น้ำท่วมสิชล ทหารแบกโลงศพหนีน้ำทุลักทุเล ชาวบ้านต้องปีนขึ้นต้นไม้-หลังคา

น้ำท่วมสิชล ทหารแบกโลงศพหนีน้ำทุลักทุเล ชาวบ้านต้องปีนขึ้นต้นไม้-หลังคา

น้ำท่วมสิชล ทหารแบกโลงศพหนีน้ำทุลักทุเล ชาวบ้านต้องปีนขึ้นต้นไม้-หลังคา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วม อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ทหารแบกโลงศพหนีน้ำทุลักทุเล ชาวบ้านต้องปีนขึ้นหลังคา-ต้นไม้หนีตาย

(5 มี.ค.65) ช่วงเช้าที่ผ่านมาบนถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ช่วงตำบลทุ่งใส-ตำบลเขาฝ้าย อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากฝนตกต่อเนื่องถึง 3 วัน น้ำป่าปริมาณมหาศาลทะลักจากเทือกเขาในท้องที่ตำบลสี่ขีด ตำบลฉลอง ไหลหลากเข้าท่วมในหลายหมู่บ้านโดยเฉพาะเส้นทางจากอำเภอสิชล มุ่งหน้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำท่วมสูงเป็นระยะทางราว 1 กิโลเมตรรถยนต์ทุกชนิด ไม่สามารถใช้การได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล ได้เข้าอำนวยความสะดวกและแจ้งเส้นทางหลบเลี่ยงเป็นเส้นทางเลียบชายทะเลจากอำเภอสิชลเข้าสู่อำเภอขนอม ก่อนที่จะออกสู่อำเภอดอนสักเข้าสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยขณะนี้ทหารจากกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 อำเภอสิชล ซึ่งกองร้อยได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ได้ส่งกำลังพลออกให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับสถานการณ์ฝนที่ตกอย่างหนักตลอด 2-3 วันที่ผ่านมาปริมาณฝนได้ตกหนักในพื้นที่ป่าเขาอย่างต่อเนื่อง และจนถึงขณะนี้ปริมาณฝนยังคงตกอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะริมธารน้ำเชิงเขาเร่งอพยพเนื่องจากยังมีปริมาณน้ำป่าไหลลงอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับบริเวณลำน้ำท่าดี ในหุบเขาคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำป่าได้เริ่มหลากลงจากเทือกเขาหลวงในเขตอำเภอลานสกา ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นน้ำสีจุ่นแดง โดยน้ำป่าที่หลากลงมาในขณะนี้กำลังไหลมุ่งหน้าเขตเมืองนครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงรองรับน้ำได้ สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงฤดูแล้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2554 หรือเมื่อ 10 ปีก่อนได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงมาแล้ว และขณะนี้ปริมาณฝนสภาพอากาศมีความคล้ายคลึงกับสถานการณ์ในครั้งนั้นอย่างมาก

กำลังพลจากกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พยายามโยงเชือกไปยังสวนมังคุดในท้องที่หมู่ 6 ตำบลเสาเภา อำเภอสิชล ท่ามกลางระดับน้ำที่สูงกว่า 2 เมตร หลังจากพบว่าในสวนมังคุดมีชาวบ้านติดอยู่กับต้นมังคุด 2 ราย เป็นหญิง 1 รายและชายชรา 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือทั้งคู่ไว้ได้อย่างปลอดภัย โดยทั้งสองรายถูกกระแสน้ำพัดไปติดอยู่กับสวนผลไม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือโดยการลอยคอโยงเชือกเข้าไปโยงแล้วเกาะเชือกออกมา

ขณะเดียวกันกำลังอีกชุดปฏิบัติการได้เข้าให้การช่วยเหลืองานบำเพ็ญกุศลศพในพื้นที่หมู่ 5 บ้านใสตาโคตร ตำบลเสาเภา อำเภอสิชล โดยได้เข้าแบกหีบศพเคลื่อนย้ายร่างของ นางสาวหนูนุ้ย อายุ 75 ปี ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในหีบออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างทุลักทุเล เจ้าหน้าที่แบกหีบลุยน้ำบางช่วงสูงกว่า 1 เมตร จากนั้นย้ายนำไปบำเพ็ญกุศลศพต่อที่วัดนาแล ตำบลเสาเภา ซึ่งเป็นพื้นที่สูงน้ำท่วมไม่ถึงก่อนที่จะถึงกำหนดการฌาปนกิจ

ที่ ม.6 บ้านไสข้าว อ.สิชล นครศรีธรรมราช นายสุพจน์ พูลสวัสดิ์ นายกอบต.สิชลและนางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.ในพื้นที่ ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากทหาร ปภ. ตร.และมูลนิธิใต้เต็กตึ้ง ให้เข้าไปช่วยเหลือเด็กซึ่งหนีน้ำมาติดอยู่บนหลังคาบ้านในสวนปาล์ม จนท.ได้นำเรือยางเข้าไปการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พบว่าเด็กทั้งหมดติดค้างอยู่เนื่องจากกระแสน้ำมาเร็วและแรงมากไม่สามารถอยู่ในบ้านได้ จึงว่ายน้ำหนีตายออกมาจากขนำแล้วมาเกาะต้นปาล์ม

นางจินดา ทองสมยา อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.6 ต.สิชล เล่าว่า ตนเองพร้อมกับหลาน 2 คนอายุ 13 ปี และเด็กหญิงอายุ 8 ปี อยู่ในบ้านแต่น้ำหลากมาอย่างเร็วและแรงมากตั้งแต่ตี 5 หลังจากนั้นได้หนีออกมาจากบ้านมาเกาะบนต้นปาล์มจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้ 

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ ปภ.ระบุว่า ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งติดค้างอยู่ภายในหมู่บ้าน ม.6 จนท.ได้เร่งติดตามเข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว และขระนี้ได้แจ้งเตือนว่ายังมีปริมาณฝนที่ยังตกต่อไปอีกระยะหนึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณน้ำป่าที่จะหลากลงมาอีกระลอก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook