่อให้ตายใจ ก่อนจะอ้างว่าคนจัดงานให้ไปรอที่ห้องพักภายในโรงแรมก่อน ซึ่งเธอก็หลงเชื่อเดินตามไปเพื่อไปรอ

แต่ระหว่างรอนั้นผู้ก่อเหตุก็พยายามชวนพูดคุยเรื่องการศึกษาก่อน หลังจากนั้นเริ่มพูดคุยเรื่องเพศสัมพันธ์ถามว่าเคยมีแฟนไหม เธอบอกว่าไม่มี ก่อนจะจับมือของเธอไปดูลายมือซึ่งเธอก็ตกใจมากที่จู่ๆ มาจับมือตนเองโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว บอกว่าลายมือดี วาสนาดี จากนั้นก็ขยับมานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเข้ามาจูบปากเธอ ซึ่งทำให้ตกใจมาก จึงรีบลุกและใช้มือขยี้ปากอย่างขยะแขยง แล้วรีบลุกขึ้นเปิดประตูวิ่งออกมาที่ลานจอดรถเพื่อจะขับรถกลับ ซึ่งจะร้องให้คนช่วยไม่ได้เพราะกลัวว่าจะมีลูกน้องของผู้ก่อเหตุอยู่ในบริเวณนั้น

เมื่อถึงลานจอดรถ ผู้ก่อเหตุก็ตามจนทันและเข้ามาหอมแก้มไปอีกทีหนึ่ง เธอตกใจมากจึงรีบขึ้นรถเพื่อขับกลับบ้านและมาเล่าให้ครอบครัวฟังถึงเรื่องดังกล่าวเพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของชายคนนี้ จึงได้แต่เก็บไว้เรื่อยมาเพราะเขาเป็นคนมีชื่อเสียงไปบอกใครก็จะไม่มีใครเชื่อ

หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุยังโทรมาหาเธออีก ซึ่งเธอได้บล็อกเบอร์โทรไป แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ละความพยายามใช้เบอร์ใหม่โทรมาหาเธออยู่เรื่อยๆ รวมแล้วประมาณ 5 เบอร์ ซึ่งเธอบล็อกเบอร์ไปทั้งหมดแล้ว ทุกวันนี้เธออยู่อย่างหวาดระแวงเมื่อมีเบอร์แปลกๆ โทรมา กระทั่งมีคนออกมาเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้น เธอจึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยความจริงในฐานะหนึ่งในผู้เสียหาย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้หญิงทุกคน โดยต้องการให้ผู้ก่อเหตุออกมารับความจริงว่าได้ก่อเหตุจริง กล้ารับแบบลูกผู้ชาย อย่ามองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนที่ไปหาเขานั้นจะชอบเขาทุกคน ที่เขาไปหานั้นเพราะความเชื่อถือเรื่องงาน เรื่องความรู้ เรื่องที่น่าสนใจมาหลอกล่อ จึงทำให้ผู้หญิงทุกคนต้องตกเป็นเหยื่อ ตนจึงขอออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง ยืนยันว่าสำหรับเรื่องของตนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองแน่นอน

ขณะที่ทนายความของนายปริญญ์ กล่าวในการเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ว่า นายปริญญ์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา รวมทั้งได้มอบเอกสารสำคัญให้กับพนักงานสอบสวนพิจารณา ตอนนี้ทีมกฎหมายกำลังรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญในทุกคดี และจะนำข้อมูลสำคัญมาพิจารณาว่าผู้กล่าวหารายใดที่ให้การไม่ตรงกับความจริง ก็จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้รอบคอบมากที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook